เคส 3 พี่น้อง

• จงยกตัวอย่าง Conditional Reasoning ในเคสสามพี่น้องของวันนี้ เช่น Condition ที่ 1 OT มีบทบาทประเมินและออกแบบการฟื้นคืนสุขภาวะได้อย่างไร ตอบมาเพียง 3 ตัวอย่าง

เลือกประเมินพี่คนโตที่มีปัญหาเรื่อง high function Asperger’s ซึ่งจะยกตัวอย่างการประเมินและออกแบบฟื้นคืนสุขภาวะในเรื่องของการมีปฎิสัมพันธ์กับสังคมและเรื่องการสื่อสารทำให้ผู้รับบริการมีความต้องการอยากพูดคุยกับน้องอีก 2 คนและมีความยากลำบากในการเริ่มต้นสนทนา ในฐานะที่นักศึกษากิจกรรมบำบัดได้มีการประเมินเป็นการวาดรูปครอบครัวซึ่งรูปที่ได้มีลูกสาวและเปรียบเปรยผู้รับบริการเป็นต้นไม้ที่คอยเป็นร่มโพธิ์ และรวบรวมข้อมูลจากการสัมภาษณ์ทั้งหมดจึงได้มีการออกแบบกิจกรรมเพื่อฟื้นคืนสุขภาวะของผู้รับบริการท่านนี้ผ่านการคิดรวบยอดจากการทำกิจกรรมกลุ่มพบว่า 1. ให้มีการทำกิจกรรมการทานข้าวร่วมกันกับน้อง 2 คนหรือการทำอาหารโปรดของบิดามารดาที่ล่วงลับไปและจัดงานเลี้ยงขนาดเล็กภายในครอบครัวกับภรรดา ลูกสาวและคนที่สนิทของผู้รับบริการ 3.ไปเที่ยวต่างจังหวัดในหยุดกับคนในครอบครัว

• จงตั้งคำถามที่คมชัดด้วย Why จำนวน 5 คำถาม ที่เกี่ยวข้องกับเคสสามพี่น้อง แล้วตอบเป็น Procedural Reasoning ในแต่ละคำถาม

1. เพราะถึงคิดว่าตนเองไม่สนิทกับน้องชายคนสุดท้อง : ไม่ค่อยได้พูดด้วยกันและน้องชายติดเกมส์มากด้วย ในฐานะที่กำลังเรียน OT จะสร้างสัมพันธภาพให้พี่น้องสนิทกันด้วยการหากิจกรรมที่ร่วมมือกัน เช่น มี big cleaning day ภายในบ้านหรือไปเที่ยวในหยุด
2. เพราะอะไรถึงเครียด : ทำงานทุกวัน ไม่ได้พักผ่อน ทำการถึงเที่ยงคืนและนอนไม่หลับ เครียดแล้วไม่รู้จะสื่อสารยังไง พอเครียดก็จะปวด(chronis stress)ในฐานะที่กำลังเรียน OT จะหากิจกรรมยามว่างเพื่อจัดการความเครียด เช่น การวาดรูป การถ่ายรูปซึ่งสามารถระบายความเครียดสะสมและสารแห่งความสุขจะจัดการความเครียดนี้ได้รวมถึง ot จะสอนการฝึกเคาะอารมณ์ที่สามารถทำได้ด้วยตัวเองจากนั้นจะวางแผนจัดการเรื่องตารางการทำงานและการพักผ่อน ทั้งนี้สิ่งสำคัญคือการคิดบวก ปล่อยวางและขอบคุณตัวเอง 
3. เพราะอะไรถึงอยากรวย : จะได้ส่งเงินในน้อง ในฐานะที่กำลังเรียน OT 
4. ทำไมถึงวางแผนให้น้องชาย : เห็นน้องมี ปัญหา low function คิดว่าถ้าวางแผนให้น้องและสิ่งนั้นมันจะดีกับเขา ในฐานะที่กำลังเรียน OT เนื่องจากสัมพันธภาพทั้งสองคนไม่สนิทกัน จึงทำให้น้องชายไม่ได้อธิบายหรือบอกความต้องการของตนเองและในมุมมองของพี่สาวที่เป็น OCPD ต้องการให้ชีวิตน้องชายเจอแต่สิ่งดีๆจึงคิดวางแผนจนน้องชายไม่ได้แสดงจุดยืนของตนเอง ทั้งนี้ ot จะถามความต้องการที่แท้จริงของน้องชายและหากิจกรรมให้พี่สาวได้ทำเป็นงานอดิเรกเพื่อพี่สาวไม่ได้มาคดเรื่องน้องชาย
5. ทำไมถึงคิดว่ายากที่หากิจกรรมใหม่ๆทำ : เคยทำอะไรแล้วทำไม่สำเร็จ ทำแล้วเบื่อง่าย ในฐานะที่กำลังเรียน OT จะให้กำลังใจและพูดคุยถึงกิจกรรมที่เคยทำแล้วไม่ประสบความสำเร็จเพื่อหาจุดบกพร่องทั้งนี้ ot จะช่วย grade down กิจกรรมน้นให้ง่ายขึ้นและสร้าง self-esteem ให้กับผู้รับบริการอีกครั้ง ”ไม่มีอะไรยากไปกว่าการที่ไม่ได้ลงมือทำกิจกรรมนั้น”

• จงทบทวนว่าตัวเรามี Learn How to Learn เพื่อจะเรียนและทำงาน OT อย่างมีความสุขได้อย่างไร การแบ่งเวลา

ในการเรียน OT ให้มีความสุขอย่างไร ก่อนที่ดิชั้นจะเลือกเรียนสายนี้ ดิชั้นผูกพันกับชาวบ้านที่อยู่ในชุมชนของดิชั้นมาก ซึ่งในชุมชนของดิชั้นมีทั้งเด็กที่มีปัญหาด้านการเรียน ผู้ป่วยที่พิการ ผู้สูงอายุที่นอนติดเตียง ดิชั้นได้แต่รับรู้เรื่องราวของแต่ละท่านเมื่อไปเยี่ยมเยือน และด้วยส่วนตัวของดิชั้นเองจะชอบหาอะไรทำที่เพื่อไม่ให้อยู่ติดบ้านหรือต้องมีอะไรทำอยู่เเล้วจึงเกิดความคิดขึ้นมาว่าเราอยากทำอะไรสักอย่างให้พวกเขาแต่เรายังไม่มีความรู้ที่จะให้การให้กิจกรรมหรือสอบถามอุปสรรคที่ขึ้นในการใช้ชีวิตของพวกเขาในการใช้ชีวิตประจำวันดังนั้นจึงเกิดเป็นเป้าหมายในการเรียน OT เพื่อจะไปช่วยเหลือผู้ที่มีอุปสรรคและมีความยากลำบากในการเข้าถึงสิทธิการรักษาพยาบาล ดิชั้นมั่นใจว่าการเรียนได้ OT จะเป็นส่วนหนึ่งที่จะให้ meaningful ให้พวกเขาได้ ซึ่งนี้เป็นส่วนหนึ่งในการทำให้ดิชั้นเรียน OT แล้วมีความสุข ต่อไปจะเป็นความสุขที่เกิดขึ้นขณะที่ดิชั้นกำลังอยู่ในช่วงของศึกษาอยู่ในสาขา OT คือการแบ่งเวลา เราอยู่ในวัยเรียน ดังนั้นเวลา 60% จะเป็นช่วงของเรียนแล้วอีก 40% จะเป็นช่วงของการพักผ่อน การไปเที่ยว การทำกิจกรรมยามว่าง กิจกรรมงานบ้าน ซึ่งการแบ่งเวลาของดิชั้นมองในมุมใช้ชีวิตควบคู่ไปกับการเรียนเลือกทำในสิ่งที่ตัวเองชอบและทำแล้วมีความสุขแล้วเราจะไม่มาคิดเสียดายเวลาที่ผ่านไปเลย