สรุปเรื่อง+รีวิว 28 Days Haunted: หลอน 28 วัน (2022 TV series Nrtflux)

สรุปเรื่อง+รีวิว 28 Days Haunted: หลอน 28 วัน (2022 TV series Nrtflux) ทีม 3 ทีม กับสถานที่สุดเฮี้ยน 3 แห่งในสหรัฐอเมริกา ในทดลองชวนคนหัวลุกตามทฤษฎีของ เอ็ด ลอร์เรน วอร์เรน นักปีศาจวิทยาชื่อดัง พวกเขาต้องใจกล้าอยู่ให้ได้ครบ 28 วัน

ดูคลิปรีวิวที่นี่

#สรุปเนื้อเรื่อง
ซีรีส์สุดแนว foundfootage สยองขวัญเรื่องนี้เล่าเรื่องราวของการพิสูจน์ทฤษฎีผีของเอ็ด ลอร์เรน วอร์เรน นักปีศาจวิทยาและสิ่งเหนือธรรมชาติชื่อดังที่สุดในประวัติศาสตร์ผู้ล่วงลับ บางส่วนจากหมื่นคดีของเขา ได้ถูกสร้างและดัดแปลงเป็นหนังสยองขวัญฟอร์มยักษ์ที่สุดตลอดกาล ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง The Amityville Horry, The Conjuring, Annabelle เป็นต้น เมื่อสองสามีภรรยาวอร์เรน ได้ย้อนกลับไปดูงานของตนเองก็ได้ค้นพบว่าในกรณีต่าง ๆ นั้น มักจะต้องใช้เวลาถึง 28 วันจึงจะสามารถ เจาะผ่านกำแพงที่กั้นระหว่างคนเป็นกับคนตายได้ พวกเขาเรียกมันว่า The 28-day cycle (วัฏจักร 28 วัน)

เอ็ด และ ลอร์เรน วอร์เรน อยากรู้ว่าการค้นพบในครั้งนี้เป็นจริงได้ และมันเกิดขึ้นกับนักพิสูจน์เรื่องผีหรือสิ่งเหนือธรรมชาติคนอื่นด้วยหรือไม่ แต่ก็น่าเสียดายที่ว่าสองสามีภรรยาได้จากไปก่อนที่จะได้รับคำตอบนั้น

ดังนั้น สมาคมวิจัยสิ่งเหนือธรรมชาติ (New England Society for Psychic Research - NESPR) ของพวกเขา ที่ต่อมาได้รับการดูแลจากลูกเขยของเขาคือ โทนี่ สเปร่า และเขาก็พร้อมแล้วที่จะทดสอบทฤษฎีวัฏจักร 28 วันของเอ็ด และ ลอร์เรน วอร์เรน

เขาได้คัดเลือกทีมทดสอบ 3 ทีม ทีมละ 2-3 คน ดังนี้

ทีมแรก ทีมพิสูจน์โรงแรมผีสิง Lumber Baron Inn ที่เดนเวอร์ รัฐโคโลราโด ประกอบด้วย เชน พิตต์แมน กับ เรย์ คอซซี่ นักพิสูจน์เรื่องผีและสิ่งเหนือธรรมชาติที่เคยทำงานพิสูจน์เรื่องสิ่งเหล่านี้มาแล้วมากกว่า 16 ปี และ เอมมี่ พาร์ค ผู้ที่มีญาณพิเศษ สามารถใช้ประสาทสัมผัสพิเศษช่วยมาแล้วหลายครอบครัวและช่วยไขคดีให้กับทางตำรวจมาแล้วหลายคดี เข้าพิสูจน์โรงแรมที่เชื่อกันว่ามีผู้คนเห็นดวงวิญญาณของผู้หญิงหลายตนเดินไปเดินมาอยู่ในบ้าน และเคยมีประวัติว่ามีผู้หญิงสองคน คือ คาร่าและแมรี่แอนด์ ถูกฆ่าอย่างโหดเหี้ยมในห้องในห้องวาเลนไทน์สูท โดยที่ไม่มีใครรู้ว่าใครคือฆาตกร ทีมพิสูจน์ต้องสืบให้ได้ว่าใครกระทำต่อพวกเธอ

ทีมที่สอง พิสูจน์ร้านชำ Medison Dry Goods Contry Store ที่เมดิสัน รัฐนอร์ทแคโรไลนา ประกอบด้วย แบรนดี้ มิลเลอร์ ผู้ที่สามารถสื่อสารทางวิญญาณได้ และ เจรามี่ แลนเนิร์ด นักปีศาจวิทยา ทั้งสองคนจะต้องอยู่ในบ้านเป็นเวลา 28 วัน บ้านเอาไว้ใช้สำหรับจัดงานศพของเมือง เก็บโลงศพที่เคยให้ประกอบพิธีไว้ ปัจจุบันคือร้านชำและพิพิธภัณฑ์ของเมือง มีรายงานการพบผีเด็กและผีผู้หญิงเสียโฉม และมีประวัติที่น่าสยอสยองว่า ในปี 1929 ครอบครัวลอว์สันรวมถึงเด็กหลายคนถูกฆ่าอย่างโหดเหี้ยมในคืนวันคริสต์มาส โดยไม่รู้ตัวฆาตกร ทุกคนถูกจัดการศพและทำพิธีที่บ้านหลังนี้

ทีมที่สาม พิสูจน์โรงแรมผีสิง Captain Grant's Inn ที่เพรสตัน รัฐคอนเนตติคัต ประกอบด้วย ฌอน ออสติน ผู้สื่อสารทางวิญญาณ ร่วมกับ นิก ไซมอน และ แอรอน ทอมป์สัน นักเทคโนโลยีที่ทำการพิสูจน์เรื่องผีและสิ่งเหนือธรรมชาติที่ทำงานมาแล้ว 20 กว่าปี พวกเขาอยู่ในโรงแรมผีสิงที่สน้างมาแล้วกว่า 250 ปี เป็นที่พักของกองกำลังภาคพื่นดินในสงครามปฎิวัติ เคยที่เป็นที่หลบภัยของทาสผิวดำในสงครามกลางเมือง และติดกับสุสานกลางเมืองของคอนเนตติคัตด้วย จึงมีร่องรอยของวิญญาณจำนวนมาก

พวกเขาทุกคนเต็มใจอาสามาพิสูจน์ทฤษฎีวัฎจักร 28 วันของ เอ็ด และ ลอร์เรน วอร์เรน แต่ก็ไม่แน่ใจว่าจะอยู่ครบ 28 วันหรือไม่

แต่ละทีมจะใช้เวลาอยู่ในบ้านที่เฮี้ยนที่สุดของสหรัฐอเมริกาเป็นเวลา 28 วัน เป็บสถานที่ที่ยังไม่เคยได้รับการพิสูจน์แต่อย่างใด

ทุกทีมจะต้องถูกจับตาดูด้วยกล้องวงจรปิดตลอดเวลา ซึ่ง เอ็ด และ ลอร์เรน วอร์เรน เชื่อว่ากุญแจสำคัญของวัฏจักรนี้ก็คือการอยู่อย่างโดดเดี่ยว ดังนั้นทุกทีมจะต้องไม่ได้รับการติดต่อจากโลกภายนอก ถูกเก็บเครื่องมือสื่อสารเอาไว้ และไม่รู้ล่วงหน้าว่าตัวเองจะต้องไปอยู่ในสถานที่ไหน

ถ้าทีมไหนก็ตามสามารถอยู่ได้ครบ 28 วัน เชื่อว่ากำแพงที่กั้นระหว่างความเป็นและความตายนั้นจะหายไปได้จริง และเผยความลับอันน่าสยดสยองของที่นั้น

ถ้าพิสูจน์เรื่องวัฏจักร 28 วันได้ มันจะเปลี่ยนวิธีการการพิสูจน์ผีและสิ่งเหนือธรรมชาติในอนาคตไปตลอดกาล

โดยสรุปแล้ว การพิสูจน์ผีในแต่ละบ้านนั้น เหมือนกับว่าทางซีรีส์เขาไม่ต้องการบอกว่าบ้านมีผีหรือไม่ เพราะว่าเขาตั้งธงว่าแน่นอนว่ามันมีผีอยู่แล้ว แต่การพิสูจน์ผีนั้นกลับกลายเป็นว่ามันเป็นการสืบหาเรื่องราวของต้นตออาถรรพ์หรือความเฮี้ยนที่เกิดในบ้านแต่ละหลัง

ทีมท้าพิสูจน์นั้นเข้าไปสืบหาร่องรอยว่าเพราะเหตุใดมันยังเกิดความเฮียน แต่ที่เขาวางพล็อตเรื่องว่าแต่ละทีมนั้นไม่รู้ภูมิหลังอะไรของบ้านเลย แล้วแต่ละทีมก็ใช้ความสามารถพิเศษของที่ตัวเองมีไม่ว่าจะเป็นลูกทีมที่มีความสามารถในด้านการสื่อสารกับจิตวิญญาณ และรวมถึงบุคคลที่มีความชำนาญในเครื่องมือสุดไฮเทค แล้วก็ค่อย ๆ รับรู้เรื่องราวผ่านประสาทสัมผัสและเครื่องมือเหล่านั้น ซึ่งมันก็เป็นจริงไปตามประวัติศาสตร์ของบ้านแต่ละหลังด้วย

โรงแรมผีสิง Lumber Baron Inn ที่เดนเวอร์ รัฐโคโลราโด ในคืนแรกทีมก็รู้ว่ามีดวงวิญญาณหญิง 2 ตนอยู่ในโรงแรมแห่ง ซึ่งเป็นหญิง 2 คน ที่ถูกฆ่าในปี 1970  ในห้องสวีทของโรงแรม ทีมค่อย ๆ สืบหาว่าใครกันแน่เป็นผู้ฆ่าหญิง 2 คน แต่ยิ่งพิสูจน์ก็ยิ่งพบว่ามีพลังงานบางอย่างที่รุนแรงมากปิดกั้นไม่ให้พวกเขาติดต่อกับดวงวิญญาณนี้ของตนได้

ร้านชำ Medison Dry Goods Contry Store ที่เมดิสัน รัฐนอร์ทแคโรไลนา มีประวัติที่น่าสยดสยองว่า ในปี 1929 ครอบครัวลอว์สันรวมถึงเด็กหลายคนถูกฆ่าอย่างโหดเหี้ยมในคืนวันคริสต์มาส ซึ่งทางทีมพิสูจน์ก็ค่อย ๆ ปะติดปะต่อเรื่องราวที่เขาทำการทดลองในแต่ละคืนจนรู้ได้ว่า ชาลีหัวหน้าครอบครัวลอว์สันเองนั่นแหละที่เป็นคนฆ่าครอบครัวของตัวเองทุกคน ไล่ไปตั้งแต่ภรรยาและลูกของเขาทุกคน ยังทำให้ลูกสาวคนโตของตัวเองตั้งท้องอีกด้วย

แต่เมื่อทีมพิสูจน์จะทำการติดต่อกับดวงวิญญาณไม่ว่าดวงวิญญาณของใครก็ตาม ก็จะมีบางสิ่งบางอย่างมาคอยปิดกั้นเอาไว้ และดูเหมือนว่าหัวหน้าครอบครัวลอว์สัน อาจมีบางสิ่งบางอย่างชักจูงให้เขาก่อเหตุฆาตกรรม  ที่สำคัญเจรามี่หลังจากที่เขาพยายามติดต่อกับดวงวิญญาณเขาก็มีอาการถูกสิง อารมณ์ร้าย นอนทั้งวัน ไม่ให้ความร่าวมือ นี่อาจจะเป็นพลังงานเดียวกันกับที่ควบคุมชาลีให้ฆ่าทุกคนในครอบครัว

ทีมที่สาม พิสูจน์โรงแรมผีสิง Captain Grant's Inn ที่เพรสตัน รัฐคอนเนตติคัต โรงแรมผีสิงที่สร้างมาแล้วกว่า 250 ปี เป็นที่พักของกองกำลังภาคพื่นดินในสงครามปฏิวัติ เป็นที่หลบภัยของทาสผิวดำในสงครามกลางเมือง อยู่ติดกับสุสานกลางเมืองของคอนเนตติคัตด้วย และมีดวงวิญญาณหญิงสาวตนหนึ่งชื่ออะดาเลสที่มักจะมาเข้าฝันทีม ชี้ให้พวกเขาเห็นร่องรอยว่าเกิดอะไรขึ้นกับบ้านหลังนี้ เกิดขึ้นกับกัปตันแกรนด์และภรรยาของเขา ซึ่งมันเกี่ยวข้องกับลัทธิบูชาซาตานและกักขังดวงวิญญาณด้วย

ทุกทีมพยายามพิสูจน์ หาหลักฐาน และรู้ให้ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับดวงวิญญาณทั้งหลายในบ้านนั้น ๆ

ดังนั้นส่วนตัวจึงไม่รู้สึกว่าเป็นหนังผีสยองขวัญอะไรนัก แต่มันออกไปทางหนังสืบสวนสอบสวนมากกว่า  

ทุกทีมในบ้านแต่ละหลังเมื่อสัมผัสกับดวงวิญญาณในบ้านแล้วต่างก็มีแนวคิดเดียวกันคือสู้กับวิญญาณร้าย และทำการปลดปล่อยวิญญาณดีไม่ให้ถูกกักขังอีกต่อไป

ดังนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นในบ้านกับทีมทั้ง 3 หลังนั้น มันก็คือพล๊อตเรื่องสำคัญของหนังผีโดยทั่วไป ที่เริ่มต้นจากการถูกดวงวิญญาณหลอก การพิสูจน์ความจริง การสืบค้นหาเรื่อง แล้วค้นพบคำตอบที่น่าสะพรึงกลัวที่เกิดขึ้นในอดีต และทำการแก้ไขให้ถูกต้อง

นอกจากนี้ทีมพิสูจน์ที่อยู่ในบ้านแต่ละหลังนั้นก็ได้เจออุปสรรคอย่างมากมาย แต่อุปสรรคสำคัญที่สุดที่พวกเขาพบเจอซึ่งมีเหมือนกันก็คือ ทุกคนต่างรับรู้ความผิดปกติของสิ่งเหนือธรรมชาติ มีดวงวิญญาณรบกวนพวกเขา คนที่มีสัมผัสพิเศษก็ไม่กล้าใช้ความสามารถพิเศษของตัวเองจัดการกับสิ่งที่เกิดขึ้นได้ เพราะกลัวว่าผีจะตามรังควาน

และโดยเฉพาะครึ่งทางแรกของวัฏจักร 28 วันคือ 1-14 วันแรกนั้น ทางทีมพิสูจน์ก็ได้พบเจอกับการคุกคามของดวงวิญญาณ สิ่งของเคลื่อนที่ได้ การแตะต้องหรือถูกสัมผัสจากดวงวิญญาณ การสร้างความหวาดกลัว และการถูกคุกคามที่ส่งผลต่อพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปของแต่ละคนด้วย และเหนือสิ่งอื่นใดก็คือทุกทีมนั้นจะประสบปัญหาจากการทะเลาะเบาะแว้งกันเอง การเกี่ยงกันในการท้าพิสูจน์ การถูกดวงวิญญาณทำร้าย บางคนถึงกับถูกสิง และเมื่อถึงจุดแตกแยกที่สำคัญพวกเขาก็สามารถกลับมาร่วมแรงร่วมใจกันได้

และเมื่อพวกเขาร่วมมือร่วมแรงใจกันได้แล้วก็จะนำไปสู่การพิสูจน์ทฤษฎีวัฏจักร 28 วันของเอ๊ด และ ลอเรน์ วอร์เลน ซึ่งมันจะนำไปสู่คำตอบแบบไหนก็เป็นหน้าที่ของท่านผู้ชมที่จะต้องไปติดตามรับชม 28 Days Haunted: หลอน 28 วัน ได้ทาง Netflix

#ความรู้สึกหลังชม
28 Days Haunted: หลอน 28 วัน ใช้วิธีการเล่าเรื่องแบบฟาวล์ฟุตเทจ แฮนดี้แคม ที่ตัวละครก็จะดำเนินเรื่องไปคล้าย ๆ กับรายการเรียลลิตี้โชว์ ทางทีมสร้างก็ได้ตั้งกล้องเอาไว้ทั่วทุกจุด มีโปรดิวเซอร์รายการและผู้เชี่ยวชาญคอยรับชมจากกล้องวงจรปิดที่ทุกบ้านนั้นส่งมาในส่วนกลาง

ในจุดนี้มันจึงทำให้เรารู้สึกว่าสิ่งที่เราเห็นทั้งหมดผ่านหน้าจอนั้นมันคือเรื่องจริง แต่ถ้าสังเกตให้ลึกลงไปอีกหน่อยมันก็มีอะไรหลายอย่างที่ทำให้เรารู้สึกว่ามันไม่ใช่เรื่องจริง โดยเฉพาะภาพที่ถูกถ่ายทำมันเหมือนกับว่ามีกล้องแบบ handheld เดินตามแต่ละทีมด้วย ในหลายมุมมองมันก็เหมือนกับว่ามันมีบุคคลที่ 3 เป็นคนถ่าย พวกเขาจึงไม่น่าอยู่เพียงลำพัง เรื่องความคลุมเครือในด้านมุมกล้องนี่แหละมันคือเสน่ห์อย่างหนึ่งของหนังประเภทนี้

และอีกอย่างหนึ่งก็คือการตั้งคำถามอย่างใหญ่โตในใจของคนดูว่าสิ่งที่เราเห็นนั้นมันเป็นเรื่องจริงไหม ซึ่งก็แน่นอนว่ามันอาจจะเป็นเรื่องจริงหรือไม่ใช่เรื่องจริงเลยก็ได้ก็เหมือนกับที่เราเคยดู The barwich project สอดรู้ สอดเห็น สอดเป็น สอดตาย ที่ฉายในปี 1999 ซึ่งเมื่อหนังจบไปแล้วคนดูหลายคนยังคิดว่าเป็นเรื่องจริงอยู่เลย และเรื่อง 28 Days Haunted: หลอน 28 วัน มันก็ไม่ต่าง ซึ่งไอ้ความคลุมเครือว่าจริงหรือไม่จริงนั้นมันก็คือเสน่ห์ที่สำคัญที่สุดของหนังแนว found footage เลย

อย่างไรก็ตามซีรีส์เขาก็ได้เพิ่มน้ำหนักทำให้เชื่อว่าทั้งหมดนั้นคือเรื่องจริง โดยการทำให้เห็นว่าแต่ละทีมนั้นสามารถรับรู้เรื่องราวภูมิหลังของบ้านแต่ละหลังได้ด้วยความสามารถของตนเอง และมันก็ตรงตามประวัติศาสตร์ที่เกิดขึ้นของบ้านแต่ละหลังซะด้วย แถมมันยังมีหลักฐานบ่งชี้เช่นไม่ว่าจะเป็นข่าวจากหนังสือ หลงฝังศพ ป้ายหลุมศพที่มีชื่อของผู้คนที่เกี่ยวข้องนั้น ๆ ด้วย แน่ละเราไม่รู้หรอกว่าอะไรจริงอะไรไม่จริง และอย่าไปตามหาความจริงอะไรเลยมันจะหมดสนุกไปซะเปล่า ๆ

ในซีรีส์เรื่องนี้บอกตามตรงว่าเราไม่ได้เห็นผีออกมาอะไรตัวเป็น ๆ นักหรอก เราจะรับรู้การมีของผีก็ต่อเมื่อบุคคลหรือทีมพิสูจน์นั้นมีปฏิกิริยาบางอย่างนั่นแหละ ซึ่งมันก็ชวนทำให้เราตกใจไปตามตัวละครนั้น

แต่ถ้าเห็นผีตัวเป็น ๆ มันก็คือการจำลองเหตุการณ์ที่ทางทีมสร้างเขาได้ทำเป็นวีดีโอเพื่ออธิบายความรู้สึกหรือสิ่งที่เห็นของตัวละครแทน ซึ่งไอ้คอมพิวเตอร์กราฟิกที่เขาสร้างขึ้นมานั้นเขาก็ตั้งใจทำให้เห็นว่ามันไม่เป็นเหมือนจริง มันก็เลยทำให้เรานั้นไม่ค่อยรู้สึกหลอนสักเท่าไหร่ แต่อย่างไรก็ตามเขาก็ยังมีดีที่เอาไว้ใช้กระตุ้นอารมณ์ของคนดูก็คือเพลงประกอบที่อยู่พื้นหลัง  ซึ่งเขาใช้เพลงแบบถูกจังหวะ ถูกอารมณ์มาก ซึ่งถ้าหากเราจะกลัวอะไรสักอย่างในเรื่องก็คือกลัวเพลงประกอบนี่แหละ

และเนื่องจากเป็นการล่าท้าผีแบบฝรั่ง เราจึงได้เห็นอุปกรณ์การล่าท้าผีสุดไฮเทคจำนวนมากที่เขาเอามาใส่ไว้ในทางซีรีส์ และบ้านแต่ละหลังนั้นก็ใช้อุปกรณ์ที่แตกต่างกันไป เครื่องสื่อสารไฮเทคพิสูจน์ผีเช่น เครื่องฝังเคลื่อนเสียงเอสติส จะเป็นการปิดสัมผัสทางตาและใช้หูในการรับฟังคลื่นเสียงขนาดต่ำทางซีรีส์ทำให้เห็นว่ามันทำให้ได้ยินเสียงกันพูดของผีได้ เครื่องเร่งพลังประจุไฟฟ้า เหมือนการเพิ่มกำลังไฟให้กับผีจนผีมีกำลังมากขึ้นจนสื่อสารกับคนได้ กล่องดนตรีหรือกล่องวิญญาณสื่อสารกับคนตาย ทุกครั้งที่มันสัมผัสผีได้มันจะถ่ายทอดเสียงของผีผ่านเครื่องดนตรีนี้ และเครื่องส่งสนามแม่เหล็กไฟฟ้า Rem-Pod ใช้สื่อสารกับวิญญาณ หากโดยรอบนั้นมีดวงวิญญาณก็จะแสดงสัญญาณไฟผ่านเครื่องนี้ และอุปกรณ์สุดไฮเทคเหล่านี้มันก็เป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของหนังผีแบบฝรั่งที่เราจะได้เห็นบ่อยครั้งจากหนังที่สร้างมาจากเรื่องราวของเอ๊ด และ ลอร์เลน วอร์เลน อย่างใน The Conjuring นั่นแหละ

ตอนสุดท้ายซีรีส์เขามีการอธิบายด้วยนะว่า ทฤษฎีวัฏจักร 28 วันที่แต่ละทีมและแต่ละบ้านพิสูจน์นั้นสำเร็จหรือเป็นจริงหรือไม่ สามารถทำลายกำแพงระหว่างคนเป็นกับคนตายได้หรือไม่ มีอะไรแตกต่างกัน และที่แตกต่างกันคืออะไร และเกิดอะไรขึ้นกับแต่ละคนในทีมหลังจากนั้น และอธิบายว่าแต่ละทีมสามารถจัดการกับอาถรรพ์ในบ้านได้หรือไม่ ซึ่งจะจริงหรือไม่จริงนั้นคงไม่อาจพิสูจน์ได้เลย

โทนี่ สเปร่า อยากให้มีการพิสูจน์ทฤษฎีวัฏจักร 28 วันอีก ซึ่งเชื่อว่าน่าจะทำให้ 28 Days Haunted มีภาค 2 นะ

ชอบตอนจบมาก ๆ ที่ผู้พิสูจน์ 1 คนยืนมองป้ายหลุมศพของครอบครัวที่ถูกสังหารโดยพ่อตัวเอง แล้วก็บอกว่ารู้สึกดีจริง ๆ ที่ปีศาจถูกขับไล่ และก่อนที่จะตัดจบเข้าสู่ End Credit เพื่อนที่ร่วมพิสูจน์ 1 คนก็ชำเลืองหันมามองหน้าจอและอมยิ้มเล็กส่งมาให้กับเราคนดู นั่นเป็นการบ่งบอกให้คนดูคิเอาเองว่าปีศาจถูกขีบไล่จริงหรือไม่ ต้องรอติดตามชมกันต่อไป

#บทสรุป
เอาเข้าจริง ๆ แล้ว 28 Days Haunted นำเสนอโดยใช้ความโด่งดังจาก เอ๊ด และ ลอร์เลน วอร์เลน กับทฤษฎีวัฎจักร 28 วัน นี่นแหละ และถ้าหากซีรีส์ไม่ยึดเกาะทฤษฎีและความโด่งดังของสองสามีภรรยา ผมว่าซีรีส์ 28 Days Haunted ก็แทบไม่มีอะไรที่แตกต่างเลย

สุดท้าย 28 Days Haunted: หลอน 28 วัน มันก็แทบไม่มีอะไรแดกต่างกับภาพยนตร์ล่าท้าผีที่ใช้เทคนิค found foottage ที่มีมาก่อนหน้านี้หลายเรื่องเช่น  Grave Encounters (คน ล่า ผี), Gonjiam: Haunted Asylum (Gonjiam สถานผีดุ) The Bridge Curse (คำวาปสะพานเฮี้ยน) ก็คือพยายามพิสูจน์ผี และท้ายที่สุดก็ถูกอาถรรพ์จากผีเหล่านั้นเล่นงานคืน ดังนั้นจึงเป็นการสรุปที่ว่า อะไรก็ตามก็ไม่ควรก้าวก่ายกัน ไม่ควรท้าทายกัน เพราะไม่ว่าจะเป็นฝั่งไหนก็ต้องมีใครแตกหัก เป็นการย้ำเตือนว่า "ไมเชื่ออย่าลบหลู่" นั่นเอง

แต่ถ้าหากอยากเอาชนะมันให้ได้ เราต้องเผชิญหน้ากับมัน 
6.5/10 
@วาทิน ศานติ์ สันติ

#SuperReviewChannel
#28DaysHaunted
#28DaysHaunted2022
#หลอน28วัน