“ต้องคิดเชิงบวก” เมื่อหมดไฟในการทำงาน


จอห์น ดี. ร็อกกี้เฟลเลอร์ เคยถูกแม่ของผู้หญิงคนที่เขารักกีดกัน และไม่ยอมยกลูกสาวให้ พร้อมกับคำพูดเหยียดหยามว่า “จะไปตกทุกข์ได้ยากกับผู้ชายที่ทางก้าวหน้าไม่มี ดังเช่น จอห์น ดี. ร็อกกี้เฟลเลอร์ ทำไม?” แต่ต่อมาชีวิตของร็อกกี้เฟลเลอร์ ชายผู้เริ่มต้นชีวิตด้วยการขุดมันฝรั่งภายใต้แสงแดดที่แผดเผา เพื่อรับค่าจ้างเพียงชั่วโมงละ 4 เซ็นต์ ก็ได้พิสูจน์ความมุ่งมั่น ตั้งใจสู้ชีวิตอย่างจริงจัง จนในที่สุด เขาก็กลายมาเป็นอัครมหาเศรษฐีใจบุญ ผู้ที่แผ่นดินต้องจดจารชื่อเขาไว้

“ต้องคิดเชิงบวก” 

เมื่อหมดไฟในการทำงาน

 

          มีหลายคนในหนังสือชีวประวัติที่แสดงให้เราเห็นว่า ความสำเร็จในชีวิตของคนเรา ไม่ได้ขึ้นอยู่กับการมี “ชาติตระกูลที่ดี” หรือ “การเกิดมาบนกองเงินกองทอง”

          เรื่องของชีวิตในบางครั้ง จึงเป็นเรื่องที่นอกเหนือจากการกำหนดกฎเกณฑ์ได้ด้วยตนเอง ไม่มีใครสามารถจะเลือกเกิดได้ และก็ไม่มีใครอยากที่จะเกิดมาเพื่อเกลือกกลั้วกับความยากลำบาก

การใช้ชีวิตภายหลังจากการมีลมหายใจ ที่ไม่ยอมแพ้เท่านั้น จึงดูจะเป็นเรื่องสำคัญที่สุด

          จอห์น ดี. ร็อกกี้เฟลเลอร์ เคยถูกแม่ของผู้หญิงคนที่เขารักกีดกัน และไม่ยอมยกลูกสาวให้ พร้อมกับคำพูดเหยียดหยามว่า “จะไปตกทุกข์ได้ยากกับผู้ชายที่ทางก้าวหน้าไม่มี ดังเช่น จอห์น ดี. ร็อกกี้เฟลเลอร์ ทำไม?”

          แต่ต่อมาชีวิตของร็อกกี้เฟลเลอร์ ชายผู้เริ่มต้นชีวิตด้วยการขุดมันฝรั่งภายใต้แสงแดดที่แผดเผา เพื่อรับค่าจ้างเพียงชั่วโมงละ 4 เซ็นต์ ก็ได้พิสูจน์ความมุ่งมั่น ตั้งใจสู้ชีวิตอย่างจริงจัง จนในที่สุด เขาก็กลายมาเป็นอัครมหาเศรษฐีใจบุญ ผู้ที่แผ่นดินต้องจดจารชื่อเขาไว้

          หรือแม้กระทั่ง บิลล์ คลินตัน ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นหนึ่งในเจ็ดประธานาธิบดีที่มีโอกาสดำรงตำแหน่งเป็นสมัยที่สองในประวัติศาสตร์การเมืองของสหรัฐฯ

พ่อของเขาตายตั้งแต่ตอนที่เขายังเป็นเด็ก และภายหลังแม่ของเขาก็มีสามีใหม่ เขาก็ยังประสบปัญหากับพ่อเลี้ยง ความเป็นเด็กที่มีปัญหาในครอบครัว ทำให้เขาได้เรียนหนังสือบ้าง ไม่ได้เรียนบ้าง

แต่ Baby boomer เช่นเขา ก็ไม่เคยนำความเป็นเด็กกำพร้า หรือนำปัญหาในชีวิตมาขวางกั้นความก้าวหน้าของตนเอง ประกอบกับแรงบันดาลใจสมัยเขาเป็นลูกเสือ ที่ได้มีโอกาสสัมผัสกับประธานาธิบดี จอห์น เอฟ เคนเนดี้ ในปี 1969 นับแต่นั้น เขาจึงหวังว่า สักวันชีวิตเขาต้องก้าวขึ้นไปนั่งเก้าอี้ประธานาธิบดีให้ได้

การกำหนดชีวิตอย่างมีแบบแผน จึงถูกเริ่มต้นด้วยการก้าวเข้ามาเป็นนักการเมืองท้องถิ่น นักการเมืองระดับประเทศ และสามารถเป็นประธานาธิบดีของสหรัฐฯ ได้สมความตั้งใจ

ในโลกแห่งการทำงานในปัจจุบัน ผมจึงเชื่อเสมอว่า ผู้ที่มุ่งมั่นอย่างมีพลัง มีเป้าหมาย และมีกำลังใจ จึงจะสามารถประสบความสำเร็จในชีวิตการทำงานได้

เหตุที่ต้องกล่าวว่า “กำลังใจ” เป็นสิ่งสำคัญ ก็เพราะสังคมการทำงานในทุกวันนี้ เต็มไปด้วยการแข่งขัน และมีแต่ความไม่แน่นอน

ถ้าเราสังเกตการณ์ดำเนินชีวิต สิ่งแวดล้อมทางสังคมมีอิทธิพลต่อความผันผวนรวนเรของจิตใจในแต่ละวันเป็นอย่างมาก บางวันชีวิตก็เต็มไปด้วยไฟแห่งการทำงาน แต่บางวันไฟเหล่านั้นกลับเหือดหายไปจากชีวิต

          ไม่ว่ารากเหง้าของปัญหาจะเกิดจากตัวเราเอง หรือเกิดจากสังคมรอบข้างก็ตาม

ผมเชื่อว่าสิ่งเหล่านี้ เป็นสาเหตุที่ชีวิตการทำงานของคนรุ่นปัจจุบันหลายคนไปไม่ถึงดวงดาว

การทดท้อ การจมปลักอยู่กับความเศร้าหมองที่อยู่ภายในใจ หรือการปล่อยชีวิตให้เป็นไปตามสภาพแวดล้อมทางสังคมมากเกินไป ย่อมทำลายเวลาที่มีค่าลงไปทุกวินาที จนไม่รู้ว่าเราจะทำงานให้สนุก หรือทำงานให้ประสบความสำเร็จได้อย่างไร

ชีวิตการทำงานทุกวันนี้ จึงไม่ใช่มีแค่การวางแผนที่คิดถึงเพียงวันนี้ วันพรุ่งนี้

แต่ชีวิตในทุกวันนี้ ทุกก้าวย่างต้องมีกลยุทธ์ ด้วยสายตาที่มองไปข้างหน้าอย่างยาวไกล เพื่อหาคำตอบให้ได้ว่า เราต้องการอะไร เราหวังอะไรจากการทำงาน

เพราะสังคมวันนี้เป็นสังคมแห่งมืออาชีพ การกำหนดยุทธศาสตร์ในการทำงาน จึงต้องวางกรอบเพื่อรองรับความเป็นมืออาชีพ

ในเรื่องของอารมณ์ และจิตใจ แน่นอนครับ ในบางครั้งไม่มีใครจะระงับการช็อกแห่งความรู้สึกที่เกิดขึ้นในบางขณะของชีวิตได้ แต่เมื่อเกิดความรู้สึกเช่นนี้ คุณลองย้อนกลับไปนึกถึงผู้ที่ก่อร่างสร้างตัวมาด้วยสติปัญญา อย่างนายร็อกกี้ เฟลเลอร์ นายคลินตัน หรือวีรบุรุษในใจของคุณดูสิครับ แล้วคุณจะเข้าใจชีวิตของพวกเขา และชีวิตของพวกเรา ที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงการต่อสู้อย่างเข้มข้นได้

การทดท้อในชีวิตของคนเราที่เกิดขึ้น มันไม่ใช่เรื่องแปลก ไม่ใช่เรื่องที่เกิดขึ้นกับเด็ก ๆ ที่สอบไล่ได้คะแนนไม่ดี แล้วโหยหากำลังใจ

แต่ผมคิดว่าวันเป็นปัญหาธรรมดาสามัญที่สามารถเกิดขึ้นได้กับคนทุกเพศ ทุกวัย ไม่มีข้อยกเว้นว่าเป็นคุณ หรือผม

ขอเพียงแค่วันนี้ คุณต้องพยายามตั้งคำถามให้ตัวเอง ตอบให้ได้ว่า คุณเข้าใจสังคมการทำงานในยุคนี้อย่างแจ่มชัดแล้วหรือยัง? คุณมี Strategic Move ในภายภาคหน้าที่เป็นรูปเป็นร่างแล้วหรือยัง?

ถ้าคุณชัดเจนกับสิ่งเหล่านี้ ผมก็คิดว่าคุณก็รู้จักจิตวิญญาณของตนเอง พอที่จะก้าวไปข้างหน้าอย่างผู้มีความหวังแล้วล่ะ.....

 

หมายเหตุ เป็นงานเขียนที่ตีพิมพ์ในคอลัมน์ Home Room หนังสือพิมพ์คู่แข่ง ฉบับวันศุกร์ที่ 8 พฤศจิกายน 2539  ตอนนั้นใช้พาดหัวสั้น ๆ ว่า “มุ่งมั่นอย่างมีกำลังใจ” งานเขียนเป็นการสะท้อนวิธีคิดของผมในช่วงเวลา ณ ขณะนั้นจริง ๆ ครับ

หมายเลขบันทึก: 715736เขียนเมื่อ 31 ตุลาคม 2023 08:08 น. ()แก้ไขเมื่อ 31 ตุลาคม 2023 08:08 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท