การออมในระบบสหกรณ์


รากเหง้า วิธีการสหกรณ์
ที่ใช้ในการสร้างสมาชิกให้พึ่งตนเอง
เป็นเรื่องของการออมทรัพย์
ที่ต้องมาจากการประหยัดและมัธยัสต์
ประหยัดหรือการใช้น้อยแต่ได้มาก
การมัธยัสต์คือการใช้จ่ายอย่างมีเหตุผล
สิ่งแรกที่สมาชิกอย่างก้าวเข้ามาในสหกรณ์
ทุกคนต้อง เก็บก่อนเสมอไม่ว่าจะยากดีมีจน
ไม่ใช่จ่ายก่อนแล้วเหลือเท่าไหร่จึงจะเอามาออม
ต้องออมก่อนจ่าย ไม่ใช่จ่ายก่อนออม
สมาชิกพึงระลึกไว้เสมอว่า ค่านิยมหลัก
ประการแรก เป็นที่มาของวัตถุประสงค์
ในสหกรณ์คือการออม สมาชิกต้องรู้จักเก็บออม
ก่อนเป็นอันดับหนึ่ง หลังจากนั้นเงินที่เหลือ
สมาชิกต้องบริหารค่าใช้จ่ายให้เพียงพอ
เพื่อให้มีเงินเก็บจริง ๆ ตามเงื่อนไขระเบียบ
ทางสังคมของสหกรณ์ คือการเก็บออมร่วมกันก่อนเสมอ
โดยใช้หลักประหยัดและมัธยัสถุ์ในการดำเนินชีวิต
มีปัญหาไม่พอจ่ายหรือลงทุน จึงจะกู้จากสหกรณ์
และการเก็บออมร่วมกันนี้ จะไปสร้างค่านิยม
ตัวที่สองคือ การช่วยเหลือซึ่งกันและกันผ่าน
การดำเนินงานของสหกรณ์
พอจะสรุป ในสาระสำคัญเรื่องการออมในระบบสหกรณ์
หรือตามวิธีการสหกรณ์นั้นต้องเกิดจาก
..การเก็บออม ของสมาชิกเอง เก็บออมก่อนจ่าย
..,,มาจากการใช้จ่ายอย่างมีเหตุมีผล ไม่ฟุ่ยเฟือย
เมื่อเหลือก็นำมาออม
..มาจากการประหยัด รู้จักบริหารจัดการค่าใช้่จ่าย
ให้น้อยที่สุดและไปประโยชน์มาก
เป็นการทำให้เงินเหลือมาออมเพิ่ม
..การออมของสหกรณ์ ให้ความสำคัญกับคน
คือการออมของระบบสหกรณ็
ต้องมาจากการรวมเงินจำนวนน้อยจากคนจำนวนมาก
และทำอย่างสม่ำเสมอเพื่อสร้างนิสัยการออม
ที่แท้จริง ไม่ใช่ออมเพื่อเก็งกำไร ไม่ได้กำไร
หรือได้กำไรน้อยแล้วไม่ออม

การออมตามวิธีการสหกรณ์จะส่งผลให้ต้นทุน
สินเชื่อหรือการดำเนินงานต่ำ
ทำให้การเรียกเก็บดอกเบี้ยเงินกู้ต่ำ
ค่าใช้จ่ายและต้นทุนขายด้านต่าง ๆ ต่ำ
.. การกู้เงินที่ดีที่สุด และไม่เป็นภาระแก่ผู้อื่นและสหกรณ์

ส่วนการ ที่เราไปกู้เงินมาซื้อหุ้น
ไม่ว่าจากสหกรณ์หรือแหล่งอื่น
หรือการเป็นหนี้สินที่เกิดจากการกู้เงินนั้น
ไม่ถือเป็นการออม แต่เป็นการจับเสือมือเปล่า
โดยที่เราไม่ได้ใช้เงินของตนเอง
เข้าข่ายเป็นวิธีการของระบบทุนนิยม
ไม่เหมาะสมที่จะนำมาใช้กับระบบสหกรณ์
เพราะถ้าสมาชิกกู้เงินมาถือหุ้นหรือฝาก
เพื่อให้ได้เงินปันผลมาก ดอกเบี้ยเงินฝากสูง
เข้าข่ายการลงทุนเพื่อเก็งกำไร
ไม่ใช่เพื่อช่วยเหลือซึ่งกันและกัน
ก็เท่ากับสมาชิกเอาเปรียบสหกรณ์
เพิ่มภาระให้กับฝ่ายจัดการและคณะกรรมการฯ
ต้องทำกำไรมาจ่ายให้กับสมาชิกที่กู้มาฝาก
และลงทุน ซ้ำยังทำให้สมาชิกที่ยากจน
เข้าถึงสิทธิ์การกู้เงินได้น้อย ต้องเสีย
ค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยเงินกู้สูงขึ้น
ยิ่งสร้างความเหลื่อมล้ำขึ้นในสหกรณ์
เอาเปรียบกันเองระหว่างสมาชิก และ
สมาชิกยังเอาเปรียบสหกรณ์ด้วย
...
การบังคับออมของสหกรณ์นั้น
หมายถึง การหักเงินค่าหุ้น ณ ที่จ่าย
หรือการออกกติกาข้อตกลงให้สมาชิก
เก็บเงินไว้ถือหุ้นหรือฝากเงินกับสหกรณ์
เป็นประจำทุกเดือน
..
การกู้เงินมาใช้ก่อน แล้วผ่อนทีหลัง
ก็ไม่เข้าข่ายวิธีการสหกรณ์
ที่จะเรียกว่า การบังคับออม
..

เพราะไม่เป็นไปตามนิยามความหมาย
ของคำว่า การออม ด้วยเหตผลที่ว่า
การออม ​เป็นการแบ่งรายได้ส่วนหนึ่งเก็บสะสมไว้
สำหรับวัตถุประสงค์ต่าง ๆ เช่น เพื่อไว้ใช้ในอนาคต
เผื่อเวลาฉุกเฉิน เพื่อใช้ในสิ่งที่อยากได้หรืออยากทำ
(อ้างใน ธนาคารแห่งประเทศไทย)
ไม่ใช่การเอาเงินในอนาคตมาใช้แล้วผ่อนใช้ทีหลัง
เงินประเภทนี้เรียกว่า เงินกู้ อยู่ในหมวดของหนี้สิน
ไม่ได้อยู่ให้หมวดทุน อย่างเช่น เงินค่าหุ้น หรืออยู่ใน
หมวดของสินทรัพย์ อย่างเช่น เงินฝาก
การสร้างหนี้สินจึงไม่ใช่การออม
ตามวิธีการสหกรณ์


การออมส่วนใหญ่มักอยู่ในรูปแบบที่มีความเสี่ยง
ต่อการสูญเสียเงินต้นต่ำ และได้รับผลตอบแทนไม่สูงนัก

ส่วนการกู้เป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูงโอกาสหนี้เสีย
มีมาก ขึ้นอยู่กับความสามารถของผู้กู้ สภาวะแวดล้อม
ทางสังคม เศรษฐกิจและการเมือง

จึงขอทำความเข้าใจในเรื่อง การออมของระบบสหกรณ์
เพื่อให้เพื่อนสมาชิกทุกคนที่เข้ามาอ่านได้เข้าใจว่า
การออมในระบบสหกรณ์ เป็นการสร้างนิสัยถาวร
เป็นการออมที่เกิดจากการเก็บมาออมก่อน การจ่าย
โดยแบ่งสรรเงินรายได้ไว้ชัดเจน
การออมของสหกรณ์ไม่ใช่การลงทุนเพื่อเก็งกำไร
เหมือนการค้าทั่วไป แต่ออมเพื่อช่วยเหลือซึ่งกันและ
กันในหมู่สมาชิก ผ่านการดำเนินงานของสหกรณ์
นั่นเอง

หมายเลขบันทึก: 712999เขียนเมื่อ 31 พฤษภาคม 2023 17:56 น. ()แก้ไขเมื่อ 31 พฤษภาคม 2023 17:56 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท