ผู้ช่วยครูผู้ทรงคุณค่า...
อันนี้คงไม่ใช่ชื่อตำแหน่งแต่อย่างใด เป็นโครงการหนึ่งของสพฐ.ที่ดำเนินการมาหลายปีแล้ว โดยกำหนดอัตรา(จำนวนครู)ให้เขตพื้นที่ฯในแต่ละปีงบประมาณ ซึ่งแต่ละเขตฯจะได้รับจัดสรรไม่มากนัก
ภายใต้ชื่อที่รู้จักกันดีว่า “ครูผู้ทรงคุณค่า” เมื่อเขตฯจัดสรรงบประมาณให้โรงเรียนจัดจ้างครู โรงเรียนก็ต้องสรรหาตามหลักเกณฑ์ ประเด็นสำคัญก็คือครูที่จะสมัครมาสอนนั้นต้องเกษียณอายุราชการแล้ว
สพฐ.ให้ค่าตอบแทนไม่มาก แต่ครูในบ้านผม ที่เกษียณอายุราชการก่อนผม ๑ ปีสนใจเป็นพิเศษ เขตพื้นที่ฯก็ดูเหมือนจะรู้ใจ จัดสรรให้โรงเรียนบ้านหนองผือ ๑ คน ผมก็เลยต้องทำหน้าที่พลขับรับส่งตามระเบียบ
วันนี้..ทำงานวันแรก พอถึงโรงเรียน..จากพลขับก็ปรับเปลี่ยนเป็นครูผู้สอนในทันทีทันใด จากที่ผมเคยสอนชั้นป.๓ มาอย่างยาวนาน ก็เลยไม่ต้องอารัมภบท ไม่ต้องจดๆจ้องๆ แต่ประการใด ว่ากันตั้งแต่เช้ายันเย็น
ผมบอกครูผู้ทรงคุณค่าตัวจริงว่า...เธอจะสอนวิชาใดก็ว่าไป แต่เราขอให้เธอช่วยเน้นคณิตศาสตร์ให้มากๆ เพราะนักเรียนส่วนใหญ่จะอ่อนในวิชานี้
ส่วนผมขอรับหน้าที่พัฒนาความสามารถทางภาษาของนักเรียน ให้อ่านออกเขียนได้ จุดหมายปลายทางก็คือต้องการให้นักเรียนชั้น ป.๓ รุ่นนี้อ่านคล่องเขียนคล่องและลายมือสวย
ส่วนภารกิจสำคัญที่รออยู่ อีก ๒ เดือนข้างหน้า จะรอช้าไม่ได้เลย เนื่องจากนักเรียนป.๓ ต้องเข้าทดสอบระดับชาติ (NT) มี ๒ วิชาที่ต้องสอบ คือ คณิตศาสตร์กับภาษาไทย งานนี้ก็เลยถือว่ามาถูกที่ถูกเวลากันเลยทีเดียว
หลังจากที่ผมทิ้งการสอนไปอยู่โคกหนองนาพักใหญ่ วันนี้กลับมาช่วยสอนอย่างสบายใจไร้กังวล เป็นการทำงานหน้าเดียวที่รู้สึกปลอดโปร่ง ไม่มีเงื่อนไขให้ต้องคิดใคร่ครวญ ว่ากันไปตามกระบวนการงานของครู
ผมพยายามสอนให้นักเรียนได้ฟัง พูด อ่าน และเขียน ในลักษณะทักษะสัมพันธ์ เวลาให้นักเรียนอ่านคำและอ่านเรื่องราวเสร็จแล้ว จะให้นักเรียนนำคำที่น่าสนใจมาแต่งประโยคใหม่อีกครั้ง
การเขียนตามคำบอกก็ไม่เคยละทิ้ง การทำแบบฝึกหัดก็ต้องให้สะอาดเรียบร้อยทุกครั้ง เป็นเรื่องที่ต้องเน้นย้ำอยู่เสมอ นักเรียนเขียนผิดก็จะต้องให้แก้ไขทันที ไม่ให้ผ่านเลยไปง่ายๆ
การท่องอาขยานบทหลักและบทรอง วันนี้ต้องรื้อฟื้นกันนิดหน่อย พอเครื่องร้อนได้สักพัก ทั้งครูและนักเรียนก็สนุกสนานเป็นการใหญ่ สุดท้ายก็มาถึงการฟัง ผมเล่าเรื่องจากหนังสือให้นักเรียนฟัง ชื่อเรื่อง...ผึ้งน้อย
เวลาเล่าเรื่องผมจะให้นักเรียนดูภาพประกอบไปทีละหน้า เพื่อเร้าความสนใจ ขณะที่เล่าเรื่อง(อ่าน) ผมจะมีท่าทางเคลื่อนไหวประกอบ นักเรียนจะได้ไม่เบื่อและจะสนทนาซักถามนักเรียนไปด้วย
เสร็จแล้วก็นำคำจากเรื่อง “ผึ้งน้อย”มาเขียนบนกระดาน ให้นักเรียนอ่านและเขียนลงสมุดทุกคำ แล้วบอกนักเรียนให้นำคำไปเขียนเรื่อง ”ผื้งน้อย” จำนวน ๕ บรรทัด ตามจินตนาการของเธอ พร้อมวาดภาพระบายสี
ผมคิดว่า..นี่คือพื้นฐานสำคัญของการสอนเขียน และเป็นการฝึกเขียนเรื่องที่ง่ายที่สุดแล้ว
ชยันต์ เพชรศรีจันทร์
๑ ธันวาคม ๒๕๖๖
ไม่มีความเห็น