บัญญัติ สุวรรณแว่นทอง หรือ เดียว
บัญญัติ สุวรรณแว่นทอง หรือ เดียว (เกิด พ.ศ. 2531)เป็นนักร้องเพลงลูกทุ่ง นักแสดงหนังตะลุงและศิลปวัฒนธรรมภาคใต้ มีชื่อเสียงจากแสดงหนังตะลุงล้อเลียนเหตุการณ์บ้านเมืองได้อย่างมีอรรถรสแม้พิการทางสายตาตั้งแต่กำเนิด โดยเริ่มแสดงหนังตะลุงตั้งแต่ยังเป็นวัยรุ่นและทำเป็นอาชีพจนถึงปัจจุบัน อีกทั้งยังร้องเพลงด้วยน้ำเสียงอันเป็นเอกลักษณ์จนมีผู้นิยมชมชอบอย่างมาก
-นอกจากนี้ บัญญัติได้เริ่มทำการแสดงจากการเป็นลูกคู่ประกบศิลปินท้องถิ่นที่มีชื่อเสียงในเวลานั้น เช่น เอกชัย ศรีวิชัย ต่อมาได้รับโอกาสจากค่ายดนตรีท้องถิ่นในการออกอัลบั้มเป็นของตนเองจนมีชื่อเสียงควบคู่กับการแสดงหนังตะลุง ในเวลาต่อมาบัญญัติตั้งคณะ "ลูกทุ่งวัฒนธรรม" เพื่อออกผลงานทางศิลปวัฒนธรรมภาคใต้โดยประยุกต์เข้ากับวัฒนธรรมสมัยใหม่ เช่น ออกเพลงล้อเลียนเพลงที่โด่งดังในภาคใต้และเสียดสีเหตุการณ์ในปัจจุบัน โดยเผยแพร่ทางยูทูบของคณะและตามงานการแสดงต่าง ๆ
บัญญัติแม้จะมีผลงานการแสดงที่เป็นน่าพึงใจ สร้างชื่อเสียงจนได้รับการเชิดชูเกียรติ
*ประวัติ
*การแสดง
-บัญญัติได้ติดตามผลงานทางศิลปวัฒนธรรมภาคใต้ตั้งแต่เยาว์วัย เช่น เพลงบอก หนังตะลุง เพลงของเอกชัย ศรีวิชัย ทำให้บัญญัติมีความชื่นชอบในศิลปะเหล่านี้อย่างมาก และอยากมีชื่อเสียงจากการแสดงศิลปะเหล่านี้ จึงเริ่มฝึกหัดตั้งแต่อายุได้ 10 ปี จากนั้นได้เริ่มตระเวนไปแสดงกับวงธงชัยโชว์ และรู้จักกับเชาวรัตน์ รักษาพล ครู กศน. ผู้ก่อตั้งวงครูเชาว์โชว์ จึงได้เริ่มแสดงทอล์กโชว์ด้วยกันในบางโอกาส
-ต่อมาเมื่ออายุได้ 14 ปี บัญญัติได้ร่วมเดินสายการแสดงกับศรีวิชัยโชว์ของเอกชัย ศรีวิชัย โดยการร้องเพลง เมื่อออกงานได้ประมาณ 10 คืน เหล่าผู้ชมจึงได้มอบเงินประมาณ 100,000 บาทด้วยความเอ็นดู เอกชัยจึงสมทบทุนให้เพิ่มเติม หลังจากนั้นบัญญัติได้นำเงินก้อนนี้ไปซื้อที่ดินเพื่อสร้างบ้านให้มารดา
(บัญญัติ ขณะแสดงหนังตะลุง เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2562)
-ส่วนหนังตะลุงบัญญัติเริ่มเล่นอย่างจริงจังเมื่ออายุได้ 15 ปี โดยในครั้งแรกเขาได้แสดงบนเพิงขายขนมจีนหน้าบ้าน โดยมีชาวบ้านมาชื่นชมในความสามารถในการพากย์เสียงและมุกตลก จนต่อมาบัญญัติได้ก่อตั้งคณะ “ลูกทุ่งวัฒนธรรม” เพื่อทำการแสดงเมื่ออายุได้ 18 ปี ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมากจากเอกลักษณ์ของการแสดงหนังตะลุง นอกจากนี้คณะของบัญญัติยังมีมโนราห์ เพลงบอก และเพลงลูกทุ่งอีกด้วย บัญญัติกล่าวว่าที่สามารถเล่นหนังตะลุงได้ดีแม้พิการเพราะฝึกฝนและสร้างความคุ้นเคยกับตัวหนังตะลุง อีกทั้งมีการดูสถานการณ์ในขณะที่กำลังทำการแสดงด้วย ไม่เพียงแสดงไปตามบท และแสดงอย่างสุดความสามารถ โดยการแสดงหนังตะลุงของบัญญัตินั้นหากพื้นที่อำนวยจะใช้จอขนาดใหญ่กว้างคล้ายเวทีแสดงคอนเสิร์ตขนาดใหญ่และมีการฉายภาพด้วยเครื่องฉายภาพเป็นฉากพื้นหลังระหว่างการแสดงอีกด้วย ทำให้ขนาดของจอจึงต้องให้ตัวหนังตะลุงขนาดใหญ่และต้องมีผู้ช่วยอีก 1 คน เนื้อหาการแสดงจะสอดแทรกเหตุการณ์ปัจจุบันลงไปในการแสดง ยกตัวอย่าง การแสดงหนังตะลุงโดยใช้ตัวหนังตะลุงรูปนายกรัฐมนตรีและเลียนแบบเสียง รูปหนังตะลุงบุคคลสำคัญในสมัยใหม่และอิริยาบถสมัยใหม่ เช่น ตัวหนังตะลุงเล่นไอแพด ขี่เฮลิคอปเตอร์หรือรถยนต์ ตัวการ์ตูน ใช้ภาษาตามพื้นที่และสถานการณ์ นอกจากนี้ยังได้บันทึกการแสดงเป็นแผ่นซีดีออกขายด้วย
-ในปี พ.ศ. 2558 ได้รับการว่าจ้างจากไพฑูรย์ อินทศิลา ผู้สื่อข่าวเดลินิวส์ประจำจังหวัดนครศรีธรรมราช ให้ไปแสดงในงานบุญสารทเดือนสิบจังหวัดนครศรีธรรมราชและมีการลงข่าวในสื่อต่าง ๆ จนเป็นที่รู้จักอย่างมาก และมีตารางการแสดงสดยาวข้ามเดือนข้ามปี
-ในการแสดงเพลงนั้น บทเพลงส่วนใหญ่ประพันธ์โดยฉลอง ตี้กุล หรือชื่อในวงการเพลง อาจารย์หมี เหนือคลอง ซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่ที่อำเภอเหนือคลอง จังหวัดกระบี่ อดีตผู้รับเหมาที่ประสบอุบัติเหตุจากรถจักรยานยนต์จนเป็นอัมพาตอยู่แรมปีที่สะสมบทเพลงที่แต่งขึ้นด้วยความอุตสาหะถึง 200 เพลงในสมาร์ตโฟนแต่ยังไม่ให้ผู้ใดนำไปร้อง กระทั่งฉลองได้ดูการแสดงของบัญญัติในแผ่นซีดีจึงประทับใจและติดต่อไปเพื่อมอบเพลงให้ไปร้อง บัญญัติรู้สึกชอบเพลงดังกล่าวจึงนำไปร้องอยู่เรื่อยมา จนออกเป็นอัลบั้มขายดี เช่น ลมหายใจปลายด้ามขวาน พระเอกนายหนัง รักน้องต้องคลำ
*รางวัลและเกียรติยศ
-วันที่ 5 มิถุนายน 2562 บัญญัติได้รับรางวัลค่าของแผ่นดิน ด้านการส่งเสริมและอนุรักษ์ภาษาท้องถิ่น จากสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ณ อาคารนวมภูมินทร์ วชิราวุธวิทยาลัย
*ชีวิตส่วนตัว
บัญญัติอยู่กินฉันท์สามีภรรยากับสุนิสา สุวรรณแว่นทอง ยาวนานนับสิบกว่าปีกระทั่งมีบุตรด้วยกัน 2 คน ต่อมาได้จดทะเบียนสมรสในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562 บัญญัติและสุนิสาเปิดเผยว่ารู้จักตั้งแต่เมื่อยังอายุ 18 ปี ในช่วงแรกปฏิสัมพันธ์กันยากมากเนื่องจากสุนิสาเป็นคนไม่ชอบพูดซึ่งผิดกับบัญญัติ แม้สุนิสาจะหน้าตาดีจนมีผู้ชายคนมาขอคบเป็นจำนวนมากแต่สุนิสาเลือกคบหากับบัญญัติเพราะเป็นคนตรง โดยบัญญัติมีความคาดหวังเล็ก ๆ ว่าบุตรจะได้สืบทอดศิลปวัฒนธรรมที่ตนทำไว้ แต่ก็มิได้ห้ามปรามไปทางอื่นแต่อย่างใด ซึ่งในปัจจุบันบัญญัตินั้นได้ทำการหย่าร้างกับสุนิสาเป็นที่เรียบร้อยแล้วด้วยสาเหตุปัญหาในครอบครัว
“ถึงกระนั้นก็ตาม บนเฟซบุ๊กของบัญญัติและสุนิสาพบว่ายังคงติดต่อและอาศัยร่วมบ้านเดียวกันหลังเหตุการณ์นี้ผ่านไป”
*ข้อครหา
-บัญญัติตกข่าวคราวอยู่บ้างจากการไม่ไปเล่นตามที่ตกลงไว้ เช่น เมื่อวันที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2556 ชาวบ้านอำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง ประท้วงที่บัญญัติไม่ได้แสดงหนังตะลุงแบบเต็มวงตามที่ตกลงไว้ แต่จะแสดงคอนเสิร์ตทอล์กโชว์แทน ในงานบำเพ็ญกุศล ประจำปี 2556 ครบรอบ 10 ปี ในวันคล้ายวันมรณภาพพระครูสิทธิมงคล (หลวงปู่รื่น ติสสเทโว) อดีตเจ้าอาวาสวัดน้ำพราย ต่อมาเชาวรัตน์ได้ชี้แจงต่อสื่อว่าเกิดความผิดพลาดในการรับงานเนื่องจากช่วงสงกรานต์มีงานมาก จึงจัดหนังตะลุงของบัญญัติให้ในวันที่ 26 เมษายนแทน และได้พูดคุยทำความเข้าใจกับผู้จัดงานแล้ว
“ดวงดาวไม่มีแสง” เดียว