ไต้หวัน - อาลีซาน ซากุระบานฉ่ำ (6) ปราสาทช็อกโกแลต สวยงาม อลังการ หวานชุ่มฉ่ำ

ไต้หวัน - อาลีซาน ซากุระบานฉ่ำ ( 6) ปราสาทช็อกโกแลต สวยงาม อลังการ หวานชุ่มฉ่ำ

หนานโถว (Nantou) ตั้งอยู่ใจกลางของเกาะไต้หวัน โดยเป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่ที่สุด และเป็นเมืองเดียวของไต้หวันที่ไม่มีเขตติดต่อกับทะเล เป็นที่ตั้งของภูเขาวี่ซานและภูเขาหยกซึ่งเป็นภูเขาที่สูงที่สุดในไต้หวันและสูงที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้เกิดภูมิประเทศทิวเขาสีเขียวกำมะหยี่เป็นลูกคลื่นสลับซับซ้อนงดงาม อันเป็นแหล่งกำเนิดแม่น้ำโจวสุ่ย แม่น้ำสายยาวที่สุดที่เปรียบเหมือนเส้นเลือดใหญ่ของไต้หวัน

หนานโถวเป็นดินแดนที่อุดมสมบูรณ์เหมาะแก่การเป็นแหล่งทำการเกษตร ทำนาข้าว เพาะปลูกชา จึงทำให้พื้นที่เต็มไปด้วยความสดชื่นเขียวชอุ่มตลอดปี เป็นจุดที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติเดินทางมาท่องเที่ยวและพักผ่อนใช้ชีวิตใกล้ชิดกับธรรมชาติ สัมผัสอากาศเย็นสบายในช่วงฤดูร้อน และนั่งชมหิมะโปรยปรายในฤดูหนาว

ก่อนที่จะเดินทางไปล่องเรือในทะเลสาบสุริยันจันทรา ทะเลสาบที่สวยงามและเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงที่สุดของไต้หวัน ได้แวะไปเปลี่ยนบรรยากาศที่ปราสาทช็อกโกแลต Cona's Chocolate Castle ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากท่าเรือทะเลสาบสุริยันจันทรามากนัก

ปราสาทช็อกโกแลตเป็นสถานที่ท่องเที่ยวไฮไลท์ของเมืองหนานโถว ตัวปราสาทสีงาช้าง เป็นสถาปัตยกรรมสไตล์อังกฤษที่สวยงามโอบล้อมด้วยสวนสไตล์อังกฤษที่ตกแต่งด้วยต้นโกโก้และดอกไม้นานาพรรณ ในสวนมีมุมพักผ่อนและมุมถ่ายภาพมากมาย และยังมีมุมสำหรับเด็กๆได้เล่นสนุกอีกด้วย

ปราสาทช็อกโแลตแห่งนี้แต่เดิมคือ Nina 's Chocolate Fantasy Castle ตั้งอยู่ใน Ching Jing Chocolate Workshop ในปี 2017 ได้แยกออกมาเปิดสาขาเป็น Cona's Chocolate Castle เพิ่มอีกแห่งหนึ่ง

ต้นโกโก้ที่ปลูกอยู่ในสวนรอบปราสาท เป็นพืชพื้นเมืองในเขตร้อนชื้นของอเมริกากลางและอเมริกาใต้ ต้นสูงประมาณ 3-8 เมตร โตเต็มที่อาจสูงได้ถึง 13 เมตร โกโก้ให้ผลผลิตหลังปลูก 2-3 ปี เมล็ดของโกโก้มักนำมาใช้ทำเป็นของหวาน เช่น ผงโกโก้ และช็อกโกแลต
ในต่างประเทศโกโก้มีหลายสายพันธุ์ แต่ที่ปลูกได้ผลดีและเป็นที่นิยมในเมืองไทยมี 2 สายพันธุ์ คือพันธุ์ลูกผสมชุมพร ผลสุกสีเหลือง กับพันธุ์ลูกผสม IMI ผลสุกมีสีแดง

ส่วนที่ใช้ประโยชน์ของโกโก้คือส่วนเมล็ด เมื่อแกะออกจากเปลือกแล้วให้นำมาหมักเพื่อให้ได้เมล็ดโกโก้แห้งที่มีกลิ่น รส และคุณภาพดี โดยนำเมล็ดโกโก้ไปตากให้แห้ง 3-4 วัน ให้เหลือความชื้นไม่เกิน 75% เมล็ดภายในจะเป็นสีน้ำตาล สีโกโก้ หรือสีเหลือง จึงนำมาบรรจุกระสอบรอจำหน่ายต่อไป
การแปรรูปโกโก้มีกรรมวิธี คือ การคั่ว กระเทาะเปลือก บด และแปรรูป การคั่วเมล็ดโกโก้ให้คั่วที่อุณหภูมิ 120 - 130 องศาเซลเซียส ประมาณ 10 - 30 นาที จะทำให้รสชาติและกลิ่นของโกโก้ดียิ่งขึ้น โกโก้ที่คั่วแล้วสามารถบรรจุถุงจำหน่ายเป็นของขบเคี้ยวได้ เพราะเปลือกของโกโก้แกะออกง่ายเหมือนเมล็ดแตง

ขั้นตอนต่อไปของการแปรรูปคือนำเมล็ดโกโก้ที่คั่วแล้วมาสีหรือกระเทาะเปลือกหุ้มเมล็ดออก จากนั้นนำไปตำให้ละเอียดเป็นผง เรียกว่า เนื้อโกโก้ หรือ Cocoa Mass ถ้าบีบแยกน้ำออก ส่วนที่เป็นน้ำจะเป็นเนยโกโก้ ส่วนที่เป็นผงคือผงโกโก้ใช้สำหรับชงเป็นเครื่องดื่ม เนื้อของโกโก้สามารถนำไปแปรรูปเป็นขนม เช่น นำไปผสมกับน้ำตาลมะพร้าวปั่นละเอียดแล้วเทใส่พิมพ์แช่ตู้เย็น 4 ชั่วโมงจะได้ชอกโกแลตโฮมเมด และถ้าเติมนมผงลงไปด้วยก็จะได้ช็อกโกแลตนม เป็นต้น

ปราสาทมีทั้งหมด 3 ชั้น ชั้นล่างสุดมีการฉายภาพ 3 มิติและฉายความรู้เชิงโต้ตอบ (interactive) มี Choco Bar จำหน่ายสินค้าจากช็อกโกแลต ของที่ระลึก และขนมแสนอร่อยในบรรจุภัณฑ์ที่สวยงามน่ารัก

เมื่อเดินขึ้นบันไดไปที่ชั้น 3 จะได้ชมประวัติการทำช็อกโกแลต การผลิตช็อกโกแลต และเรียนรู้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับช็อกโกแลตที่ Cocoa Bible สนุกสนานกับกิจกรรม DIY ทำช็อกโกแลตแฮนด์เมด และมีมุมเล่นเกมเพื่อรับบัตรส่วนลดสำหรับการซื้อสินค้าต่างๆที่ชั้นล่าง หรือรับประทานอาหารและเครื่องดื่มที่บริเวณชั้น 2

ปราสาทช็อกโกแลต Cona's Chocolate Castle แห่งนี้เหมาะกันนักท่องเที่ยวทุกเพศทุกวัย หรือจะมาทั้งครอบครัวมาใช้เวลาร่วมกันในวันหยุด มาถ่ายภาพสวยๆในสวนอังกฤษ มาเรียนรู้และฝึกทำช็อกโกแลตโฮมเมด มารับประทานอาหารและเครื่องดื่ม ล้วนแต่ดีงามทั้งนั้น ปราสาทช็อกโกแลตเปิดบริการทุกวัน ระหว่างเวลา 10.00 น. - 17.30 น. เสียค่าเข้าชม รวมค่าชุดเสื้อผ้าสไตล์ผู้ดีอังกฤษสำหรับใส่ถ่ายภาพ 200 TWD/คน