จะเป็นเน็ตไอดอลได้ยังไง ในหลักสูตร "หัวใจต้องไม่แพ้" เหมือนดั่งชื่อ


ตั้งแต่การทำโปรไฟล์ของตนเอง การวิเคราะห์กลุ่มเป้าหมายหรือ FC การทำเรื่อง content การสร้างเครือข่าย รวมถึงเรื่องของการจัดการวินัยในตนเอง ทั้งหมดนี้ก็เป็นเรื่องราวที่ผมสรุปมาคร่าวๆคิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์แก่เครือข่ายคนพิการและคนด้อยโอกาสที่เข้าอบรม รวมถึงเครือข่ายคนทำงานด้านนี้ ตลอดจนผู้ที่สนใจทั่วไปที่สนใจสร้างตัวตน ชุมชน และโอกาสในพื้นที่ออนไลน์

จะเป็นเน็ตไอดอลได้ยังไง ในหลักสูตรหัวใจต้องไม่แพ้ เหมือนดั่งชื่อ

จริงๆแล้ว ส่วนตัวก็อาจจะไม่นึกไปถึงขั้นเป็นเน็ตไอดอลยอดวิวเป็นล้านอะไรมากมาย แค่ได้ทำในสิ่งที่เราคิดว่ามีประโยชน์ แล้วก็มีความสุขก็ถือได้ว่าเป็นงานอดิเรกแบบหนึ่งที่ทำแล้วชื่นชูใจ ได้แบ่งปันสิ่งที่คิดว่าดี และน่าจะได้เพื่อนเพิ่ม ได้คนติดตาม ได้โอกาสที่ดีเกี่ยวกับงานชีวิตสังคมอื่นๆตามมา อันนี้เป็นหลักคิดในใจพื้นพื้นฐานไว้ก่อน

แต่ก็โอเคล่ะครับ ในเมื่อมีโอกาสเราก็เรียนรู้เพิ่มตามจังหวะ

พอดีประเหมาะ สบโอกาสได้รู้จักกับโค้ชครูจาผ่านการแนะนำจากกัลยาณมิตรหน้าใหม่เมื่อสองสามเดือนก่อน ครูจาก็เป็นโค้ชที่ช่วยให้คำปรึกษาในเรื่องของการพัฒนาตนเองในโลกออนไลน์ ซึ่งวันที่ 29 กันยายนที่ผ่านมานี้ ก็ถือได้ว่าเป็นครั้งที่ 2 ที่เราเรียนรู้อบรมผ่านซูมมิตติ้งในหลักสูตร “เน็ตไอดอล….หัวใจไม่แพ้” ซึ่งเน้นไปที่การเสริมสร้างศักยภาพคนพิการและเครือข่ายให้สามารถที่จะใช้พื้นที่ออนไลน์ในการสร้างสรรค์ตัวตนและโอกาสเข้าถึงสิทธิ์และโอกาสต่างๆในทุกมิติ

เข้าใจตนเอง 
สิ่งที่โค้ชเน้นเลยก็คือเรื่องของการไม่หลอกตัวเอง ไม่โกหกตนเอง ซึ่งจริงๆเป็นอย่างแรกเลยที่ควรจะต้องนำมาเป็นสารตั้งต้น อันนี้จริงๆแล้ว โค้ชย้ำมาตั้งแต่ชั่วโมงแรกเลยคือ ต้องเข้าใจตนเอง รู้ว่าตัวเองหลงไหล ชื่นชอบ หรือมี passion ในเรื่องอะไร แล้วทำมันออกมาบอกเล่าให้โลกรับรู้ เป็น Content ในช่องทางต่างๆ 


การเขียนโปรไฟล์ของตนเองก็ดีการสร้าง content หรือเนื้อหาสาระให้คนรู้จักก็ดี เราต้องเป็นของจริงในเรื่องนั้นๆ ไม่ต้องกังวลเรื่อง app แต่งภาพ แต่งรูปให้มาก สำคัญคือความ Real หรือความจริงมากกว่า ที่คนดูเขาสนใจเพราะถ้าเราไม่ใช่ของจริง นานๆไปมันก็ fake คนก็จะค่อยๆหลบหายไปหรือเผลอๆ คนนับพัน นับหมื่น ที่เคยติดตามเรา อาจจะหายไปในข้ามวันเลยทีเดียวก็ได้ อันนี้ต้องซื่อสัตย์กับตัวเอง

 

ในส่วนของโปรไฟล์ ต้องอย่าลืมเปลี่ยนให้เป็นแบบ business หรือแบบธุรกิจเพื่อที่จะป้องกันการละเมิดลิขสิทธิ์ และยังช่วยเสริมให้เราสามารถกระจายเนื้อหาหรือ content ให้คนรับรู้ได้ในหลายๆช่องทาง

เข้าใจกลุ่มเป้าหมาย
การเรียนรู้รอบนี้ก็เป็นความต่อเนื่องจากรอบที่แล้ว ทางโค้ชได้ช่วยให้เราสร้างภาพ สร้างจินตนาการให้มองเรื่องของการทำคลิปสื่อสารต่างๆใน platform ต่างๆ แบบว่าอารมณ์เหมือนเรามีแฟน จะบริหารแฟนคลับเราอย่างไร ตรงนี้แรกสุดก็คือต้องเข้าใจแฟนเรา หรืออีกนัยหนึ่งเข้าใจกลุ่มเป้าหมายของเราก่อนว่า กลุ่มเป้าหมายของเราที่จะสื่อสารทำคลิปส่งมาให้ดูนี้เป็นใคร เช่น เป็นเด็ก หรือวัยรุ่น หรือผู้ใหญ่ หรือผู้สูงอายุ แล้วเขาเหล่านั้นเป็นคนเพศอะไร อายุเท่าไหร่โดยประมาณ ไลฟ์สไตล์ การศึกษาถิ่นฐานที่อยู่ตัวตนของพวกเขาเป็นอย่างไร อันนี้ ต้องนั่งนิ่งๆแล้วลองวิเคราะห์ดูนะครับ

การวิเคราะห์ FC หรือแฟนคลับกลุ่มเป้าหมาย นอกจากความหลากหลายของกลุ่มเป้าหมายของเราแล้ว ซึ่งตรงนี้เราต้องวิเคราะห์ให้ออกครับว่าเขาเหล่านั้นเป็นใครแล้ว ยังมีพฤติกรรมการรับสื่อของเหล่าบรรดากลุ่มเป้าหมาย ที่อาจจะมีหลายแบบเช่น บางคนชอบมาดูเฉยๆ บางคนชอบมาอ่าน บางคนชอบแบบฟังบางคนชอบแบบดูคลิป บางคนชอบแบบมาแลกเปลี่ยน นี่ก็ต้องวิเคราะห์เหมือนกัน ซึ่งเราสามารถวิเคราะห์ข้อมูลของ FC หรือแฟนคลับหรืออีกนัยหนึ่งกลุ่มเป้าหมายของเราได้โดยใช้ application ต่างๆที่เราทำอยู่ใน application เหล่านั้น ก็จะมีเครื่องมือให้เราวิเคราะห์กลุ่มเป้าหมายเราครับ อันนี้ ไม่ใช่ว่าเราจะทำคลิปส่งๆๆอย่างเดียว ต้องหมั่นวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้เครื่องมือต่างๆใน application นั้นๆด้วย

เข้าใจ Content
ที่นี้ในเรื่องของ content หรือเนื้อหาสาระ พอเรารู้จักกลุ่มเป้าหมายของเราว่าเรากำลังสื่อสารกับคนแบบไหนแล้ว เราก็เลือกเนื้อหาครับที่สอดคล้องกับคนเหล่านั้น ซึ่ง content หรือเนื้อหาสาระเหล่านี้สามารถปรับเปลี่ยนได้ตลอดเวลานะครับ และเราควรจะมี content ที่หลากหลายเอาไว้เสริมเพื่อทำให้คนรับสารหรือกลุ่มเป้าหมายของเราเขาไม่เบื่อ

ที่นี้มาในเรื่องของ content หรือเนื้อหาสาระที่เราสร้างขึ้นมาหรือนำมาเชื่อมต่อ หลักใหญ่คือต้องคิดก่อนโพสต์ โพสต์ในเวลาที่เหมาะสม จับกระแสอย่าให้เรื่องที่เราโพสต์หลุดโลกหรือหลุดมือไปจากกระแส พูดง่ายๆคือพยายามทำให้เรื่องที่เราโพสต์เชื่อมต่อกับสถานการณ์ปัจจุบันได้ยิ่งดี เช่น ตอนนี้ บ้านเรา เขากำลังอินเทรนด์ในเรื่องอะไร เราก็เชื่อมโยงเทรนด์นั้นกับสิ่งที่เรากำลังสื่อสาร หากแต่ต้องระวังความคิดต่าง คือห้ามไปทะเลาะกับกลุ่มเป้าหมาย หรือทะเลาะกับ FC แม้ว่าเราจะมีความคิดเห็นชัดเจน มุ่งมั่นศรัทธาในบางเรื่องแต่ก็ต้องระวัง ต้องรู้ศิลปะในการสื่อสารกับคนที่คิดต่างและขัดแย้งกับเรามากๆ 

เราสามารถสร้างเนื้อหาจากการรีวิวได้นะครับ เช่น การรีวิวเรื่องเกี่ยวกับอาหารต่างๆ สถานที่ท่องเที่ยว หรือเรื่องต่างๆที่เราเข้าไปเกี่ยวข้อง

ในทัศนะของเราบางทีเราอาจจะคิดว่าเป็นเรื่องธรรมดาๆ แต่ความคิดเห็นของคนธรรมดาๆบางทีคนก็อยากฟังอยากเรียนรู้นะครับอย่ามองข้ามไป (อันนี้ผมอยากจะเสริมว่าคนพิการก็นำเสนอความเห็นในแบบที่ว่าคนพิการคิดเรื่องนี้ยังไงได้นะครับ เพราะสังคมเองก็ไม่ค่อยได้เห็นเสียงของคนพิการ มุมมองคนพิการเท่าไหร่ ตรงนี้เป็นอีกจุดหนึ่งที่เราในฐานะที่เป็นคนพิการหรือคนด้อยโอกาสต่างๆสามารถนำเสนอได้โดยที่ไม่ต้องอายใครนะครับ)

อย่างที่บอกครับ influencer หรือคนที่อยากจะเป็น influencer หรือผู้ที่จะเป็นเน็ตไอดอลทั้งหลายเนี่ยต้องสร้างความแตกต่างในการนำเรื่องที่เป็นกระแสมาเชื่อมโยง เพราะฉะนั้นแล้ว ยิ่งถ้าเราเป็นเสียงของคนกลุ่มน้อยคนที่ด้อยโอกาส อันนี้ก็เป็นความแตกต่างอยู่ในตัวอยู่แล้ว ก็ใช้เป็นจุดแข็งที่มานำเสนอได้นะครับ


เข้าใจ/รูปแบบ/ช่องทาง การสื่อสาร
รูปแบบหรือแพลตฟอร์มในการที่จะสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายของเราอาจจะมีหลายแบบนะครับ ไม่ใช่มีแต่คลิปวีดีโออย่างเดียว อาจจะเป็นภาพก็ได้ อาจจะเป็นการเขียนบันทึก หรือบล็อกก็ได้ อาจจะเป็น e-book อาจจะเป็นการเขียนโพสต์ต่างๆ หรือแม้แต่จะเป็นคลิปเสียงล้วนๆ อย่างการทำ podcast ตรงนี้เราจะทำแบบไหนแล้วมันดี แล้วมันปัง ก็ต้องอาศัยการฝึกฝน ทบทวน ตรวจสอบ ประเมิน สม่ำเสมอ บางครั้ง นอกจากโพสต์คลิปแล้ว เราอาจจะเปลี่ยนเป็น live สดบ้างก็ได้ หรือเป็นการสอน การสื่อผ่านหลายๆรูปแบบบ้าง หรือจะเอาแบบผสมผสานกันไปเลยก็ไม่เลว ทั้งหลายทั้งปวงนี่ ต้องทดลองหาแบบที่เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายโดยที่ไม่ลืมว่ามันต้องเป็นตัวตนของเราด้วยครับ

เข้าใจสร้างเครือข่ายมิตรภาพและความร่วมมือ
อีกเรื่องที่โค้ชครูจากรุณาให้คำแนะนำกับพวกเราก็คือการสร้างฐานผู้ติดตาม จุดนี้เป็นอีกจุดที่สำคัญที่คนหลายคนมักจะมองข้ามไปก็คือ นอกจากเราจะโพสต์จะลงคลิปลงภาพลงรีวิวต่างๆในแบบของเราแล้ว เราต้องสร้างเครือข่ายครับ

หมั่นไปทำความรู้จักกับ influencer ด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นการไปกดไลค์
กดติดตามเขา การไปเชื่อม link ไว้ในโพสต์ในบล็อกในคลิปต่างๆให้คลิปของเขาได้มาเชื่อมโยงกับหน้าเพจของเรา เหมือนกับเราช่วยโปรโมทเขา เป็นสังคมเครือข่ายแห่งความเอื้ออาทรกัน อันนี้เป็นวิธีผูกมิตรอีกแบบที่ทำได้ไม่ยากเลย 

นอกจากนี้เราอาจจะแนะนำตัวเอง โดยการทำคลิป หรือสื่อ สไลด์ต่างๆ เพิ่มเติม เป็นการแนะนำตัวเองสั้นๆให้หน่วยงาน ห้างร้าน เครือข่ายองค์กรได้รู้จักเราเพิ่มขึ้น ว่าเรามีความถนัดอะไร มีความสามารถอะไร ทำให้เขารู้ เพื่อที่จะรู้ว่าจะเชื่อมกับเราในแบบไหน ได้บ้าง 

หาโอกาสเข้าร่วมสัมมนา อบรม ประชุม เพิ่มพูนอาหารสมอง และสร้างเครือข่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเราเป็นคนไม่มีชื่อเสียงควรจะต้องหาจังหวะเหล่านี้ให้มาก อาจจะต้องเตรียมนามบัตรพิมพ์เอาไว้ด้วยก็ดีครับ อย่ามองข้ามไปว่านามบัตรเป็นเรื่องโบราณ แต่เอาเข้าจริง การมีนามบัตรมันง่ายต่อการที่จะทำให้คนอื่นๆเขาอ่านแล้วติดต่อเราได้เร็วขึ้น ใบนึงก็ลงทุนประมาณบาทสองบาทเอง

เข้าใจสร้างตัวตนในพื้นที่ On Site
อีกส่วนหนึ่งที่จะมองข้ามไปก็ไม่เหมาะ คือ นอกเหนือจากการมีพื้นที่ออนไลน์แล้ว พื้นที่ on site ในชีวิตประจำวันนี้ เราก็ต้องทำให้สอดคล้องดูดีไปด้วยกันนะครับ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการวางตัวบุคลิกภาพ การแต่งตัวก็ต้องเป็นสไตล์ของเราที่สังคมมองแล้วเขา get เขายอมรับได้ แล้วก็เป็นแบบที่เราอยากให้สังคมเขาติดต่อเรา อันนี้ก็ต้องไปดีไซน์กันเองว่าจะพัฒนารูปแบบในพื้นที่ on site กันอย่างไร ควบคู่ไปด้วย บุคลิกภาพ การแต่งกายก็เป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้ามครับ

สุดท้ายที่ผมคิดว่าจะสรุปเอาไว้ก็คือ โค้ชครูจาแนะนำในเรื่องของการมีวินัยกำหนดการสร้างผลงานเพื่อสื่อสารพื้นที่ออนไลน์อย่างสม่ำเสมอครับ เช่น จะโพสต์คลิปทุกวันหรือวันเว้นวันหรือสัปดาห์ละ 3 ครั้งหรือสัปดาห์ละ 5 ครั้งก็สุดแล้วแต่ แต่เดือนละครั้ง อันนี้ ยังไงก็ไม่พอแน่และยังต้องแบ่งเวลาสำหรับการคิด content ด้วย

โคชครูจา ยกตัวอย่างตนเองว่า ใช้เวลาทุกวันอังคาร ศุกร์ และเสาร์ในการอยู่กับตัวเองนิ่งๆเพื่อแบ่งเวลามาคิด content เห็นไหมครับว่า การทำงานกับด้านในตนเองก็เป็นเรื่องที่สำคัญมาก เพื่อที่จะทำให้ผลผลิตงานที่เป็นสื่อออนไลน์ของเราออกมาดี

เอาล่ะครับ โดยภาพรวม ผมก็จะสรุปเนื้อหาหลักๆที่ได้จากการเรียนรู้หลักสูตรเน็ตไอดอล...หัวใจไม่แพ้ในรอบที่ผ่านมา ซึ่งทางโค้ชได้พูดถึงตั้งแต่การทำโปรไฟล์ของตนเอง การวิเคราะห์กลุ่มเป้าหมายหรือ FC การทำเรื่อง content การสร้างเครือข่าย รวมถึงเรื่องของการจัดการวินัยในตนเอง ทั้งหมดนี้ก็เป็นเรื่องราวที่ผมสรุปมาคร่าวๆคิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์แก่เครือข่ายคนพิการและคนด้อยโอกาสที่เข้าอบรม รวมถึงเครือข่ายคนทำงานด้านนี้ ตลอดจนผู้ที่สนใจทั่วไปที่สนใจสร้างตัวตน ชุมชน และโอกาสในพื้นที่ออนไลน์ด้วย จริงๆยังมีเรื่องของการแนะนำเกี่ยวกับ สูตรสำเร็จติ๊กต๊อกเติมเข้ามาด้วยแต่ขอยกยอดเอาไว้ในรอบหน้าละกันครับ เพราะนี่ก็เขียนมายาวพอสมควรแล้ว สำคัญอยู่ที่การฝึก ลงมือทำ ทบทวน มีวินัยในตัวเอง และเรียนรู้อย่างสม่ำเสมอ ขอให้กำลังใจทุกท่านครับ
    
 

หมายเลขบันทึก: 713824เขียนเมื่อ 2 สิงหาคม 2023 15:01 น. ()แก้ไขเมื่อ 2 สิงหาคม 2023 15:01 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท