พึงจำไว้ว่า.....
ถ้าไม่ใช่บุคคลที่มีความปราดเปรื่อง
ย่อมไม่อาจใช้สายลับได้
ถ้าไม่ใช่บุคคลที่ใจกว้างเช่นมหาสมุทร
ย่อมไม่อาจควบคุมและอยู่เหนือจิตใจของสายลับได้
ถ้าไม่ใช่บุคคลที่มีความคิดล้ำลึกเฉียบคม
ย่อมมิอาจได้ข่าวกรองที่เป็นความจริงจากสายลับได้
....ซุนวู.....
ผมเคยได้ยินชื่อเสียงของซุนวูมาบ้างครับ แต่เป็นการได้ยินอย่างผ่านหู โดยไม่ได้มีความสนใจใด ๆ เลย จนมาในวันที่ผมได้รับหนังสือเล่มหนึ่งที่เพื่อนเก่าส่งมาให้ นัยว่าเพื่อให้ผมได้มีโอกาสอ่านและได้ใช้แง่คิดของซุนวูเพื่อประโยชน์ในการทำงาน
“ซุนวู” เป็นนักปราชญ์ที่มีชื่อเสียงคนหนึ่งของจีน เรียกได้ว่าถึงแม้ซุนซูไม่ได้เป็นนักรบ แต่แนวคิดในเรื่องกลยุทธ์การทำศึกของซุนวูก็มีแนวคิดไม่แพ้เสนาธิการผู้มีชื่อเสียงคนใด
คำกล่าวของซุนวูที่ผมยกมา มีเหตุผลบางอย่างที่ทำให้ผมติดใจ และคำพูดของซุนวูก็ทำให้ผมได้รู้ว่า นักรบกับนักปกครองนั้นมีความใกล้เคียงกัน จนแทบเรียกได้ว่าผู้บริหาร หรือนักปกครองในยุคนี้ก็เป็นเสมือนกับนักรบในยุคซุนวู
ผมเชื่อในเรื่องของความปราดเปรื่อง คนที่มีความปราดเปรื่องจะเป็นผู้ที่รู้จักใช้คน เหมือนกับเจ้านายรู้จักเลือกใช้ลูกน้องที่จะใช้อย่างไรจะทำให้ลูกน้องทำงานให้ และใช้อย่างไรที่จะทำให้ได้งานที่สูงสุด
เจ้านายจึงจำเป็นต้องมีความสามารถในการดูแลลูกน้องผู้ใต้บังคับบัญชา มีจิตวิทยาในการดูแลและปกครองให้ลูกน้องทำตาม และเป็นไปตามที่ต้องการอย่างเต็มใจ ตรงจุดนี้ที่ผมคิดว่าซุนวูกล่าวถูกในเรื่องของความปราดเปรื่อง ย่อมทำให้สามารถใช้สายลับได้
และเช่นกันครับ เจ้านายหรือผู้บังคับบัญชาที่ดีต้องมีใจกว้างเช่นมหาสมุทร เพื่อที่ลูกน้องจะได้มีความเกรงใจ นับถือ และให้เกียรติเจ้านาย การมีใจกว้างของเจ้านายก็อาจสะท้อนออกมาในลักษณะของการให้โอกาสในการทำงาน ซึ่งเป็นสิ่งที่คนทำงานทุกคนต่างแสวงหา
ถ้าหัวหน้าให้โอกาสลูกน้องทำงาน ในการแสดงความคิดเห็น มีใจกว้าง ยอมรับผลงาน ให้คำชมเชย ผมเชื่อว่าหัวหน้าหรือผู้บังคับบัญชาแบบนี้ จะเป็นที่รัก เป็นที่ยอมรับจากลูกน้อง เรียกได้ว่าเป็นการซื้อใจกันได้เลยทีเดียว
แต่ถ้าหัวหน้าเป็นคนที่มีจิตใจคับแคบ ไม่เคยเปิดโอกาสให้ผู้อื่น กีดกันขัดขวาง กลัวว่าลูกน้องจะได้ดีเกินหน้า ไม่ยอมรับผลงานลูกน้อง ผมเชื่ออย่างที่ซุนวูกล่าวครับว่า ผู้นั้นย่อมไม่อาจควบคุมและอยู่เหนือจิตใจของสายลับได้
ส่วนในเรื่องของ ความล้ำลึกเฉียบคม อาจจะฟังแล้วเป็นนามธรรมไปสักนิด แต่เจ้านายที่มีความคิดล้ำลึก อาจต้องเป็นผู้ที่รู้จักใช้ศิลปะการพูดโน้มน้าวใจที่ดี เพื่อเป็นเครื่องมือถ่ายทอดความคิดที่เป็นนามธรรมให้เกิดเป็นรูปธรรม
เจ้านายที่มีความสามารถในการแก้ไขสถานการณ์ สามารถพูดให้สิ่งที่เป็นลบให้กลายเป็นบวก หรือใช้คำพูดในการแก้ไขหรือโน้มน้าวใจให้ลูกน้อง ปรับปรุงพฤติกรรมหรือวิธีในการทำงานที่ยังไม่ดีให้เกิดประสิทธิภาพมากขึ้น
คำพูดที่จริงใจของหัวหน้าก็ย่อมจะทำให้ผู้ใต้บังคับบัญชาเกิดความรู้สึกประทับใจ และแน่นอนว่าลูกน้องก็ย่อมตอบแทนด้วยการทำงานอย่างเต็มกำลังความสามารถ
ไม่ว่าสงครามหรือการบริหาร สิ่งที่เหมือนกันอย่างหนึ่ง ก็คือ เรื่องของจิตวิทยา วาทะของซุนวูแม้จะล่วงเลยมาเป็นเวลานาน แต่ก็ไม่ได้ล้าสมัย เพราะสงครามกับการบริหารก็คือ การรู้จักวิธีการวางแผนเกี่ยวกับทรัพยากรทางการบริหาร ถ้าคนที่เป็นเจ้านายรู้จักวางแผนที่รอบคอบ และรู้จักใช้ทรัพยากรทางการบริหารอย่างเห็นคุณค่า ไม่เพียงแต่ใจของลูกน้องที่พร้อมทำงานให้กับหัวหน้า แต่ผลที่หัวหน้าจะได้รับก็คือ งานที่อยู่ในความดูแลรับผิดชอบก็ย่อมสัมผัสได้เป็นชิ้นเป็นอัน
สำหรับผมแล้ว ซุนซู ยังไม่ตายครับ ซุนวู ยังอยู่ในวิญญาณของหัวหน้าที่ชาญฉลาดที่ดำเนินชีวิตควบคู่ไปกับคุณธรรม แม้ว่าทหารตัวน้อยพร้อมที่จะตายแทนแม่ทัพใหญ่ในการรบ แต่จะทำอย่างไรที่แม่ทัพจะแสดงออกให้ทหารในกองทัพได้รับรู้ว่า แม่ทัพได้แสดงอะไรที่เป็นการแสดงออกด้วยใจมากกว่าการทำอะไรบางอย่าง เพียงแค่ขึ้นชื่อว่า “หน้าที่” เพื่อให้ตัวเองอยู่รอด
ถ้าแม่ทัพใหญ่แสดงออกแต่เพียงอาการรักตนเองมากจนดูไม่งาม ก็อย่าหวังว่าจะได้ใจเลยครับ แม้แต่ความเคารพที่เกิดจากเศษเสี้ยวของความรู้สึกลูกน้องสักเพียงนิดก็คงจะไม่ได้รับ
ก็อย่างประโยคหนึ่งที่กล่าวไว้ว่า....รู้เขา รู้เรา รบร้อยครั้ง ชนะร้อยครั้ง....นั่นแหละครับ ถ้าหัวหน้ามุ่งแต่แสวงหาคำตอบให้กับชีวิตของตัวเองเสียหมด ไม่เคยใส่ใจความรู้สึกนึกคิดของลูกน้องที่เป็นไพร่พลของตนเองเลย รบร้อยครั้ง ก็แพ้ร้อยครั้งครับ......
หมายเหตุ : เป็นผลงานเขียนของผมในคอลัมน์ Home Room เซ็กชั่น Get-Rich-Quick หนังสือพิมพ์คู่แข่งรายวัน ฉบับวันที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2539 นานมากจริง ๆ ครับ
ไม่มีความเห็น