งานสำคัญประจำปีของโรงเรียน มีปีละหนึ่งครั้ง เหมือนงานบุญกฐินยังไงยังงั้นเลย แต่ปีนี้เจ้าอาวาสอย่างผมคงจัดให้เด็กๆเป็นปีสุดท้าย เพราะปีหน้าก็จะต้องไปเป็นชาวบ้านธรรมดาสามัญ
ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย พูดคำว่า..สุดท้าย...เนื่องจากกิจกรรมดีๆที่เข้ามาสู่ชีวิตประจำวัน คงไม่ทันได้หวนกลับมา ให้คิดใหม่ทำใหม่ ด้วยชีวิตราชการ..ลิขิตไว้แต่เพียงเท่านี้
ปีนี้..ยกงานวันเด็กให้ครูช่วยกันดำเนินการ ผอ.ขอดูอยู่ห่างๆอย่างห่วงๆ เนื่องจากไม่ได้จัดมา ๒ ปีติดต่อกัน อันเนื่องมาจากพิษภัยของโควิด ที่คิดอ่านอะไรไม่ได้เลย
ครั้งสุดท้ายคือปี ๒๕๖๓ จำได้ว่าจัดวันศุกร์เป็นครั้งแรก รู้สึกตะขิดตะขวงใจ ที่ไม่อาจจัดให้ตรงกับ “วันเสาร์” เหตุผลตอนนั้น ไม่อยากขัดใจครู ที่อยากให้หนูๆไปเที่ยวงานวันเด็กที่อื่นบ้าง
มาปีนี้ก็จัดวันศุกร์อีก ตรงกับวันที่ ๑๓ มกราคม ๒๕๖๖ เพื่อเปิดโอกาสให้ครูและนักเรียนได้ไปร่วมงาน”วันเด็ก”ของเทศบาล งานนี้ก็ถือว่าได้สัมพันธ์ชุมชนไปด้วย
บทเรียนรอบด้านของงานวันเด็ก อยู่ในความทรงจำอย่างต่อเนื่องไม่รู้ลืม ในช่วง ๕ ปีแรกที่มาอยู่โรงเรียนหลังนี้ ที่มีนักเรียนไม่ถึง ๖๐ คน ก็จัดงานได้ตามสภาพ คือเรียบง่าย ไม่ต้องมากพิธี ไม่ต้องมีสีสัน ไม่ต้องแจกของขวัญแค่มีอาหารคาวหวานให้เด็กๆ ก็เพียงพอแล้ว
ต่อมา..เมื่อโรงเรียนเติบโตขึ้น ผู้ปกครองและชุมชนก็เข้ามามีส่วนร่วมมากขึ้น ครูเหนื่อยน้อยลง ชาวบ้านร้านตลาด มาร่วมบริจาคอาหาร ขนมและผลไม้ โดยที่ไม่ต้องนัดหมายแต่อย่างใด
ปี พ.ศ.๒๕๖๑ – ๒๕๖๓ ภาพงาน”วันเด็ก”ชัดเจนที่สุด สายธารแห่งศรัทธาจากทั่วสารทิศ ทั้งในและนอกหมู่บ้าน ทั้งภาครัฐและเอกชน มาช่วยงานอย่างล้นหลาม ทำให้ผู้ปกครองประทับใจ
เด็กๆสนุกกับเกมสันทนาการ กับเสียงดนตรี ที่โรงเรียนมอบให้เป็นพิเศษ เหมือนจะบอกกับทุกๆคนว่า แม้เราจะเป็นโรงเรียนเล็กๆ แต่เพื่อเด็ก..เราก็สามารถแบ่งปันให้มันยิ่งใหญ่ได้
ปีนี้..ต้องบอกว่าเตรียมตัวดีมาก...อยากเห็นภาพเด็กและผู้ปกครองมีความสุขอีกครั้ง ผมรีบให้ครูประชาสัมพันธ์การจัดงาน..ลงเฟสโรงเรียนและกลุ่มไลน์ทุกชั้นเรียน
เพื่อให้มีการเตรียมตัวเตรียมใจไว้แต่เนิ่นๆ และยังเชิญชวนด้วยว่า...ยินดีที่จะรับการช่วยเหลือและสนับสนุนการจัดงานในครั้งนี้...ทุกรูปแบบ...
ผลที่สุด...ครูธุรการก็ต้องรับโทรศัพท์อย่างไม่ขาดสาย ลงทะเบียนอยู่หลายวัน ว่ามีใครบ้างที่จะเป็นเจ้าภาพร้านอาหาร เหมือนจัดโรงทานงานบุญกฐิน มีทั้งข้าวแกง ข้าวมันไก่ ก๋วยเตี๋ยว ไก่ทอด ส้มตำ และ น้ำส้ม ขนมหวาน ไอศกรีม ครบครัน แต่ละอย่างซ้ำกันบ้างก็ไม่เป็นไร
ส่วนขนมถุงกรุบกรอบของชอบของเด็กๆ ได้รับการบริจาคอย่างอบอุ่น เช่นเดียวกับอุปกรณ์การเรียนที่เป็นของขวัญอย่างดีที่เด็กๆจะได้ ไม่ต้องซื้อไปอีกนาน
งานวันเด็กปีนี้ ผมได้รับเงินบริจาคมากกว่าทุกปี จากเพื่อนๆและผู้ปกครอง ที่เห็นว่าอาหารคาวหวานมีมากพอแล้ว จึงขอช่วยเป็นเงิน เพื่อให้โรงเรียนไปจัดซื้อของขวัญและของรางวัลต่างๆ
คณะครู..ตกลงกันว่า หลังจากเด็กรับประทานอาหารแล้ว ก่อนกลับบ้าน เด็กทุกคนต้องได้ของขวัญคนละ ๑ ชิ้น ของรางวัลคนละ ๑ ถุงใหญ่ และจักรยานชั้นละ ๑ คัน อันนี้ต้องลุ้นด้วยการจับสลาก จะได้ตื่นเต้นบ้างเล็กน้อย
เพื่อปลอบขวัญ และให้กำลังใจนักเรียน ผู้ปกครองและชุมชน ที่สามารถหลุดพ้นมหันตภัยโควิดมาได้ โรงเรียนจึงขอมอบการแสดงบนเวที เป็น “ดนตรีชุดใหญ่” แบบเต็มวง ซึ่งไม่เคยมีปีไหนที่เตรียมการไว้ถึงขนาดนี้..
ครับ โรงเรียนจะมั่นคงและเข้มแข็ง จะยั่งยืนแค่ไหน ดูได้ที่งานวันเด็ก ลำพังโรงเรียนเล็กๆ ก็แทบจะทำอะไรไม่ได้มาก ถ้าเขาไม่ศรัทธา..ความดี..ที่ต้องใช้เวลา หาซื้อกันไม่ได้ อยากได้ต้องสร้างผลงานและทำ “คุณภาพ”ให้เกิดขึ้น
ชยันต์ เพชรศรีจันทร์
๑๒ มกราคม ๒๕๖๖
เด็กๆคงตื่นเต้นดีใจกับงานวันเด็กที่คุณครูร่วมกันจัดให้เขานะคะ อยากย้อนกลับไปเป็นเด็กจังค่ะ