"กุยบุรีที่รัก 2 "........" ด้วยมิตรภาพนำพา ข้ามขอบฟ้ามาพบกัน" ตอนที่ 3


                     

                                 (ภาพ : เกาะง่ามน้อย เกาะง่ามใหญ่ มองเห็นเมื่อเรือออกจากเกาะทะลุ)

.

 

      เมื่อทุกคนขึ้นมาบนเรือแล้ว บรรยากาศบนเรือดูเหมือนว่าจะเครียด ๆ และเงียบกว่าก่อนที่ทุกคนจะลงไปในน้ำ  โดยเฉพาะพ่อบ้านของคุณมะเดื่อ ทั้งเหนื่อย หมดแรง และมีอาการเมาเรือ เวียนหัวจะอาเจียน ถึงกับต้องนอนคว่ำหน้า นิ่ง ๆ ( ดีว่า ได้เตรียมยามาด้วย กินยาแล้วอาการจึงดีขึ้น คุณมะเดื่อยังกังวลอยู่ว่า ถ้าเข้าฝั่งแล้วพ่อบ้านอาการไม่ดีขึ้นคงลำบากมาก เพราะขับรถไม่ไหวแล้ว  แต่แล้วเมื่อเห็นอาการดีขึ้นก็โล่งใจ  ถึงกระนั้นพ่อบ้านก็ต้องนอนนิ่ง ๆ ใช้ผ้าชุบน้ำเย็นเช็ดหน้าตา เนื้อตัวตลอดเวลา ไปจนเรือเข้าฝั่ง ) น้องไต๋ตามขึ้นมาเป็นคนสุดท้ายแล้วเตรียมออกเรือ แล้วมุ่งสู่ เกาะง่ามน้อย อันเป็นจุดดำน้ำจุดที่ 2 ของทรีปนี้

.

 

                    

                                           (ภาพ : เกาะง่ามน้อย มองจากไกล ๆ เหมือนเต่ายักษ์)

    เมื่อน้องไต๋เบนหัวเรือมุ่งสู่เกาะที่ 2 ซึ่งเมื่อมองจากฝั่ง ก็เห็นว่าเหมือนอยู่ไม่ไกลจากเกาะทะลุ เหมือนอยู่หลังเกาะทะลุนี่เอง  แต่ทะเลก็หลอกตาเราได้สำเร็จเสมอ  เพราะจากเกาะทะลุมายังเกาะง่ามน้อย ก็ใช้เวลาร่วมชั่วโมงเช่นเดียวกัน

        เมื่อแรกที่น้องไต๋ขับเรือมุ่งสู่เกาะนี้ พวกเรายังไม่รู้ว่าจะไปที่เกาะอะไร เห็นแต่เพียงว่า รูปร่างเหมือน “เต่ายักษ์” นอนหมอบอยู่เหนือผืนน้ำ คุณมะเดื่อจึงหันไปถามน้องไต๋ว่า

         “ เกาะเต่าใช่ไหมจ๊ะ”

         “เกาะง่ามน้อยครับ ไม่ใช่เกาะเต่า”  น้องไต๋ตอบ  อันที่จริงชื่อเกาะง่ามน้อย  ง่ามใหญ่นี้ คุณมะเดื่อได้ยินชื่อเสียงมาก่อนหน้านี้แล้วจากโทรทัศน์และสื่อโซเชียล  เกาะทั้งสองแห่งอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร เป็นเกาะที่ได้ชื่อว่า เป็นแหล่งดำน้ำดูปะการังใต้น้ำที่สวยงาม และขึ้นชื่ออันดับต้น ๆ ทีเดียว แต่ก็ไม่คิดว่า วันนี้จะได้มาถึงสถานที่จริง แถมมาถึงแล้วยังไม่รู้จักชื่ออีกด้วย…!  น้องไต๋บอกกับลูกเรือว่า  … เกาะนี้น้ำทะเลจะตื้นกว่าเกาะทะลุ และมีปะการังมากกว่า สวยกว่า.. เมื่อได้ยินเช่นนั้น ความเครียดบนใบหน้าของหลาย ๆ คน จางไปกลับมีความแจ่มใส มีชีวิตชีวามาแทนที่ ความคึกคักกระตือรือร้นก็ดูว่าจะกลับมาอีกครั้ง 

         เกาะทะลุที่อยู่เบื้องหลังของพวกเรา ค่อย ๆ ย่อส่วนเล็กลงเรื่อย ๆ จนดูเหมือนจะพ้นจากสายตาและความสนใจของพวกเรา เมื่อน้องไต๋นำเรือมาถึงบริเวณเกาะง่ามน้อย  ที่เกาะนี้ ก็มีเรือนำเที่ยวพานักท่องเที่ยวมาดำน้ำดูปะการังอยู่ก่อนแล้วเช่นเคย

                

         

           .                                             (ภาพ :  เรือนำเที่ยวที่เกาะง่ามน้อย)    

                                          

              ข้างเกาะมีทุ่นสำหรับผูกเรือ แทนการทอดสมอ ซึ่งเป็นวิธีป้องกันไม่ให้สมอเรือลงไปกระทบกระแทกปะการังใต้น้ำจนเสียหายนั้นเอง น้องไต๋นำเรือผูกกับทุ่น เรียบร้อยแล้ว คนที่สมัครใจลงไปดูปะการังโดยไม่ลังเลเลยก็คือ คุณน้องเอิล  น้องเล็ก ส่วนน้อง ๆ ผู้หญิงคุณมะเดื่อจำไม่ได้ว่า น้องอร กับน้องฮานอยลงไปหรือเปล่า  

            การลงน้ำครั้งนี้   น้องไต๋ไม่เครียด เพราะทุกคนมีบทเรียนจากเกาะทะลุมาแล้ว จึงไม่วุ่นวายเหมือนที่เกาะทะลุ น้องไต๋ทำหน้าที่ไกด์พาน้อง ๆ ไปดำน้ำข้าง ๆ เกาะ โดยปล่อยให้น้องเอิลไปดูตามความสมัครใจอย่างอิสระ เพราะคงจะเห็นทักษะในการเป็น “นักดำน้ำที่เชี่ยวชาญ” แล้วนั่นเอง

           เราใช้เวลาที่เกาะนี้ไม่นานนัก  จึงขึ้นจากเรือ เนื่องจาก ใกล้เที่ยงแล้ว น้องอร น้องนาง น้องฮานอยจึงนำอาหารกลางวัน อันมีข้าวกล่อง ผลไม้ และเครื่องดื่มมาแจกจ่ายให้ทุกคน (ยกเว้นพ่อบ้านที่ยังคงนอนนิ่ง ๆ ) 

        

 

                                           

 

                     

 

               น้องไต๋ นำแตงโมมาปอกและผ่าด้วยฝีมือที่ชำนาญการ ทำเป็นชิ้นออกมาสวยงามน่าชม ( จนน้องแทนเอามาทำเป็นปลาคุยกันก่อนกิน ) เสร็จสรรพก็แจกจ่ายให้ทุกคนได้ชิมกัน  หลังมื้อเที่ยงผ่านไป น้องไต๋เตรียมตัวนำเรือไปยังเกาะที่สาม  ก็พอดีมีเรือยนต์ของเจ้าหน้าที่อุทยานแล่นมาจอดเพื่อเก็บค่าเข้าชมอุทยาน ( ซึ่งคุณมะเดื่อเข้าใจว่า อันตราค่าเข้าชมก็คงเท่า ๆ กันทุกอุทยาน และชาวต่างชาติต้องเสียแพงกว่าคนไทย ยกเว้นคุณมะเดื่อกับพ่อบ้าน ที่อายุเลยแซยิดแล้ว ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมนี้)  จากนั้น น้องไต๋ นายหัวเรือของเราก็เบนหัวเรือออกจากเกาะง่ามน้อย มุ่งหัวเรือสู่เกาะง่ามใหญ่ ซึ่งคราวนี้อยู่ไม่ไกลจากเกาะง่ามน้อย อันเป็นจุดหมายปลายทาง และเป็นเกาะสุดท้ายของทริปนี้

 

              

                                               ( ภาพ : เกาะง่ามใหญ่ และเรือท่องเที่ยว)

 

           น้องไต๋ประชาสัมพันธ์ว่า … ที่เกาะง่ามใหญ่นี้ น้ำจะตื้นกว่าสองเกาะที่ผ่านมา และมีปะการังที่สมบูรณ์และสวยงามที่สุด   เมื่อได้ยินดังนั้น  ความมีชีวิตชีวาของนักดูปะการังบนเรือก็กลับมาทันที ทุกคนเตรียมหาอุปกรณ์ดำน้ำที่ถอดวางเมื่อตอนกินข้าวมาสวมใส่เตรียมพร้อม  คราวนี้น้องนาง ขอลงด้วย เพราะผ่านมาสองเกาะแล้ว ที่ไม่ได้ลงน้ำ

          เมื่อเข้าเขตเกาะง่ามใหญ่ สิ่งที่ปรากฏแก่สายตาของทุกคน และทำให้ตื่นตาตื่นใจที่สุด ก็คือ น้ำทะเลที่สีเขียวอมฟ้าที่ใสปานกระจกที่โอบรอบเกาะขนาดใหญ่ตรงหน้าของพวกเรา   ความใสของน้ำทะเล มันใสจนทำให้เห็นก้อนหินและปะการังที่กระจัดกระจายอยู่ใต้พื้นน้ำได้โดยไม่ต้องดำลงไปได้ แม้ว่าภาพที่เห็นอาจจะไม่ชัดเจนแต่ก็ดูออกว่าเป็นปะการัง

         เมื่อน้องไต๋นำเรือจอดแล้ว น้องเอิลก็สวมวิญญาณนักประดาน้ำพุ่งหลาวลงสู่น้ำทันที ดำผุดดำว่ายอยู่ครู่หนึ่ง ก็นอนหงายลอยตัวโชว์พระอาทิตย์ซะงั้น  น้องเล็กก็ว่ายไปอีกด้านหนึ่ง ส่วนน้องไต๋ทำหน้าที่ไกค์พาสามสาวเกาะห่วงยางลอยตัวไปดูปะการังชาย ๆ เกาะ ปล่อยให้เด็ก ๆ รออยู่บนเรือก่อน  คุณมะเดื่อจึงพาน้องแทนดู “ ปลิงทะเล” ตัวโต ๆที่นอนสงบนิ่งอยู่บนทรายใต้น้ำ น้ำใสทำให้เห็นได้ชัดเจน  ปลิงทะเลตัวโต ๆ หลายตัว นอนนิ่งน่าดูมาก ทำให้คิดว่า จะน่าดูกว่านี้ หากได้มานอนในหม้อตุ๋นน้ำแดงยาจีน…อิ อิ อิ

                

 

 

 

 

 

 

 

 

         

                                        

 

             คุณมะเดื่ออยู่บนเรือกับเด็ก ๆ ที่ยังรอน้องไต๋ให้พาลงดูปะการัง ยอมรับว่า เกาะง่ามใหญ่งดงามมาก ๆ แม้จะมองเห็นโลกใต้ทะเลไม่ชัดเจน แต่ความงดงามของตัวเกาะก็ดูแล้วตรึงตรา ตรึงใจมากมายจริง ๆ  เกาะนี้มีเพิงพักของคนเก็บรังนกนางแอ่นที่สร้างอยู่ระหว่างโขดหินด้วย เนื่องจากไม่มีทางขึ้นหน้าผา จึงมีบันไดเชือกห้อยลงมาจากหน้าผาหินสำหรับป่ายปีนอยู่ด้วย  ที่คุณมะเดื่อชอบมาก ๆ ก็คือ  ที่ชายเกาะ มีต้นลั่นทมเขาที่มีดอกบานสะพรั่ง  กับ ต้นมะพร้าวที่มีลูกดกเต็มคอต้น  คุณมะเดื่อชี้ให้น้องแทนดูแล้วบอกว่า   “เกาะนี้เหมือนเกาะในหนังสือการ์ตูน ที่คนวาดมักจะวาดให้เกาะมีต้นมะพร้าวอยู่ด้วย” 

 

             

             

 

              เราใช้เวลาที่นี่นานกว่าสองเกาะแรก  เมื่อน้องไต๋พาสามสาวกลับมา น้องเอิล น้องเล็กก็กลับขึ้นเรือ  ส่วนเด็กน้อยทั้งสามที่รออยู่ น้องไต๋ก็พาลงน้ำไปเกาะห่วงยางลอยตัวดำน้ำดูปะการังใกล้ ๆ เรือ น้องแทนดูว่าจะกลัวความลึกของน้ำจึงเกาะห่วงซะแน่นไม่ยอมเหยียดแขนลอยตัวเหมือนเพื่อน ๆ ครู่หนึ่ง น้องไต๋จึงพาเด็ก ๆ ขึ้นเรืออาบน้ำจืด เตรียมตัวกลับเข้าสู่ฝั่ง

 

 

 

   พวกเราโบกมืออำลาเกาะง่ามใหญ่ ดินแดนอัญมณีสีมรกตแห่งท้องทะเลไทย ไว้เบื้องหลัง เมื่อน้องไต๋พาเรือและพวกเรากลับเข้าฝั่งในเวลาเกือบบ่ายสามโมง พ่อบ้านของคุณมะเดื่อหายเป็นปกติแล้ว พวกเรากลับขึ้นฝั่ง กล่าวขอบคุณน้องไต๋ แล้วเก็บสัมภาระขึ้นรถ เดินทางไปยังบ้านของน้องอร เพื่อพักผ่อนและรอน้อง ๆ ที่ลงน้ำได้ผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้า ก่อนที่น้องอรจะพาไปชมความงามของป่าชายเลนในเขตบริเวณอุทยานแห่งชาติทางทะเลหมู่เกาะชุมพร อันเป็นโปรแกรมต่อไป

 

                    …………………. โปรดติดตาม ตอนที่ 4 ต่อไป………..

 

หมายเลขบันทึก: 712359เขียนเมื่อ 18 เมษายน 2023 01:12 น. ()แก้ไขเมื่อ 18 เมษายน 2023 01:12 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท