พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้
สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี
เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ไป ในการพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยทักษิณ ประจำปีการศึกษา ๒๕๖๑-๒๕๖๒
ณ มหาวิทยาลัยทักษิณ วิทยาเขตสงขลา อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา
โอกาสนี้ พระราชทานพระราโชวาทแก่ผู้สำเร็จการศึกษา ประจำปีการศึกษา ๒๕๖๑ ความว่า
... เกียรติและความสำเร็จที่บัณฑิตได้รับนี้ เป็นเครื่องแสดงให้เห็นว่า
บัณฑิตได้ศึกษาเล่าเรียนมาด้วยความวิริยอุตสาหะ จึงนับว่าได้ปฏิบัติหน้าที่ในฐานะที่เป็นผู้ศึกษาเล่าเรียนอย่างครบถ้วนบริบูรณ์แล้ว
อย่างไรก็ตาม บัณฑิตทุกคนยังมีหน้าที่สำคัญอีกประการหนึ่ง อันพึงระลึกไว้เป็นนิตย์ คือหน้าที่ในฐานะที่เป็นพลเมืองของประเทศ อันได้แก่
การดำรงตนเป็นพลเมืองดี ผู้ที่เป็นพลเมืองดีนั้น หมายถึงผู้ที่ประพฤติตนปฏิบัติงาน เป็นประโยชน์และเป็นธรรม ทั้งต่อตนเองและส่วนรวม
การจะทำให้ได้ดังที่กล่าวต้องอาศัยคุณธรรมเป็นเครื่องกำกับ ความคิดจิตใจ ได้แก่ คารวธรรม สามัคคีธรรม และปัญญาธรรม
คารวธรรม หมายถึงความเคารพ คือต้องรู้จักเคารพตนเอง เคารพผู้อื่น เคารพกฎกติกาของสังคม และเคารพสิ่งที่ดีงามถูกต้อง
สามัคคีธรรม หมายถึง ความพร้อมเพรียงปรองดองกัน คือต้องรู้จักเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กัน ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน ร่วมแรงร่วมใจกันปฏิบัติสิ่งที่พิจารณาแล้วว่านำมาซึ่งความดี
ความเจริญ ปัญญาธรรม หมายถึง ความรู้ความฉลาด คือต้องรู้จักคิดพิจารณาสิ่งต่าง ๆ เรื่องราวต่าง ๆ ด้วยใจเที่ยงตรงเป็นกลางปราศจากอคติ อันจะช่วยให้การประพฤติตนปฏิบัติงานทุกอย่าง เป็นประโยชน์และเป็นธรรมอย่างแท้จริง
หากบัณฑิตดำรงตนโดยยึดถือคุณธรรม ทั้งสามประการนี้ แต่ละคนก็จะปฏิบัติหน้าที่ในฐานะที่เป็นพลเมืองของประเทศได้อย่างสมบูรณ์ สามารถสร้างสรรค์ความสำเร็จและความเจริญให้แก่ตนเองและชาติบ้านเมืองได้พร้อมทุกส่วน ...
ในภาคบ่าย พระราชทานปริญญาบัตร ประจำปีการศึกษา ๒๕๖๒ และพระราชทานพระราโชวาทความว่า
... ความสุขความเจริญอันแท้จริงในชีวิตและหน้าที่การงานนั้น จะเกิดมีขึ้นได้ด้วยการประพฤติปฏิบัติที่เป็นประโยชน์และเป็นธรรม
ไม่อาจเกิดมีขึ้นได้ด้วยการเบียดเบียนผู้อื่น หรือเบียดบังส่วนรวม กล่าวได้ว่า ความสุขความเจริญที่แท้ ย่อมเกิดจากการกระทำที่มีลักษณะเป็นการสร้างสรรค์ มิใช่การทำลาย
บัณฑิตทุกคนไม่ว่าจะทำการใด จึงต้องคิดพิจารณาอย่างถี่ถ้วนว่าเป็นคุณหรือเป็นโทษ เป็นประโยชน์หรือมิใช่ประโยชน์ เป็นธรรมหรือไม่เป็นธรรม แล้วมุ่งประพฤติปฏิบัติแต่สิ่งที่เป็นคุณเป็นประโยชน์ และเป็นธรรมเท่านั้น
ในขณะเดียวกัน ก็ประกอบกิจการงานด้วยความเอาใจใส่ระมัดระวัง หมั่นทบทวนความรู้และแสวงหาความรู้ใหม่ ๆ อยู่เสมอ แล้วนำความรู้ความสามารถมาใช้ปรับปรุงส่วนที่ควรปรับปรุงให้ดีขึ้น และส่งเสริมส่วนที่ควรส่งเสริมให้บริบูรณ์
ถ้าทำได้ดังนี้ บัณฑิตก็จะเป็นผู้ประพฤติตนปฏิบัติงานแต่ในทางสร้างสรรค์ ซึ่งสามารถป้องกันความผิดพลาดและเสื่อมเสียทั้งปวงได้อย่างดีที่สุด
แต่ละคนก็จะมีความสุขความเจริญที่แท้จริง ทั้งในชีวิตและกิจการงานอย่างไม่ต้องสงสัย จึงขอให้บัณฑิตนำสิ่งที่พูดนี้ไปพิจารณาให้เข้าใจ และยึดถือปฏิบัติให้ได้ประโยชน์ ...
นำมาจากเพจ
พีระพงศ์ วาระเสน บ๊อบบี้ ผู้บันทึก
๑๕ กรกฎาคม ๒๕๖๕
ไม่มีความเห็น