๑๐๐๙. มนุษย์เกิดมาเพื่อฝึกฝนตนเอง


มนุษย์เกิดมาเพื่อฝึกฝนตนเอง

มนุษย์…ตั้งแต่เกิดมาด้วยอาการลืมตาดูโลก มีพ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย เลี้ยงมาเพื่อให้เติบโตเป็นผู้ใหญ่ได้นั้น จะด้วยวิธีการเลี้ยงแบบใดก็ตาม อาจเลี้ยงด้วยวิธีการที่ไม่เหมือนกัน เกิดจากสภาพแวดล้อม การมีโอกาส มีฐานะ มีทรัพย์สินเงินทอง ฯลฯ ที่มีอยู่ไม่เท่าเทียมกันตั้งแต่เริ่มต้นของการเกิด แต่สิ่งหนึ่งที่แฝงอยู่ในสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ นั่นคือ การฝึกมนุษย์ให้ได้เรียนรู้ และรู้จักมนุษย์ให้มากขึ้น เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า “การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์”

การฝึกมนุษย์นั้น เพื่อให้มนุษย์ได้รับการพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น ในการที่มนุษย์ได้รับการฝึกฝนนั้น ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อม คนเลี้ยงดู การสอนที่ทำให้มนุษย์มีความแตกต่างกัน อาจรวมถึงทุนเดิมที่คนเราเกิดมาแตกต่างกัน…ความจริงไม่ต้องการพูดถึงเรื่องการที่แต่ละคนมีทุนเดิมอยู่แล้ว แต่ให้สังเกตได้ว่า พ่อ-แม่ มีลูกสองคน ลูกสองคนนั้น ยังมีนิสัย พฤติกรรมบางอย่าง จิตใจของแต่ละคนก็ยังไม่เหมือนกันเลย นี่ขนาดเป็นพี่น้องท้องเดียวกัน คือ มีพ่อ-แม่ คนเดียวกันแท้ ๆ ต้นทุนดั้งเดิมยังไม่เหมือนกันเลย น้อยคนที่จะมีคล้ายกันนั้น น้อยมาก…แต่ส่วนใหญ่จะเป็นดังที่กล่าวมาข้างต้นมากกว่า แล้วอะไรล่ะ!!! คือ คำตอบที่ทำให้มนุษย์แต่ละคนมีความแตกต่างกัน ทางธรรมะจะบอกว่า นี่คือ “กฎแห่งกรรม” เป็นกรรมของแต่ละคนที่สะสม หรือกระทำมาไม่เหมือน หรือเท่ากัน จึงทำให้มนุษย์ในแต่ละคนมีความแตกต่างกัน อย่าเพียรพยายามที่จะทำให้ทุกคนมีความเท่าเทียมกัน หรือเสมอภาคกัน…แต่มนุษย์จะมีชีวิตอยู่ร่วมกันด้วยการมีความรู้ ความสามารถที่หลากหลายกัน โดยใช้ความรู้ ความสามารถที่หลากหลายนั้นอยู่ด้วยกันได้อย่างสันติสุข

ดังนั้น มนุษย์ทุกคนเกิดมาเพื่อต้องฝึกตนเองให้มีความเข้าใจในสัจธรรม ความเป็นจริงของชีวิตว่าเกิดขึ้นมาเพื่ออะไร…และทำไมต้องเกิด? รายทางเดินระหว่างทางที่ตนเองได้เกิดมานั้น นั่นคือ คำตอบของตนเองว่า ในชาติหนึ่งที่ได้เกิดขึ้นมานี้ ตนเองได้กระทำกรรมดี-กรรมชั่วอะไรมาบ้าง? สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ คือ คำตอบของตัวเราเองว่า เราเกิดมาภพนี้แล้ว ตัวเราได้กระทำสิ่งดี-ไม่ดีอะไรบ้าง?…ตัวเราเองเท่านั้นจะรู้จริงด้วยตัวของเราเอง มิใช่คำพูดของผู้อื่นเป็นผู้ตัดสิน เมื่อเราทราบดังนั้น จะส่งผลไปยังจิตใจของเราเอง สิ่งนี้แหล่ะ!!!…ที่จะเป็นตัวชี้วัดให้กับตัวของเราเองว่า ตัวเรามีสุขหรือทุกข์ภายในใจของเราเอง…ดังนั้น ขึ้นอยู่กับมนุษย์ทุกคนที่จะต้องฝึกฝนตนเองด้วยการกระทำ หรือพฤติกรรมของตัวเราเองให้กระทำดี-ชั่ว ด้วยตัวของเราเองเป็นผู้เลือก ทุกเรื่องขึ้นอยู่กับความรู้ที่เราได้เรียนรู้มา รวมถึงสัญชาตญาณเดิมที่ติดตัวมา เพราะเป็นต้นทุนมนุษย์ที่แต่ละคนสะสมมาไม่เหมือน หรือเท่าเทียมกันได้ สิ่งต่าง ๆ ที่กล่าวมา คงต้องอาศัยกาลเวลาเป็นตัววัดผลของการกระทำดังกล่าว ด้วยการฝึกฝนตนเอง จนสุดท้ายก็จะเกิดลักษณะอาการที่เหมือน หรือเท่าเทียมกัน

สังเกตได้จากรายทางตั้งแต่แรกเกิดจนถึงวันสิ้นลมหายใจ…มนุษย์จะไม่พ้นกับคำว่า “เรียนรู้ เพื่อฝึกฝนตนเองตลอดรายทางที่ได้เกิดมาบนโลกใบนี้”…ทุก ๆ ลมหายใจ นั่นคือ การฝึกฝนตนเอง ฝึกกาย ฝึกใจตนเองให้ได้เรียนรู้ว่าเราเกิดมาทำไม? เกิดมาเพื่ออะไร?…เป็นการเรียนรู้ในสัจธรรม ความเป็นจริงของชีวิต…และไม่ควรเพลิดเพลินกับสิ่งที่อยู่บนโลกนี้ให้มากนัก เพราะนั่นแสดงถึง “ความหลงโลก”…ไม่เข้าใจในหลักสัจธรรม ความจริงของชีวิตสักเท่าไร?…บางคนให้ความสนุก สุขกับตนเองมากจนเกินไปแล้วคิดว่า สิ่งที่เกิดขึ้นกับตนเองที่กำลังมีความสุข สนุกในทุกวันของชีวิตนั้น เป็นของจริง หากเข้าใจความเป็นจริงบนโลกใบนี้แล้ว จะเกิดความเข้าใจในตนเองว่า เมื่อมีสุข อีกไม่นาน ก็จะทุกข์ เมื่อมีทุกข์ อีกไม่นานก็จะสุข…สลับเปลี่ยน หมุนเวียนกันไปแบบนี้อยู่เสมอ ๆ (หากเป็นคนที่ช่างสังเกต…จะเข้าใจ และนำมาปรับใช้กับชีวิตของตนเองได้ จนเกิดเป็นความเข้าใจในชีวิตมนุษย์)

ดังนั้น…มนุษย์ควรเข้าใจตนเองว่า “เกิดมาเพื่อฝึกฝนตนเองให้เข้าใจ และเรียนรู้เกี่ยวกับชีวิต มีความเข้าใจมนุษย์และเพื่อนมนุษย์ให้มากยิ่งขึ้น ด้วยการไม่ทำร้าย เบียดเบียนกัน อยู่กันด้วยความสงบสุข ไม่แข่งขันกันมากจนเกินไป ไม่เห็นแก่ตนเอง มองผลประโยชน์ส่วนรวมเป็นหลัก และควรเล็งเห็นถึงมนุษย์ที่จะเกิดมาในอนาคตด้วย มิใช่มองแต่เฉพาะรุ่นตนเองเท่านั้น เพราะนั่นแสดงถึงการคิดเห็นแบบการเห็นแก่ตัว”…คงเป็นการที่จะต้องร่วมกันสร้างในระดับโลกก็ว่าได้…ผู้เขียน ๆ ตามความคิด และการใช้ชีวิตของตนเองมานานถึง ๖๐ ปี…ทุกชีวิต เกิดมาเพื่อฝึกฝนให้ดียิ่งขึ้น เพราะนี่คือ การพัฒนาตนเองจากการเกิดมาเป็นทรัพยากรมนุษย์ เกิดมาต้องมีคุณภาพ มีศักยภาพ มีคุณค่า และมีประโยชน์ต่อโลกมนุษย์ให้มากที่สุด เท่าที่แต่ละคนจะทำได้…แล้วคุณล่ะ? ทำสิ่งใดที่มีประโยชน์ต่อโลกใบนี้ และส่วนรวมกันบ้าง?

************************

ขอขอบคุณทุกท่านที่ให้เกียรติเข้ามาอ่านบันทึกนี้ค่ะ

บุษยมาศ แสงเงิน

๒๙ พฤศจิกายน ๒๕๖๕



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท