พื้นที่ว่างข้างๆกำแพงรั้วโรงเรียน จะปล่อยให้รกร้างว่างเปล่า ก็จะดูไม่งาม เลยคิดว่าถ้าจะรักเรื่องราวของความพอเพียง ก็ต้องใช้พื้นที่ของโรงเรียนให้สมประโยชน์
จึงกลายเป็นผืนนาน้อย ที่อยู่ติดกับสระน้ำของโรงเรียน เป็นนิยามที่เรียกขานกันต่อมาว่าโคกหนองนา จะเป็นอย่างอื่นไม่ได้จริงๆ
ผ่านการทำนามาแล้วปีละครั้ง แต่ก็ถือว่าเนิ่นนานมาจนถึงทุกวันนี้ เป็นปีที่ ๙ แล้ว ไม่เคยได้จดจำผลผลิต คิดแต่เพียงว่านี่คือการเรียนรู้ ที่ผ่านประสบการณ์จริง
ชื่อจริงของโครงการก็คือ ทำนาวันแม่ เก็บเกี่ยววันพ่อ แต่ด้วยอายุราชการ คงอยู่ไม่ถึงวันพ่อปีหน้า จึงถือว่าปีนี้น่าจะทำนาเป็นปีสุดท้าย
ภาพจำของการดำนา ๒ ครั้งหลังที่ผ่านมา ยังติดตราตรึงใจ บทเรียนจากการดำนาโดยใช้ต้นกล้ามากมายและดำถี่ยิบ เพราะกลัวต้นกล้าจะเหลือ ผลสุดท้ายไปไม่ถึงเป้าหมาย
น้ำดี ปุ๋ยอินทรีย์เพียงพอ ทำให้ต้นข้าวแตกกอสูงใหญ่ อัดแน่นกันอยู่ในแปลง พอเริ่มออกรวงสีทอง ฝนฟ้าตกลงมาพร้อมลมกรรโชกแรง ต้นข้าวจึงทานน้ำหนักไม่ไหว
เอนแล้วก็ล้มระเนระนาด เมื่อลำต้นทรงตัวไม่อยู่ ก็เหมือนจะพึ่งพาตนเองไม่ได้ จึงถูกโรคภัยรุมเร้าและรบกวนตลอดเวลา นำพาให้รวงข้าวทรุดโทรมและเสียหาย
พอจะได้ชื่นชมธรรมชาติของท้องนาในระหว่างทางบ้าง เมื่อยังไปไม่ถึงปลายทาง ก็ต้องแก้ไขปรับปรุง คิดใหม่และทำใหม่ ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายแต่ประการใด
เริ่มจากการไถดะหรือไถแปร ในรอบแรก เมื่อเดือนที่แล้ว ต้นหญ้าและใบไม้แห้งกองใหญ่ ที่ทับถมกันมาหลายเดือน ถูกรถไถเก็บกวาดสะอาดตา ปะปนคลุกเคล้ากันไป
วันนี้ รถไถปั่นดินในแปลงนาจนป่น มองดูเป็นเม็ดละเอียดร่วนซุย สัมผัสจับต้องดินก็รู้สึกเหนียวมือ นี่คือดินที่เหมาะสมกับการทำนาที่สุดแล้ว
จากนั้น เติมน้ำเข้านา ตั้งใจจะกักเก็บไว้จนเต็ม มองไม่เห็นผืนดินได้ยิ่งดี เพื่อรอต้นกล้าจากผู้ปกครองราวๆ ๒๐ กำ ปักดำโดยนักเรียน ขณะที่ปักดำได้ลุยน้ำไปด้วย นักเรียนคงจะรู้สึกสนุกมิใช่น้อย
เมื่อทุกอย่างพร้อม จึงไปติดตามถามหาต้นกล้าจากผู้ปกครองในหมู่บ้าน ผู้ปกครองถามกำหนดการดำนาที่แน่นอน เพื่อจะบริการต้นกล้าให้ถึงโรงเรียน
นัดหมายกันวันที่ ๑๑ สิงหาคม หลังเสร็จสิ้นพิธีการงานวันแม่แห่งชาติ ก็เข้าสู่กิจกรรมดำนาวันแม่ เพื่อจะไปเก็บเกี่ยวในวันพ่อ ขอทำเป็นครั้งสุดท้าย ด้วยความตั้งอกตั้งใจเป็นพิเศษกว่าทุกปี
ชยันต์ เพชรศรีจันทร์
๓ สิงหาคม ๒๕๖๕
ไม่มีความเห็น