สวัสดีค่ะทุกท่าน พบกันอีกแล้วนะคะ หลังจากห่างหายไปนาน ตอนนี้ดิฉันเป็นนักศึกษากิจกรรมบำบัดชั้นปีที่ 3 แล้วค่ะ ซึ่งในชั้นปีนี้ ได้เริ่มเรียนลงลึกเกี่ยวกับฝ่ายต่างๆใน ในกิจกรรมบำบัด ซึ่งวันนี้ ดิฉันมีสิ่งที่จะนำมาฝากทุกคนค่ะ
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาดิฉันได้เริ่มเรียนวิชา กิจกรรมบำบัดสำหรับผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นวิชาที่ดิชั้นสนใจตั้งแต่เริ่มเข้ามาศึกษาในภาควิชากิจกรรมบำบัดเลยค่ะ ซึ่งในคาบเรียนนี้ดิฉันได้ศึกษาเกี่ยวกับ การประเมินคุณภาพการนอนหลับสำหรับผู้สูงอายุในครอบครัว ซึ่งหลังจากที่ได้เรียนจบในคาบ ดิฉันได้ลองนำแบบประเมินคุณภาพการนอนหลับสำหรับผู้สูงอายุ ไปสัมภาษณ์และประเมินคุณย่าของดิฉัน ซึ่งท่านอายุ 75 ปี
ก่อนหน้านี้ดิฉันกับคุณย่าได้มีการพูดคุยผ่านโทรศัพท์กันอยู่บ่อยครั้ง แต่ไม่เคยมีโอกาสได้ถามเกี่ยวกับการนอนหลับของท่าน คุณย่าของดิฉัน มีโรคประจำตัว คือ โรคเบาหวาน ความดันเลือดสูง และโรคอ้วนค่ะ การใช้ชีวิตประจำวันต้องใช้ไม้เท้าในการเดินไปในสถานที่ต่างๆเพราะมีอาการปวด และบวมบริเวณเท้า ด้วยโรคประจำตัวที่มากดิฉันเลยมีความสงสัยว่าโรคประจำตัวเหล่านี้มีผลกระทบต่อคุณภาพการนอนหลับของคุณย่าหรือไม่ ดิฉันจึงได้ใช้แบบประเมินคุณภาพการนอนหลับ โดยผ่านการสัมภาษณ์ ซึ่งเป็นการประเมินตนเองของคุณย่า ดังเอกสารแนบมานี้
จากการประเมินตนเองของคุณย่า ดิฉันได้นำมาแปลผลคะแนนทั้ง 7 องค์ประกอบ พบว่าคุณย่าได้คะแนนรวมทั้งหมด 4 คะแนน ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่มีคุณภาพการนอนหลับที่ดี ดังเอกสารที่แนบมานี้
เมื่อประเมินคุณภาพการนอนหลับของคุณย่าเสร็จแล้ว ดิฉันได้ทำการ สำรวจตนเองแบบ SEA ได้ดังนี้
ขณะทำแบบประเมิน เมื่อคุณย่าได้ทำการประเมินตนเองในหัวข้อต่างๆที่ดิฉันถามไป ในบางข้อคำถามคุณย่าเกิดความไม่มั่นใจในการประเมินตนเอง ว่าเหตุการณ์เหล่านั้นเกิดขึ้นบ่อยหรือไม่ หรือเกิดความไม่เข้าใจในคำถาม ทำให้ดิฉัน ต้องทำการช่วยเหลือ อธิบายข้อคำถาม ให้ชัดเจนยิ่งขึ้นเพื่อให้คุณอย่าเข้าใจ หรือยกตัวอย่าง เกี่ยวกับข้อคำถามนั้นๆ เพื่อให้คุณย่าเห็นภาพรวมและสามารถประเมินตนเองได้
ขณะทำการสัมภาษณ์ ดิฉันพยายามสร้างบรรยากาศ ขณะการสัมภาษณ์รวมถึงการประเมิน ให้มีบรรยากาศที่ผ่อนคลาย ไม่เคร่งเครียด ไม่ให้คุณอย่ารู้สึกว่ากดดันในการประเมิน เพื่อให้คุณย่าสามารถไว้วางใจในการเล่าถึงปัญหาและความทุกข์ใจ เกี่ยวกับการนอนหลับ เมื่อจบคำถามหนึ่งแล้ว ไม่รีบถามในข้อคำถามถัดไปในทันที แต่จะชวนคุย รวมถึงซักถาม ในข้อคำถามนั้นๆให้มากยิ่งขึ้น เพื่อให้ได้ข้อมูล และ ได้ทราบถึงปัญหาที่แท้จริง รวมถึงมีการเชื่อมบทสนทนาให้มีความลื่นไหล เพื่อนำไปสู่ข้อคำถามถัดไปได้
ขณะทำการสัมภาษณ์และประเมิน ดิฉันได้สอบถามเกี่ยวกับโรคประจำตัวของคุณย่า เบาหวาน ความดันสูง และโรคอ้วน ว่าส่งผลกระทบใด ต่อการนอนหลับของคุณย่าบ้าง คุณย่าตอบว่า ผลกระทบโดยตรงยังไม่มีแต่มีผลกระทบทางอ้อม เพราะจากโรคประจำตัวของคุณย่า ทำให้คุณย่ามีอาการเท้าบวม ค่อนข้างมาก และมักจะตื่นไปเข้าห้องน้ำตอนกลางคืนอยู่บ่อยๆ และเนื่องจากคุณย่าจะต้องใช้ไม้เท้าในการพยุงเดิน ทำให้เมื่อต้องตื่นมาเข้าห้องน้ำในตอนกลางคืน ทำให้การหาไม้เท้า เป็นไปได้ค่อนข้างยาก เพราะมืดมองไม่เห็น เท่าที่บวม ทำให้ไม่สามารถใส่รองเท้าเพื่อกันลื่นในห้องน้ำได้ ค่อนข้างเสี่ยงต่อการล้ม จากการได้ฟังปัญหาและความทุกข์ใจของคุณย่า ทำให้ดิฉันค่อนข้างเสียใจที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยมีโอกาสได้พูดคุยถึงปัญหาและความทุกข์ใจ เกี่ยวกับปัญหาต่างๆที่ส่งผลกระทบต่อการนอนหลับ ของคุณย่า
ดิฉันจึงได้แนะนำวิธีการ ปฏิบัติตนเบื้องต้น เพื่อลดปัญหาที่เกิดขึ้น เช่น การแก้ปัญหาเท้าบวม ดิฉันแนะนำให้คุณย่า มีหมอนรองเท้าเพื่อยกเท้าให้สูงขึ้น เหนือหัวใจ มีการยืดเหยียดขาอยู่เสมอ และก่อนนอนแนะนำให้แช่เท้าในน้ำอุ่น เพื่อช่วยให้เลือดไหลเวียนได้สะดวก รวมถึงแนะนำให้ลดและควบคุมการรับประทานเกลือหรือโซเดียม ที่ช่วยให้เกิด น้ำส่วนเกินในร่างกายทำให้เกิดอาการบวม รวมถึงแนะนำวิธีการนวลลดบวม ที่ดิฉันเคยเรียนมา เมื่อตอนเป็นนักศึกษากิจกรรมบำบัดชั้นปีที่ 2ให้แก่ผู้ดูแล เพื่อให้นวดให้คุณย่าในทุกๆวัน ปัญหาการตื่นไปเข้าห้องน้ำตอนดึก ดิฉันแนะนำให้คุณย่า เข้าห้องน้ำก่อนนอนให้เรียบร้อย และปรับเปลี่ยนตำแหน่ง การตั้งไม้เท้า ที่คุณย่าสามารถจำได้ อยู่ใกล้และเอื้อมไปหยิบได้อย่างสะดวก แนะนำให้ปรับ ไซส์ของรองเท้ากันลื่นเพื่อให้คุณย่าใส่ได้ หรือเพิ่มแผ่นยางกันลื่นในห้องน้ำ เพื่อลดความเสี่ยงในการล้ม
จากการพูดคุยกับคุณย่าในครั้งนี้ ที่ค่อนข้างแตกต่างจากครั้งอื่นๆ เพราะในครั้งอื่นๆ ดิฉันมักจะคุยกับคุณย่าในเรื่องทั่วไป ถามเกี่ยวกับสุขภาพ การใช้ชีวิต แต่ในครั้งนี้ ได้มีการสัมภาษณ์และประเมินคุณย่าเกี่ยวกับคุณภาพการนอนหลับของคุณย่า ซึ่งเป็นประเด็นที่ไม่เคยพูดคุยกัน ทำให้ได้เห็น ถึงการวางแผนกิจกรรมการนอนหลับของคุณย่า ตั้งแต่ก่อน ระหว่าง รวมถึงหลังการนอนหลับ การตะหนักรู้เกี่ยวกับคุณภาพการนอนหลับของตัวเอง ความทุกข์ใจ เกี่ยวกับปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อการนอนหลับ ทำให้รับรู้ได้ว่า คุณย่ายังสามารถ วางแผน เกี่ยวกับกิจกรรมที่สำคัญสำหรับตนเอง รู้ถึงปัญหาที่เกิดขึ้น สามารถเล่าเรื่องราวต่างๆ ให้ดิฉันฟังได้อย่างเข้าใจ
ทำให้การพูดคุยกับคุณย่าในครั้งนี้ ทำให้ดิฉันรู้สึกดีใจและเสียใจในคราวเดียวกัน รู้สึกดีใจที่สามารถช่วยเหลือ และแก้ไขปัญหาความทุกข์ใจของคุณย่า ได้แนะนำวิธีการลดบวม ที่เคยเรียนมาในชั้นปีที่2 จนคุณย่าชื่นชมและภาคภูมิใจในตัวดิฉันว่าสามารถนำความรู้ที่เรียนมาเพื่อช่วยเหลือสมาชิกในครอบครัวได้ ส่วนเรื่องที่เสียใจ คือดิฉันไม่เคยพูดคุยถึงการนอนหลับ ที่เป็นกิจกรรมที่สำคัญในผู้สูงอายุกับคุณย่าเลย ทำให้ก่อนหน้านี้อาจจะละเลย ความทุกข์ใจของคุณย่าในส่วนนี้ไป ซึ่งดิฉันได้บอกให้คุณย่าฟัง เกี่ยวกับความเสียใจนี้ คุณย่าจึงปลอบและให้กำลังใจดิฉัน ว่าอย่างน้อยวันนี้ ดิฉันก็ได้เห็นถึงปัญหา และได้ให้คำแนะนำจากความรู้ที่เรียนมา เท่านี้ก็เก่งมากๆแล้ว การพูดคุยกับคุณย่าในครั้งนี้ จึงเหมือนการได้แชร์ความรู้สึก ของทั้ง คุณย่าและหลานอย่างดิฉัน เป็นการพูดคุย ที่โอบล้อมไปด้วยความรัก ความห่วงใย การปลอบประโลม การเสียใจ ขอโทษ การให้กำลังใจ และภาคภูมิใจ เรียกได้ว่าเป็นการพูดคุย ครั้งแรกที่มีทุกความรู้สึกมากมายขนาดนี้
สำหรับบทความในวันนี้ อาจจะต้องจบเพียงเท่านี้ แต่มีสิ่งหนึ่งที่ดิฉันอยากจะฝากไว้กับผู้อ่านทุกท่าน ว่าการนอนหลับเป็นกิจกรรมที่สำคัญสำหรับมนุษย์ เราไม่ควรละเลยถึงปัญหา เพราะมันอาจจะส่งผลกระทบที่สร้างความทุกข์ใจเป็นอย่างมาก ให้กับตัวเราเอง รวมถึงคนที่เรารักค่ะ
ไม่มีความเห็น