คนไทยรักในหลวง แค่ไหน ?
ปีนี้น่าจะเป็นปีทองของประเทศไทย พวกเราได้ร่วมฉลองความยินดีในปีมหามงคลนี้กันอย่างปลื้มปิติกันทั้งแผ่นดิน ทุกกรมกองทุกสถาบันจัดงานเทิดพระเกียรติแด่พ่อหลวงอย่างยิ่งใหญ่ แต่ในขณะเดียวกันก็มีวิกฤติต่างๆแทรกซ้อนเข้าม ในวันเดียวกันที่มีทั้งข่าวมงคลและข่าวร้าย โดยเฉพาะเขตพื้นที่เสี่ยงภัยซึ่งกำลังคืบคลานเข้ามาเขย่าขวัญในช่วงนี้ ทำให้สงสัยว่า คนไทยหลอกตัวเองว่ารักในหลวงหรือเปล่า ทำไมไม่ช่วยกันดูแลบ้านเมืองให้กิดความปกติสุข จะแบ่งแยกกันเป็นก๊กเป็นเหล่าในปีมหามงคล ปีที่ทุกคนอ้างว่ารักและเทิดทูนในหลวงนี่ละหรือ
จัดฉลองแสดงความยินดีจุดพลุดอกไม้ไฟก็พอ
อย่าจุดระเบิดวินาศกรรมเลย มันไม่ถูกไม่ควรสักกะหน่อย
สังคมไทยกำลังสับสนตัวเอง มาถึงชั้นนี้พบว่า ความรู้ความศรัทธาตัวเองไม่รู้ว่าอยู่ตรงไหน ถูกกลืนไปหมด ตัวภูมิปัญญาท้องถิ่นบางเรื่องก็หนาวสั่นงันงก ไม่รู้ว่าจะแทรกเข้าไปอยู่ในกระแสสังคมใหม่ได้อย่างไร วิถีชีวิตคนชนบทไทยกำลังล้มทั้งระบบ เหมือนอินเตอร์เน็ทล่มยังไงยังงั้น อินเตอร์เน็ทดีหน่อยที่มีดร.จันทรวรรณ นั่งดูแลตลอดเวลา แต่วิถีชีวิตไทยวัฒนธรรมไทยหาเจ้าภาพไม่เจอ ว่าหน่วยงานไหนสถาบันไหนจะมาทำการกอบกู้สถานะภาพสังคมไทยให้ฟื้นคืนมาได้
จะเอาหลักการเศรษฐกิจพอเพียงรึ
เอาคุณธรรมนำหน้าวิชาการรึ
ถามว่าดีไหม ถูกต้องไหม ล้านเปอร์เซ็นต์ครับ แต่สำนึกไทยในขณะนี้ตั้งอยู่บนฐานความผิดปกติ ลืมตัว ลืมใจ ลืมกำพืดตนเอง ไม่มีบริบททางสังคม จะทำอะไรสักอย่างยักแย่ยักยัน เชิดปี่เชิดกลองร้องรำทำท่าอยู่นั่นแล้ว ท่องเป็นนกแก้วนกขุนทอง..ความพอดี ความพอประมาณ ความมีภูมิคุ้มกัน พูดกันปากเปียกปากแฉะแต่ไม่ลงมือทำอะไร พวกที่ปากเว่อร์นี่ไม่ใช่ใครหรอก ผมก็อยู่ในกลุ่มนี้ด้วย!
ท่านคนไทยครับ กว่าที่จะได้แนวทางเศรษฐกิจพอเพียงนั้น ไม่ได้มาจากการนั่งตีความยกเมฆในห้อง แต่เกิดมาจากการค้นคว้าทดลองภาคสนาม ทำการวิจัยเชิงประจักษ์อย่างเข้มข้นของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของเรา พระองค์เสด็จลงพื้นที่ไปแล้วทุกหย่อมหญ้า ตลอดระยะเวลา60ปีที่ผ่านมา เสด็จรอนแรมแบบสามัญชนไปบนดอยสูง ลำคลอง ท้องทะเล ไม่มีภูมิภาคไหนที่พระองค์ไม่เคยเสด็จพระราชดำเนินไปเยี่ยมพสกนิกร พระองค์ทรงทราบดีว่ายังมีพื้นที่ใดบ้างที่ร้อนรุ่มดั่งเปลวไฟ พื้นที่ใดยังยากไร้ทุกข์เข็ญ ดังมีคำกล่าวของพสกนิกรที่ว่าพระองค์ทรงเป็นเหมือนฝนดับไฟ
การเสด็จพระราชดำเนินแปรพระราชฐานไปประทับแรม ณ พระตำหนักในภูมิภาคต่างๆ ไม่ใช่เป็นการไปพักผ่อนเหมือนผู้มีอันจะกินทำกัน หากแต่เป็นการแปรพระราชฐาน เพื่อทรงงานที่หนักยิ่งขึ้นเพื่อพสกนิกรในแต่ละภูมิภาคจะได้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นกว่าวันเวลาที่ผ่านมา
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมิได้เพียงแค่เป็นสัญลักษณ์ของแผ่นดิน ถ้าชาวบ้านต่อสู้กับปัญหาความยากจนดิ้นรนประสายาก จงตระหนักเถิดว่าท่านนั้นมีพระมหากษัตริย์ทรงตากตรำพระวรกายและความคิดในการทรงงานที่หนักยิ่งกว่า
ดั่งมีผู้กล่าวถึงว่า"ถ้ารอบบ้านของประชาชน คือ พื้นที่สร้างชีวิตของตนเองแล้ว รอบพระราชวังของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ก็คือพื้นที่ทดลองเพื่อโครงการใหม่ๆสำหรับพระราชทานให้ปวงประชาในทุกภูมิภาคของประเทศไทย"
คงไม่มีบ้านไหน หน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนใด ไม่มีพระบรมฉายาลักษณ์ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถและพระบรมวงศานุวงศ์ติดไว้ ในที่อันสูงสุดของบ้านหรือของหน่วยงาน
พุทธศักราช2530พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงใช้คอมพิวเตอร์ในการประดิษฐ์อักษรเทวนาครีเป็นผลสำเร็จ และได้ทรงนำออกแสดงครั้งแรกเมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2530 พระองค์ทรงใช้ประดิษฐ์ ส.ค.ส.เพื่อพระราชทานพรปีใหม่ให้แก่พสกนิกรชาวไทย
เห็นไหมครับว่า แม้แต่ชาวบล็อกก็ยังได้รับบารมีเจริญรอยตามพระองค์ท่าน ช่วยกันใช้คอมพิวเตอร์บริหารความเซ่อซึมของชาติให้แตกกระจุย ช่วยกันสร้างชุดความรู้สายพันธุ์ไทยขึ้นมา เพื่อเทียบเคียงชุดความรู้ระดับสากล ตามแนวทาง..(จากพระบรมราโชวาทในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรแก่บัณฑิตมหาวิทยาลัย มหิดล เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2535)
“..ความรู้ที่จะศึกษามีอยู่สามส่วน คือ ความรู้วิชาการ ความรู้ปฏิบัติการ และความรู้คิดอ่านตามเหตุผลความเป็นจริง ซึ่งแต่ละคนควรเรียนรู้ให้ครบ เพื่อสามารถนำไปใช้ประกอบกิจการงาน และแก้ปัญหาทั้งปวงอย่างมีประสิทธิภาพ”
บ้านเมืองของเราวันนี้ เหลือบมองไปทางไหนก็มีแต่คนสวมเสื้อเหลืองที่ดูงามราวกับสวมด้วยทองคำอันล้ำค่า ถามตัวเองสิว่า..ท่านรักในหลวง หรือหลอกตัวเองว่ารักในหลวง คนไทยรักตามทฤษฎีหรือเปล่า ท่องได้หมดทฤษฎีใหม่ว่าอย่างไร ปล่อยให้นายโคฟี อันนัน เลขาธิการสหประชาชาติ, และเจ้าชายจิกมี่ เคเซอร์ นัมเกล วังชุก กษัตริย์แห่งพูฐาน รักในหลวงด้วยการน้อมนำพระราชดำริไปปฏิบัติจริงในวิถีประเทศอย่างจริงจัง ข้อยืนยันนี้หมายถึง
ท่านปล่อยให้คนในประเทศอื่น
รักในหลวงแทนตัวท่านเองใช่หรือเปล่า!!
อ.ขจิต,ท่านแผ่นดิน
เชื่อมั่นว่าท่านนั้นรักในหลวงเต็มหัวใจ
แต่เราต้องคิดต่อครับว่า
จะทำยังไงกับความรักที่ไม่สัมพันธ์กับสถานการณ์
ผมคิดว่าพ่อแผ่นดินคงทุกข์กับสังคมไทยที่เป็นอยู่
ความรักเราจะมีส่วนช่วยอะไรในทางสังคมได้บ้าง
"รักในหลวง" อย่างนั้นอย่างนี้ เช่น "รักในหลวงห่วงใยยาเสพติด" แต่ยาก็ระบาดทั้งเมือง เราจะทำอย่างไรกับความรักของคนไทยดี มันถึงจะไปภาพรวมของสังคมที่หลอมหัวใจให้เห็นว่ารักแล้วทำให้พระองค์ท่านสบายพระราชหฤทัย ไม่ใช่ให้ท่านทรงห่วงใยเรื่องร้อนๆทั้งปีทั้งชาติ