๑๐๑๐. การเรียนรู้ชีวิตจริงด้วยการฝึกฝนตนเอง


การเรียนรู้ชีวิตจริงด้วยการฝึกฝนตนเอง

นับตั้งแต่มนุษย์ลืมตาเกิดขึ้นมาอยู่บนโลกใบนี้แล้ว ในทุก ๆ เรื่องราว จะถือได้ว่า คือ การฝึกฝนตนเองทั้งนั้น…ขึ้นอยู่กับผู้ใดจะฝึกฝนตนเองได้มากหรือน้อยกว่ากัน เพราะขึ้นอยู่กับปัจจัยสาเหตุหลากหลายที่ทำให้มนุษย์ได้รับจากการฝึกฝน เช่น ครอบครัว พ่อแม่ ญาติพี่น้อง คนใกล้ชิด ครู อาจารย์ สถาบันการศึกษาในทุก ๆ ระดับ ที่คนผู้นั้นได้อยู่ในสภาพแวดล้อมกับการใช้ชีวิตในเบื้องต้น มีปัจจัยมากมายที่เกี่ยวข้องกับการใช้ชีวิต ความจน ความรวย การมีฐานะของครอบครัว มีส่วนในการฝึกฝนการใช้ชีวิตจริงทั้งนั้น โดยเฉพาะความรู้ ความเข้าใจในความเป็นจริงของการใช้ชีวิตบนโลกใบนี้อีกด้วย ซึ่งเป็นการฝึกฝนตนเองกันจนหมดลมหายใจ หากสังเกตดี ๆแต่ส่วนใหญ่ มักหลงระเริงไปกับทางโลก…วัตถุนิยมทางโลกกันเสียมากกว่า ถ้าหากพิจารณากันให้ดี ๆในความเป็นจริงแล้ว ธรรมะจะควบคู่กับการใช้ชีวิตจริงเสมอมา เพราะธรรมะ หมายถึง ธรรมชาติ 

ความเป็นจริงกับการใช้ชีวิตที่ควบคู่กับโลกอยู่แล้ว เพียงแต่มนุษย์จะไม่ค่อยใส่ใจ สนใจกันมากนัก เอาเป็นว่าความจริงจะเหนื่อย ไม่สนุก ไม่ค่อยมีความสุขกันสักเท่าไร เพราะความต้องการส่วนใหญ่ของมนุษย์บนโลกใบนี้นั้น ต้องการความสนุกสนาน เพลิดเพลินไปกับการแสวงหาการมีความสุขให้กับตนเองมากกว่า จะไม่ค่อยยอมรับความเป็นจริงในการที่ตนเองต้องเผชิญกับความทุกข์ ซึ่งจริง ๆ แล้ว มนุษย์จะเรียนรู้ความสุขจากความทุกข์นั่นเอง เป็นเพราะมนุษย์ไม่ค่อยคิดแบบนี้ได้กัน จึงเอาแต่แสวงหาความสุขทางโลก ซึ่งเป็นของไม่เที่ยงแท้และจีรัง ยิ่งยุคปัจจุบันจะเน้นกันไปในทางทุนนิยม วัตถุนิยมกันเสียมากกว่าอย่าลืมว่า…โลกใบนี้มนุษย์จะประกอบไปด้วยเกี่ยวกับทางกาย + ทางใจ แต่มนุษย์ส่วนใหญ่จะเน้นไปทางการแสวงหาทรัพย์ทางโลก เพื่อตอบสนองให้กับทางกายมากกว่าทางจิตใจ ลืมนึกไปว่าชีวิตของเราจะต้องมีเรื่องจิตใจไปด้วย…เราจะหลงไปกับความรู้ที่มุ่งเน้นให้มนุษย์หาเงิน เพื่อนำมาเป็นส่วนหนึ่งในตอบสนองกับความต้องการทางกายของตนเอง โดยลืมไปว่า…จิตใจ ซึ่งใช้ความรู้ทางหลักธรรม คำสอนของศาสนา (ศาสนาใด ๆ ก็ได้เพราะมุ่งสอนให้มนุษย์ปฏิบัติตนเป็นคนดี มีคุณภาพยิ่งขึ้น)…มาช่วยประกอบใช้ในการดำรงชีวิตจริงทั้งสองส่วน…

มนุษย์ยังไม่ค่อยใช้ความรู้ทั้งสองส่วนนำมาประยุกต์ใช้กับชีวิตจริงกันได้มากนัก จึงทำให้สังคมรวนเร มีคนที่ไม่ค่อยทราบความจริงว่าเกิดมาเพื่ออะไรกันมากนักเท่าไร…หากเกิดความเข้าใจกันจริง ๆ ขึ้นแล้ว ทั้งสองส่วนจะมีส่วนช่วยให้กับมนุษย์ได้เกิดการพัฒนา และมีคุณภาพมากยิ่งขึ้น ปัญหาต่าง ๆ ที่เป็นปัญหาสังคมก็จะลดน้อยลงได้ เมื่อเกิดความเข้าใจกันจริง ๆ มิใช่มุ่งประเด็นว่าเกิดมาต้องเรียนรู้เพื่อได้รับความรู้ทางด้านวัตถุ เพื่อให้ได้เงินทองมาเพื่อตอบสนองทางกายให้มากกว่า โดยไม่ได้คำนึงถึงด้านจิตใจ ซึ่งต้องใช้หลักธรรมตามศาสนามาประกอบใช้ในการดำรงชีวิต เพราะสุดท้ายเมื่อโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ การฝึกจิตใจที่เข้มแข็งนั้น จะมีความต้องการมาก ๆ กับการที่เรียนรู้จริงในเรื่องของสมาธิ…พุทธศาสนาหากใครได้ศึกษาจริง ๆ นั้น จะมีการให้มนุษย์รู้จักในเรื่องของศีล ซึ่งเป็นเบื้องต้น กับเรื่องของสมาธิ สุดท้ายคือการภาวนา หรือปัญญา 

เมื่อทราบครบก็จะนำมาประยุกต์ใช้กับชีวิตจริงของตัวเราเองได้ เพราะมนุษย์เกิดมาประกอบด้วย สองสิ่ง คือ ทรัพย์ภายนอกที่ต้องใช้ในการดำรงชีวิต ได้แก่ การแสวงหาความรู้ เพื่อนำไปทำงาน ประกอบอาชีพ หารายได้เพื่อหล่อเลี้ยงตนเองให้สามารถมีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ได้ กับการแสวงหาอริยทรัพย์ คือ ทางจิตใจของตนเองที่จะได้กระทำยามที่อยู่บนโลกใบนี้ เพื่อต่อทุนให้กับตนเองได้มีชีวิตที่อยู่ดี มีความสุขทางใจ มีจิตที่ตนเองมีความคิดประกอบกรรมดี ฝึกจิตใจให้เข็มแข็งตามหลักธรรม หากเกิดความเข้าใจจริง ๆ แล้ว จะสามารถใช้ชีวิตให้ดำรงอยู่บนโลกใบนี้ได้อย่างแท้จริง และมีอริยทรัพย์ในการกระทำดีติดตัวไปทุกภพทุกชาติ เพราะที่พบ มนุษย์ส่วนมากไม่ค่อยเกิดความเข้าใจตนเองสำหรับการเกิดมาบนโลกใบนี้มากนักว่า เกิดมาเพื่ออะไรกัน ใช้ชีวิตสนุกสนานไปวันหนึ่ง ๆ เท่านั้น และไม่ค่อยฝึกให้ถึงการภาวนา มีปัญญาในการคิดแก้ไขปัญหาในชีวิตกันมากนัก จึงทำให้เป็นปัญหาสังคมมากมายเช่นทุกวันนี้หากมนุษย์เกิดการสะสมการกระทำทั้งสองส่วนข้างต้น จะสามารถนำไปสู่โลกนิพพาน เช่น คำสอนของพระพุทธเจ้าได้ เพราะได้ปฏิบัติดี กระทำดีต่อตนเอง กฎแห่งกรรม ตามคำสอนนั้น ยังใช้ได้เสมอกับการใช้ชีวิตจริงบนโลกใบนี้ตามความเป็นจริง ความรู้แบ่งเป็นเป็นสองส่วนตามที่กล่าวมาข้างต้น ที่กำลังดำเนินการกันนั้น คือ ส่วนแรกสำหรับความรู้ แต่ไม่ค่อยทำกันในส่วนที่สอง เพราะอาจไม่เข้าใจกันจริง ๆ เนื่องจากไม่ได้ลงมือปฏิบัติกันจริง หากลงมือปฏิบัติได้แล้ว และเกิดผลจริง ๆ จะทราบว่า นั่นคือ “ใช่” ตามที่ผู้เขียนกล่าว 

และจะทำให้เกิดมีมนุษย์คุณภาพเกิดขึ้นบนโลกใบนี้จากการเรียนรู้ และปฏิบัติจริง ๆ ในทั้งสองส่วนดังกล่าวสิ่งสำคัญ คือ การสร้างหลักสูตรที่สามารถนำไปใช้ในการหาเลี้ยงชีพ และการใช้ชีวิตที่มีความสุขอย่างแท้จริงทางด้านจิตใจ มีส่วนสำคัญมากในการใช้ชีวิตจริงของมนุษย์ ควรสร้างหลักสูตรที่คำนึงถึงการใช้ชีวิตจริงให้ได้มากกว่าที่จะหลง ระเริงกับทุนนิยม หรือวัตถุนิยมกับยุคปัจจุบันนี้…หากนำไปประยุกต์ใช้ได้จริง ๆ จะทำให้โลกเห็นถึงความคุ้มค่าของทรัพยากรมนุษย์ และความคุ้มทุนของต้นทุนมนุษย์กับระบบของการศึกษาขึ้นได้เช่นกัน

********

ขอขอบคุณทุกท่านที่ให้เกียรติเข้ามาอ่านบันทึกนึ้ค่ะ

บุษยมาศ แสงเงิน

 



ความเห็น (2)

หลักสูตรเพื่อให้คนใช้ชีวิตเป็น สำคัญมากค่ะ

ใช่ค่ะ พี่แก้ว ขอบคุณค่ะ

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท