“อะไรบอกว่าพฤติกรรมไหนเป็นปัญหา พฤติกรรมไหนไม่เป็นปัญหา” คำถามนี้ถูกตั้งขึ้นมาเมื่อดิฉันเขียนบันทึก “ปัญหาสังคม : อย่างไรจึงเรียกว่า...ก้าวร้าว (2)” จบ ด้วยเป็นเพราะเกิดข้อสงสัยจึงอยากหาคำตอบให้กับตัวเองและสังคม เพราะสมองที่ไม่ได้หยุดนิ่งจึงคิดไปเรื่อยเปื่อย ตามแต่เหตุปัจจัยที่ก่อตัวให้เกิดเป็นความอยากรู้อยากเห็นและเป็นเพราะขณะนั้นมืดบอดเพียงเพราะไม่มีคำตอบให้กับตัวเอง
หากแต่วันนี้ดิฉันได้ย้อนกลับไปดูบันทึก...ปัญหาสังคม : พฤติกรรมก้าวร้าว (1) ในประเด็นความเห็นของคุณ space ซึ่งท่านได้จุดประเด็นและให้คำตอบดิฉันด้วยแสงแห่งเทียน ไว้ว่า...
“เราคงมองพฤติกรรมด้วยอคติไหม อคติไปทางใดทางหนึ่งไม่ใช่ลบบวก ซ้ายขวา หรือถูกผิด แต่เป็นอคติเพราะกรอบสังคม ที่ช่วยกันขีดแล้วมีคนมาแหกกรอบ ก็เลยถูกประณามว่าก้าวร้าวไป
อ่านดูเหมือนปัญหาพฤติกรรมนี้จะอยู่ที่ว่าใครแสดงอะไรออกมาแล้วสังคมไม่ยอมรับ สังคมใครล๊ะ หากเป็นกลุ่มสังคมของคนที่รวมหัวกันแสดงความก้าวร้าวเขายอมรับกันเองล๊ะ ไม่ได้ใช่ไหม งั้นเอาใหม่ ต้องเป็นสังคมโดยรวม ทีนี้ยิ่งงงไหม จะบอกว่าความก้าวร้าวที่ยังคงอยู่ได้ก็น่าจะเป็นเพราะสังคมน้อย ๆ ของเขาที่เกาะกลุ่มกัน เขาให้การรับรองและยอมรับกันเอง มันถึงอยู่ต่อได้ในสังคมส่วนใหญ่ ที่เขามองว่าเขาเป็นส่วนเกินเสมอ ๆ”
ดิฉันจึง ลปรร. กับท่านดังนี้...
“เพราะเขามองว่าเขาเป็นส่วนเกินของสังคมใหญ่ เขาจึงพยายามสร้างสังคมน้อย ๆ โดยการรวมตัวจับกลุ่มและแสดงพฤติกรรมก้าวร้าวจนเป็นที่ยอมรับของกลุ่ม และแทรกตัวฝังอยู่ในสังคมใหญ่ แต่หากสังคมมองว่าเขาเป็นกลุ่มเล็กกว่าไม่น่าจะเป็นปัญหาอะไร หากแต่ทุกคนเมินเฉยกลุ่มเล็กจากหนึ่งคนจะพัฒนาตัวเป็นสองคน...สามคน จนลุกลามไปเรื่อย...จนไร้หนทางแก้ไขก็เป็นได้
ทีนี้พอจุดประเด็นขึ้นว่าเพราะพวกเขาเกาะกลุ่มกันและยอมรับกัน ก็มีความคิดบางอย่างเกิดขึ้นในใจว่า บางครั้งกองทัพที่แข็งแกร่งอาจแตกกระเจิงได้ด้วยเพราะมีใส้ศึกเข้าไปสอดแทรกสอดแนม เช่นเดียวกันหากเราหาวิธีการอะไรสักอย่างเพื่อเข้าไปสอดแทรกเพื่อให้เกิดช่องว่างระหว่างความเข้มข้นนั้น ตัวสอดแทรกนี้อาจหลอมละลายพฤติกรรมเหล่านั้นได้...ก็เป็นได้”
บันทึกนี้จึงเขียนขึ้นเพื่อขอบคุณคุณ space ที่ทำให้คำถามบางอย่างที่ติดอยู่ในใจได้หลุดออกมาโลดแล่นอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริงและได้มองเห็นซึ่งคำตอบนั้น แต่ยังรอการแลกเปลี่ยนเรียนรู้จากท่านและท่านอื่น ๆ ต่อไปค่ะ เพราะยังมีอีกหลายอย่างที่อยากรู้ จึงควรได้รู้ และต้องจักรู้ให้จงได้
เรียน อาจารย์วิจิตรา ครับ
สวัสดีปีหมูทองครับ!!!!!!
ขออำนวย อวยพรให้อาจารย์ประสบกับความสุข สมหวัง ถึงพร้อมด้วยพละ และจิตใจที่เข้มแข็ง ตลอดไป
ขอให้สวยๆอย่างนี้ ...ไม่สร่างนะครับ
จตุพร วิศิษฏ์โชติอังกูร
เข้ามาสวัสดีปีใหม่ และอยากบอกว่าเช้านี้สดชื่นครับ
เวลาเราสร้างกฎเกณฑ์ เรามุ่งหวังอะไรครับ น่าจะเป็นเพื่อให้ทุกคนได้ถือปฏิบัติและวางตนอยู่ในกรอบที่กำหนดขึ้น สังคมใหญ่หากมีเกณฑ์มาก เป็นธรรมดาที่จะมีกลุ่มคนไม่ปฏิบัติตาม เพราะในสังคมเล็กที่เขาอยู่จริง ๆ เกณฑ์บางข้อ บางอย่าง เขาถือว่าตรงกันข้ามกับที่สังคมใหญ่ยอมรับ วิธีการจัดการจึงมี 2 ด้าน คือ
1. จัดการที่เกณฑ์ให้เป็น Minimize ที่ไม่ว่าสังคมใหญ่-เล็กยอมรับมากที่สุด วิธีนี้เกิดปัญหาน้อยทีสุดกับการฝืนกฏเกณฑ์ แต่สังคมจะไม่ได้ดั่งใจในเรื่องภาพรวม (ค่อนข้างอิสระ ฟรีสไตล์)
2. จัดการที่พฤติกรรมของคนให้ปรับเปลี่ยนไปตามกฏเกณฑ์ใหม่ที่ตั้งขึ้นไว้แบบ Maximize ตรงนี้มั้งครับที่เราต้องมาคิดวิธีการจัดการอย่างเช่นทุกวันนี้ การจัดการที่พยายามทำก็มีหลายแบบอีก 2 แบบ แบบสุดโต่ง คือ การลงโทษ และการยกย่องชื่นชม มีวิธีการผสมผสานระหว่าง 2 วิธีอีกบ้างเช่น การสร้างการรับรู้อย่างเข้าใจแก่คนที่มีพฤติกรรมสุ่มเสี่ยงต่อการฝืนกฏเกณฑ์ เป็นต้น
การสร้างกฏเกณฑ์ทั้ง 2 แบบ ทั้ง Minimize และ Maximize เป็นเรื่องของ Norm เป็นไปโดยธรรมชาติ เราพบว่าเกิดประเด็นปัญหาขึ้นเราจะไปจัดการมันก็เป็นเรื่องยาก และเราต้องยอมรับว่าการเกิดของ Norm เป็นอะไรที่ดีที่สุดแล้วโดยธรรมชาติ ฉะนั้นเลยเหลือประเด็นเดียวคือการมาจัดการที่พฤติกรรมของคนให้ปรับเปลี่ยนไปตามกฏเกณฑ์ใหม่ที่ตั้งขึ้น ด้วยกลยุทธ์ที่น่าจะต้องศึกษาค้นคว้าให้เหมาะสม อย่างโจทย์ของอาจารย์น้องคือ "ความก้าวร้าว" ใช่ไหม หรือพูดยาวไปแล้วทำให้งง ก็ไม่ทราบได้ครับ
สวัสดีปีใหม่ค่ะน้อง "จตุพร"
ขอบคุณมากค่ะ...สำหรับคำอวยพร
พรประเสริฐอันใดที่อวยชัยมา (ยกเว้นข้อสุดท้ายนะคะ...ยิ้ม ๆ)
ขอให้บังเกิดเป็นผลส่งกลับไปแด่ผู้อวยพรด้วยนะคะ
มีความสุขความเจริญยิ่ง ๆ ขึ้นไปค่ะ
งง ๆ บ้างเล็กน้อยถึงปานกลางค่ะ แต่ก็พอจะเข้าใจค่ะที่คุณพี่ "ชายขอบ" แนะแนวทางมาให้ ทีนี้ความหนักหนาเอาการก็มาตกอยู่ที่ต้องมานั่งคิดทบทวนว่ากลยุทธิ์ที่จะใช้ในการลดปัญหาดังกล่าวนี่ควรเป็นอะไร อย่างไร คงต้องใช้เวลาทบทวนนะคะ
ขอบคุณมาก ๆ ค่ะ
สวัสดีปีใหม่ และขอบคุณมาก ๆ ค่ะน้อง "ปภังกร"
สุขกายสบายใจ โรคภัยไม่เบียดเบียนนะคะ
มีความสุขมาก ๆ ตลอดปีและตลอดไปค่ะ