สรุปเรื่อง+รีวิว คุยกับฆาตกร จอห์น เวย์น เกซี่: Conversations with a Killer: The John Wayne Gacy Tapes (2022 netflix)


สรุปเรื่อง+รีวิว คุยกับฆาตกร จอห์น เวย์น เกซี่: Conversations with a Killer: The John Wayne Gacy Tapes (2022 netflix)

#เกริ่นนำ
"...ผมมีอะไรจะบอก ผมฆ่าคนไป 33 ครั้ง คุณจะฆ่าผมได้ครั้งเดียว เกซีเอาชนะพวกเขาได้อีกแล้ว ฮ้า ฮ้า ฮ้า ฮ้า....."

#ดูคลิปรีวิวที่นี่

นี่คือคำพูดของจอห์น เวย์น เกซี่ ชายที่ถูกตัดสินประหารชีวิตจากการก่อคดีฆาตรกรรมต่อเนื่องชายวัยรุ่นไปถึง 33 ราย นับเป็นการฆาตกรรมต่อเนื่องที่มีจำนวนผู้เสียชีวิตมากที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐอเมริกาในช่วงเวลานั้น และนี่คือเรื่องราวของเขา

จอห์น เวย์น เกซี่ John Wayne Gacy (17 มีนาคม 1942 – 10 พฤษภาคม 1994) เป็นฆาตกรต่อเนื่องชาวอเมริกันผู้กระทำความผิดทางเพศที่ข่มขืน ทรมาน และสังหารชายหนุ่มและเด็กชายอย่างน้อย 33 ราย เอกลักษณ์ที่น่าสนใจของเกซี่คือ เขามักจะแต่งตัวเป็นตัวตลกให้เด็ก ๆ ในโรงพยาบาลเด็ก และแสดงในกิจกรรมการกุศล โดยชื่อตัวตลกที่เขาคิดขึ้นมาเองคือ  "Pogo the Clown" หรือ "Patches the Clown" หลังจากเรื่องราวฆาตรกรรมของเขาโด่งดัง เขากลายเป็นที่รู้จักในนาม Killer Clown

Netflix ได้นำเรื่องราวการก่อเหตุฆาตกรรมต่อเนื่องของเขามานำเสนอในซีรีส์เชิงสารคดีชื่อ Conversations with a Killer: The John Wayne Gacy Tapes (คุยกับฆาตกร จอห์น เวย์น เกซี่) สร้างและกำกับโดย Joe Berlinger หนึ่งในสามของซีรีส์ Conversations with a Killer ที่ประสบความสำเร็จมาแล้วก่อนหน้านี้คือ Conversations with a Killer: The Ted Bundy Tapes 2019 (คุยกับฆาตกร เทด บัดดี้) และตามมาด้วยภาคที่สามที่ประสบความสำเร็จไม่แพ้กันคือ Conversations With a Killer: The Jeffrey Dahmer Tapes 2022 (คุยกับฆาตกรเจฟฟรีย์ ดาห์เมอร์)

ซีรีส์นี้แสดงให้เห็นถึงการฆาตกรรมต่อเนื่องของจอห์น เวย์น เกซี ฆาตกรต่อเนื่องฆ่าเด็กวัยรุ่นและชายหนุ่มอย่างน้อย 33 คน ระหว่างปี 1972 ถึง 1978 ในเมืองชิคาโก รัฐอิลลินอยส์ เรื่องราวถ่ายทอดผ่านฟุตเทจภาพ โดยเทปบันทึกเสียงของเกซี่ที่คุยกับทนายส่วนตัว เจ้าหน้าที่ และผู้ที่เกี่ยวข้องใกล้ชิด ที่เก็บถาวรที่ไม่เคยเผยเพร่ที่ไหนมาก่อน บันทึกระหว่างการกักขังรอการประหารชีวิต พร้อมกับการสัมภาษณ์เหยื่อที่รอดชีวิต และญาติของเหยื่อด้วย ซีรีส์เผยแพร่ทาง Netflix วันที่ 20 เมษายน 2022

#สรุปเนื้อเรื่อง #SpoilerAlert
ลำดับเรื่องราวนั้นเปลี่ยนแปลงไปจากสารคดีอยู่บ้าง ก็เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ง่ายขึ้น

ซีรีส์เริ่มเล่าเรื่องราวในปี 1978 ในช่วงบ่ายของวันที่ 11 ธันวาคม เกซี่ไป ร้านขายยา Nisson Pharmacy ในเมือง Des Plaines (เดสเพลนส์) เพื่อหารือเกี่ยวกับข้อตกลงในการปรับปรุงรูปแบบร้านกับเจ้าของร้าน ในขณะที่เกซี่อยู่ใกล้ ร๊อบ พีสต์ พนักงานพาร์ทไทม์อายุ 15 ปี เกซี่กล่าวถึงบริษัทก่อสร้างของเขามักจะจ้างเด็กวัยรุ่นด้วยค่าจ้างเริ่มต้นที่ $5 ต่อชั่วโมง ซึ่งเกือบสองเท่าของค่า ร๊อบ พีสต์ ที่ได้รับจากร้านขายยา

ไม่นานหลังจากที่เกซี่ออกจากร้านขายยา แม่ของพีสต์ก็มาถึงร้านเพื่อขับรถมานับลูกชายกลับบ้านไปฉลองวันเกิดด้วยกัน พีสต์ขอให้แม่รอที่บ้าน และบอกว่า "ผู้รับเหมาคนหนึ่งต้องการคุยเกี่ยวกับการจ้างงาน" เขาออกจากร้านเวลา 21.00 น. สัญญาว่าจะกลับมาในไม่ช้า

แต่ร๊อบ พีสต์ ก็ไม่ได้กลับบ้านไปฉลองวันเกิดของแม่ตามที่เขาสัญญาเอาไว้

เมื่อมีการแจ้งความ ตำรวจก็เฝ้าติดตามเกซีซึ่งช่วงแรกก็เป็นการเฝ้าดูแบบลับ ๆ ตลอด 24 ชั่วโมง แต่เกซีก็ได้ว่าจ่างทนาย เลยแจ้งว่ามีตำรวจมาติดตามเขาโดยที่เขาไม่รู้ว่าเพราะสาเหตุอะไร

จากนั้นตำรวจก็ติดตามเกซี่แบบเปิดเผย ตามตลอด 24 ชั่วโมง ไม่ว่าเกซี่ กินข้าวร้านไหนตำรวจก็เข้าไปกินด้วย ขับรถไปที่ไหนก็ขับตามไปด้วย และเกซี่ก็มักจะขับรถเร็วเพื่อหนีตำรวจ แต่ตำรวจก็ยังไม่สามารถขอหมายค้นเข้าไปค้นบ้านของเกซี่อย่างเป็นทางการได้ แต่ก็สามารถเข้าไปในบ้านได้ และเห็นว่าภายในบ้านนั้นมีการนำต้นไม้และสิ่งของมาประดับบ้านมากมาย แต่ที่น่าสนใจก็คือมักจะมีรูปภาพรูปปั้นตัวตลกวางไว้ทั่วบ้าน แต่ก็ไม่สามารถค้นได้อย่างบะเอียดมากนัก เพราะยังไม่มีหลักฐานมากพอ

แต่ตำรวจก็รู้แน่ว่าเกซี่มีส่วนกับการหายตัวไปของ ร๊อบ พีสต์ อย่างแน่นอน

ตำรวจจึงจำเป็นจะต้องสืบย้อนกลับไปในอดีตของเกซี่และก็รู้ว่า เขาเคยถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานล่วงละเมิดทางเพศกับเด็กวัยรุ่นในเมืองวอเตอร์ลู รัฐไอโอวา ในปี 1968 และถูกตัดสินจำคุก 10 ปี แต่ได้รับโทษจำคุกจริงเพียงแค่สิบแปดเดือน ซึ่งในขณะนั้นเขาได้แต่งงานและมีลูกแล้ว และเมื่อถูกตัดสินจำคุกภรรยาของเขาก็ยื่นจดหมายขอหย่าทันที

ขณะนี้ตำรวจก็เริ่มมีน้ำหนักแล้วว่าเกซี่เกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของร๊อบ พีสต์ และเกี่ยวข้องการการล่สงละเมิดทางเพศ

จากการเข้าไปค้นบ้านของเกซี่ ตำรวจได้พบหลักฐานที่สำคัญก็คือ ใบเสร็จรับเงินในถังขยะ ที่เกซี่เข้าไปล้างรูปที่ร้านขายยา Nisson Pharmacy ซึ่งในขณะนั้นแคชเชียร์ของร้าน ได้ให้ใบเสร็จรับเงินไว้กับร๊อบ พีสต์ ดังนั้นจึงเป็นหลักฐานว่าร๊อบ พีสต์ นี่จะมาที่บ้านของเกซี่อย่างแน่นอน

และอีกหนึ่งสิ่งที่ตำรวจปักใจว่าเกซี่มีส่วนเกี่ยสข้องก็คือ ตำรวจได้กลิ่นเนื้อเน่าเล็ดลอดออกมาจากช่องระบายอากาศจากใต้ถุนบ้าน และจากประสบการณ์เขาก็รู้ทันทีว่ากลิ่นเน่านั้นน่าจะเกิดจากมนุษย์

ตำรวจจึงออกหมายเรียกเกซี่ทันที แต่เขาก็หายไปหลายวัน

จากนั้นสามวัน เกซี่ ก็โผล่ไปที่โรงพัก พร้อมกับเนื้อตัวมอมแมม และสภาพรถที่เลอะไปด้วยโคลน

จากนั้นทางทนายของเกซี่ ก็เริ่มรู้สึกว่ารูปความของเขามีอะไรบางอย่างที่ปิดบังไม่บอกกับเขาตรง ๆ ทนายจึงเค้นเกซี่อย่างหนัก เพราะถ้าปิดบังอะไรไว้ทนายจะไม่สามารถช่วยอะไรได้เลย

และแล้วทนายก็ได้ยินเรื่องราวการก่อเหตุฆาตรกรรมอันสยดสยองพรั่งพรูออกมาจากปากของ จอห์น เวย์น เกซี่

ตำรวจได้หมายค้นแล้วก็พากันเข้าไปค้นบ้านของเกซี่ทันที

ตำรวจมุดเข้าไปที่ใต้ถุนบ้าน ขุดค้นใต้บ้านทุกตารางนิ้ว ตำรวจพบร่างของผู้เสียชีวิตจำนวนมากนอนเบียดเสียดทับถมกันถูกฝังอยู่ใต้นั้น บางร่างยังพอมีเนื้อเยื่ออยู่ แต่บางร่างก็เหลือแต่เพียงโครงกระดูกแล้ว ตำรวจใช้เวลาขุดค้นอยู่หลายวัน แต่ในใต้บ้านหลังนั้นไม่พบร่างของ ร๊อบ พีสต์

จากนั้นซีรีส์ก็เล่าเรื่องราวการก่อเหตุฆาตกรรมต่อเนื่องที่กินระยะเวลาเพียงแค่ 6 ปี แต่สังหารเหนื่อยไปถึง 33 ราย โดยตัดสลับกับการเร่งค้นหาตัวของร๊อบ พีสต์ ไปด้วย

จอห์น เวยน์ เกซี่ สังหารชายหนุ่มอย่างน้อย 33 ราย เขาก่อเหตุฆาตกรรมทั้งหมดในบ้านสไตล์ฟาร์มปศุสัตว์ชั้นเดียวใกล้ Norwood Park Township ชานเมืองชิคาโก

เขาจะล่อเหยื่อที่เป็นชายหนุ่มทั้งหมดให้มาที่บ้านและหลอกล่อให้สวมกุญแจมือโดยอ้างว่าแสดงมายากล โดยที่เขาจะใส่กุญแจมือให้กับตัวเองก่อน แล้วแซ่งทำว่าเขาสามารถหลุดจากพันธนาการได้  จากนั้นเขาก็ให้เหยื่อยใส่กุญแจมือบ้าง แต่เหยื่อก็ไม่สามารถปบดกุญแจมือได้เหมือนเขา เป็นดั่งนั้นแล้วเขาก็สามารถทำอะไรกับเหยื่อก็ได้ เกซี่บอกสิ่งนี้กับเหยือว่า "กลลวงกุญแจมือ"

เกซี่ล่วงละเมิดทางเพศและทรมานเหยื่อของเขาก่อนที่จะฆ่าเขาด้วยการรัดคอด้วยเชือกเงื่อนกระตุกหรือเสื้อคลุม จากนั้นเขาทำการฝั่งร่างเหยื่อไว้ใต้ถุนบ้าน

เหยื่อ 26 รายถูกฝังใต้ถุนบ้านของเขา อีก 3 ราย ถูกฝังไว้ที่บ้านอีกหลังในที่ดินของเขา และอีก 4 รายถูกทิ้งร่างในแม่น้ำ เดสเพลนส์ โดยเขาบอกว่า ไม่มีพื้นที่เหลือเอาไว้ให้สำหรับฝังเหยื่อของเขาอีกแล้วจึงเปลี่ยนวิธีการเป็นทิ้งร่างในแม่น้ำแทน

เหยื่อของเกซี่มักจะเป็นเด็กหนุ่มที่เขาจ้างมาทำงานในบริษัทก่อสร้างของเขาเอง และสุ่มล่อมาจากป้ายรถเมล์ในชิคาโก หรือจัตุรัส Bughouse Square หรือเพียงแค่ออกไปนอกถนนแล้วพบใครสักคนที่เขาชอบ เกซี่สัญญากับเด็กหนุ่มเหล่านั้นว่า จะได้งานกับ PDM บริษัทก่อสร้างของเขา ทังยังมีข้อเสนอเครื่องดื่ม ยาเสพติด หรือเงินสำหรับการมีเพศสัมพันธ์

เหยื่อบางรายถูกจับโดยคิดไปว่าเกซี่เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งเขามักจะแต่งตัวคบ้ายเจ้าหน้าที่ มีป้ายของตพรวจและนายอำเภอ มีไฟสญญาณบนรถสีดำของเขาด้วย

เขาได้บันทึกเสียงบอกว่า การเห็นเด็กหนุ่มครั้งแรกของเขาและคนที่เขาเลือกเป็นเหยื่อนั้น เริ่มต้นจากการชอบ แต่พอนำกลับมาบ้านได้สักพัก ก็กลายเป็นเกลียด เขาจึงจัดการเหยื่อของเขาทุกครั้งด้วยการสังหารนั่นเอง

ย้อนกลับมาที่ร๊อบ พีสต์  ตำรวจพยายามตามหาพีสต์อยู่กว่าสิบวัน เค้นถามจากเกซี่ เกซี่ก็ตอบว่า พีสต์ ไม่ได้อยู่บนดินและไม่ได้อยู่ในใต้ดิน ในระหว่างการสอบถามของตำรวจนั้น เกซี่ ทำท่าเหมือนว่าร่างกายเกิดอาการกระตุก แล้วเขาก็บอกกับเจ้าหน้าที่ว่าเขาเห็นนิมิตร เห็นสะพานข้ามแม่น้ำแห่ง และเห็นร่างของผู้ชายอยู่ในแม่น้ำ ตำรวจจึงรู้ว่า ร๊อบ พีสต์  ถูกทิ้งร่างที่แม่น้ำ เดสเพลนส์

ร๊อบ พีสต์ถูกสังหารหลังเวลา 22.00 น. ในวันที่ 11 ธันวาคม 1978 ที่บ้านของเกซี่ เขาถามพีสต์ว่ามีอะไรที่พีต์ทำได้บ้างให้เหมาะสมกับเงินค่าจ้างในการทำงานก่อสร้างในบริษัทของเขา พีสต์ก็ตอบเกซี่ว่า เขาทำได้ทุกอย่างและไม่รังเกียจที่จะทำงานหนัก จากนั้นเกซี่ก็เล่นกลกุญแจมือเหมือนทุกครั้ง

เมื่อพีตส์ถูกหลอกให้ใส่กุญแจมือ เกซีบอกว่า "ฉันจะข่มขืนเธอ และเธอทำอะไรกับมันไม่ได้" พีสต์เริ่มร้องไห้ เมื่อเสร็จสมอารมณ์หมาย เกซี่ก็เอาเชือกพันรอบคอของพีสต์ แล้วนำร่างไปทิ้งในแม่น้ำ เดสเพลนส์

เกซี่เป็นคนที่ความเชื่อมั่นในตัวเองมาก อันสะท้อนมาจากน้ำเสียงที่เขาพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ผ่านเทปที่บันทึกเสียงเขาเอาไว้ คิดว่าตัวเองฉลาดกว่าตำรวจและใครหลายคน อย่างเช่นในช่วงที่ตำรวจทำการติดตามเขา โดยตามขับรถไปทั่วเมือง แต่พี่ก็มักจะขับรถเร็วเพราะคิดว่าตำรวจไล่ไม่ทัน ไม่บอกกับทนายตรง ๆ ศึกษาทางหนีทีไล่โดยเฉพาะศึกษาเรื่องราวเกี่ยวกับอาการทางจิต หรือการศึกษาพิจารณาคดีความที่ผู้ก่อเหตุเป็นจิตเภท เพราะเขาจะอ้างเมื่ออยู่ในขั้นศาลว่าระหว่างที่เขาสังหารเหยื่อยเขามีอาการทางจิตแบบชั่วคราว และเขาเชื่อว่าเขามีทนายดี ที่จะสามารถยกเรื่องปัญหาเกี่ยวกับอาการทางจิต จนทำให้เขานั้นรอดพ้นจากการตัดสินจำคุกหรือประหารชีวิต มาเป็นเพียงแค่รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลตลอดชีวิตเท่านั้น

แต่คณะลูกขุนไม่ได้มองเช่นนั้น มองว่า ทุกครั้งที่ก่อคดีฆาตกรรมเกซี่มีสติสัมปชัญญะครบถ้วน มีการไตร่ตรองเอาไว้ก่อน และมีการจัดการเหยื่อยอย่างเป็นขั้นเป็นตอน

จอห์น เวย์น เกซี่ ถูกตัดสินประหารชีวิตเมื่อวันที่ 13 มีนาคม 1980 ในคุกเขาใช้เวลาส่วนใหญ่ในการวาดภาพ  เขาถูกประหารชีวิตด้วยการฉีดยาพิษที่ศูนย์ราชทัณฑ์สเตทวิลล์เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 1991

และเมื่อมีการประหารชีวิตไปแล้วทางซีรีส์ก็ได้เล่าเรื่องต่อไปอีกว่า ยังมีร่างของเหยื่อประมาณ 8 คนที่ไม่สามารถระบุหาตัวตนได้ และหลังจากที่มีเทคโนโลยีการพิสูจน์เอกลักษณ์ของบุคคลโดยใช้ DNA เข้ามาแล้ว ทางตำรวจและนิติเวชก็ยังนำร่างหรือกระดูกมาตรวจสอบใหม่ จนสามารถหาตัวตนของเหยื่อได้อีกหลายคน และคนล่าสุดก็ถูกระบุตัวตนมนปี 2021 นี้เอง

ซึ่งก่อนวันประหารชีวิต เกซี่ได้ถูกบันทึกความรู้สึกเอาไว้ โดยพูดว่า

"...ผมมีอะไรจะบอก ผมฆ่าคนไป 33 ครั้ง คุณจะฆ่าผมได้ครั้งเดียว เกซีเอาชนะพวกเขาได้อีกแล้ว ฮ้า ฮ้า ฮ้า ฮ้า....."

มีข้อมูลที่น่าสนใจตรงที่ จอห์น เวย์น เกซี่ ถูกจับในปี 1978 ซึ่งเป็นปีสุดท้ายที่เขาทำการฆาตกรรมรวมแล้ว 33 ราย แต่ในปีเดียวกันนี้เอง เป็นปีเริ่มต้นของการก่อเหตุฆาตกรรมครั้งแรกของ เจฟฟรี่ย์ ดาห์เมอร์ ที่เขาฆาตกรรมชายที่กำลังจะโบกรถไปงานคอนเสิร์ต ดาห์เมอร์ก็คือฆาตกรที่มีพฤติกกรมรักร่วมเพศคล้ายกับจอห์น เวย์น เกซี่ ทั้งสองคนกระทำฆาตกรรมเหยื่อที่เป็นผู้ชายทั้งหมดเช่นกันอีกด้วย เรียกได้ว่า ปิดฉากเกซี่ฆาตกรต่อเนื่องชาย 33 ราย ปับ ก็เปิดฉากดาห์เมอร์ ฆาตกรต่อเนื่องชาย 17 รายทันที

หากใครอยากทราบเรื่องราวของ เจฟฟรี่ย์ ดาห์เมอร์ ฆาตกรต่อเนื่อง ฆ่า ขมขืน ขำแหละศพ เก็บไว้กินและเป็นที่ระลึกที่นับส่าโหดร้ายที่สุดคนหนึ่งในประวัติศาสตร์อเมริกาแล้วละก็ สาวามารถติดตามรับชมได้ที่ ซีรีส์สารคดี Conversations With a Killer: The Jeffrey Dahmer Tapes (2022) และ ซีรีส์ Dahmer – Monster: The Jeffrey Dahmer Story (2022) ได้ทาง Netflix เลยนะครับ

#ความรู้สึกหลัง
ก่อนอื่นเลยก็ต้องพูดถึงความรู้สึกของตัว จอห์น เวย์น เกซี่ ก่อนเลย ก่อนจะชมสารคดีเรื่องนี้ผมไม่เคยรู้จักฆาตกรต่อเนื่องคนนี้มาก่อน และพอได้ดูจบแล้วก็รู้สึกว่าเกซี่ มีพฤติกรรมหรือรูปแบบการใช้ชีวิตต่างกับฆาตกรคนอื่นอย่างสิ้นเชิง

เกซี่เป็นคนที่ใช้ชีวิตอย่างปกติ มีภรรยา มีลูก อยู่ในแวดวงสังคม เป็นสมาชิกพรรคเดโมแครต ของสหรัฐอเมริกา ได้รับการเลือกให้เป็นผู้นำชุมชนในการทำกิจกรรมจิตอาสา ช่วยเหลือเพื่อนบ้าน เป็นผู้จัดการงานเดินพาเรต รู้จักเจ้าหน้าที่คนใหญ่คนโตและนักการเมือง ชอบแต่งตัวเป็นตัวตลก ให้กำลังใจเด็กใรโรงพยาบาล หรือแต่งเดินพาเรตเสมอ ซึ่งเขาไม่มีพฤติกรรมปลีกแยกหรือหลีกหนีสังคมอะไรเลย แล้วที่น่าตกใจก็คือสารคดีแนะนำรูปภาพชีวิตของเขาในช่วงที่ทำงาน ทำงานสังคมที่มีอยู่อย่างหาศาลมาประกอบด้วย จึงทำให้เห็นว่าเขาอยู่กับผู้คนในสังคมได้อย่างปกติ และดูเหมือนจะเป็นคนดีเลยด้วยซ้ำ ซึ่งต่างจากเจฟฟรี่ย์ ดาห์เมอร์ฆาตกรต่อเนื่องที่ชอบปลีกตัว เก็บตัวอย่างขัดเจน ดังนั้นเราจึงไม่สามารถเหมารวมได้ว่าคนที่จะเป็นฆาตกรต่อเนื่องนั้นต้องมีพฤติกรเก็บหรือเข้ากับสังคมไม่ได้ตัวเสมอไป ก็นับว่าเป็นการเปิดโลกแห่งความรู้ใหม่ในด้านอาชญากรของผมเลยทีเดียว

แต่สิ่งหนึ่งที่ทางซีรีส์ต้องการจะบอกก็คือไม่ว่าใครก็ตามที่ทำอะไรลงไปจะต้องมีปมบางอย่างภายในใจที่สืบเนื่องมาจากชีวิตในวัยเด็กเสมอ ซึ่งทางทีมทนายของเกซี่ได้เล่าว่า ชีวิตในวัยเด็กของเกซี่ มักจะถูกพ่อทำร้ายในห้องครัว หรือขั้นใต้ดินของบ้านเสมอ ดังนั้นเมื่อเขาโตขึ้น มันจึงส่งผลทางจิตใต้สำนึกของเกซี่ จริงฝังเหยื่อของเขาใต้ถุนบ้าน เพื่อลบบาดแผลที่พ่อกระทำความรุนแรงกับเขาในห้องใต้ดินนั่นแหละ ดังนั้นจุดเริ่มต้นของคนที่จะเป็นหรือไม่เป็นฆาตกรต่อเนื่อง ก็มาจากพื้นฐานของครอบครัวทั้งสิ้น

ซีรีส์สารคดี เขาใช้วิธีการเล่าเรื่องโดยการนำบุคคลที่เกี่ยวข้องมาเล่าเรื่องผ่านหน้ากล้อง ไม่ว่าจะเป็นทนายของเกซี่ ตำรวจที่ทำคดีการตามหา ตำรวจที่ทำหน้าที่ขุดค้นหาร่างเหยื่อใต้ถุนบ้าน หญิงสาวที่ทำงานในร้านขายยาวันที่เกซี่มาร้างรูปภาพ เหยือที่เคยถูกล่วงละเมิดและรอดชีวิต และอีหลายคนที่เกี่ยวข้อง มันทำให้เราได้เห็นมุมมองอันหลากหลายที่เกี่ยวข้องกับตัวตนและพฤติกรรมของเกซี่ ทุกการเล่าเรื่องนั้นก็จะมีฟุตเทจที่เป็นวีดีโอ เทปบันทึกเสียง รูปภาพประกอบ หรือภาพเหตุการณ์ที่สร้างขึ้นมาใหม่ ซึ่งเราดูแล้วก็แทบแยกไม่ออกว่าเป็นของใหม่หรือของเก่า ทุกอย่างมาเสริมเรื่องราวได้แบบมีจังหวะที่ดี และฟุตเทจทั้งหลายที่เป็นของดั่งเดิมนั้นก็มีอยู่อย่างมหาศาล ต่อให้เราไม่รู้จักเกรซี่หรือการกระทำของเขาเลย เมื่อดูสารคดีจบเราก็สามารถรู้จักตัวตนเขาได้ในทุกแง่มุม

แต่คำว่าในทุกแง่มุมนั้น ส่วนตัวรู้สึกว่าซีรีส์ก็ยังไม่สามารถลงลึกเข้าไปถึงแง่มุมในจิตใจของจอห์น เวย์น เกซี่ได้ดีเท่าที่ควร เขาไม่ได้ระบุแรงจูงใจในแง่ของตัวเกซี่มากนัก เพียงแต่ระบุผ่านตัวบุคคลที่เกี่ยวข้องเท่านั้น ซึ่งต่างจากสารคดี Conversations With a Killer: The Jeffrey Dahmer Tapes (2022) ที่มีการลงลึกไปสู่ตัวของดาห์เมอร์แบบสุด ๆ ลงลึกเข้าไปในห้วงความคิด จิตใต้สำนึก และรับรู้แรงจูงใจในการก่อเหตุ ขณะทำรู้สึกอย่างไร อะไรเหล่านี้เราสามารถรับรู้ได้ทั้งหมด ในระดับที่ว่าเรายังแอบเผลอสงสารดาห์เมอร์ด้วยซ้ำไป เมื่อดูสารคดีของดาห์เมอร์จบแล้ว มันมีตะกอนหลายอย่างให้เราขบคิด และมันยังอะไรก้องอยู่ในหัวไปหลายวัน ส่วนสารคดี Conversations with a Killer: The John Wayne Gacy Tapes (2022) เมื่อดูจบแล้วก็เหมือนว่า "ได้รู้แล้ว" หรือ "จบแล้วจบไป" ก็เท่านั้น

ซีรี่ส์มีเพียง 3 ตอน แต่โดยส่วนตัวแล้วผมรู้สึกว่าค่อนข้างเล่าเรื่องช้า และไม่ค่อยมีอะไรให้เราตื่นเต้นมากนัก จะมารู้สึกตื่นตาตื่นใจก็หลังจากที่ทางตำรวจเข้าไปตรวจค้นบ้านของเกซี่ แล้วก็เริ่มพบร่างของเหยื่อที่ถูกฝังนั้นแหละ แต่ด้วยวิธีการเล่าเรื่องแบบตัดสลับไปมาระหว่างเหตุการณ์หาร๊อบ พีสต์ ชายที่หายตัวไปในปี 1978 ที่ใช้เวลามากกว่า 10 วัน ตัดสลับกับการไปเล่าเรื่องราวในอดีต และเหตุการณ์กระทำฆาตกรรมของเกซี ซึ่งจุดนี้ก็ช่วยไม่ให้น่าเบื่อไปได้หน่อยหนึ่ง

#บทสรุป
อย่างไรก็ตาม สารคดีคุยกับฆาตกร จอห์น เวย์น เกซี่: Conversations with a Killer: The John Wayne Gacy Tapes (2022 netflix) นอกจากจะถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเล่าเรื่องราวของฆาตกรต่อเนื่องที่โด่งดังที่สุดคนหนึ่งของอเมริกาแล้ว ก็ยังสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นการบอก แจ้งเตือน และให้ข้อสังเกตสัญญาณบางอย่างของคนคนหนึ่งที่จะกลายเป็นฆาตกรต่อเนื่อง และถึงแม้ว่าเขาจะมีพฤติกรรมและวิถีการใช้ชีวิตแบบปกติสามัญชนทั่วไปก็ตาม ถ้าหากเราสังเกตให้ดีแล้ว มันจะมีอะไรบางอย่างที่แตกต่างอยู่เสมอ หากเราสังเกตมันได้และหาทางยับยั้งป้องกันหรือแก้ไขอย่างทันท่วงทีได้ ก็คงจะไม่เกิดโศกนาฏกรรมเช่นนี้อีกต่อไป อย่างแน่นอน

เนื่องจากเป็นสารคดี จึงขอสงวนสิทธิ์การให้คะแนนความชอบในการรับชมครับ

@วาทิน ศานติ์ สันติ
19102022

#SuperReviewChannel
#ConversationsWithAKiller
#ConversationsWithAKillerTheJohnWayneGacyTapes
#TheJohnWayneGacyTapes
#TheJohnWayneGacyTapesNetflix
#คุยกับฆาตกรจอห์นเวย์นเกซี่
#สารคดีอาชญากรรมจากnetflix
#จอห์นเวย์นเกซี่

หมายเลขบันทึก: 708944เขียนเมื่อ 21 ตุลาคม 2022 10:29 น. ()แก้ไขเมื่อ 21 ตุลาคม 2022 10:37 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท