…ถึงปัจจุบัน โลกนี้ไร้พรมแดน ทุกคน สามารถเข้าถึงข้อมูลต่างๆ ด้วยระบบIT …นั่ง ยืน เดิน อยู่ที่ไหน หากต้องการอยากเห็น อยากรู้อะไร ก็สามารถค้นหาได้บนหน้าจอคอมพิวเตอร์ที่มีหลากหลายรูปแบบให้เลือกใช้…โดยไม่ต้องเสียเวลา และเสียค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปพบเห็น หรือพูดคุยกันยังสถานที่จริง …แต่ลุง และป้าไม่ถนัดในการท่องโลกบนอินเตอร์เน็ต…จึงนิยมการเดินทางท่องเที่ยว มากกว่า …มีอุปสรรคที่เกิดขึ้นกับการเดินทางตามลำดับ ดังที่มีคนกล่าวไว้…ตรงเป๊ะ …ตอนวัยหนุ่มสาว มีกำลัง มีเวลา แต่ไม่มีเงิน…ตอนเป็นผู้ใหญ่ มีกำลัง มีเงิน แต่ไม่มีเวลา …พอถึงวัยชรา มีเงิน มีเวลา แต่ไม่มีกำลัง…เที่ยวขาไปเมืองไทยไม่ยุ่งยาก เพราะตอนนั้นเปิดประเทศ และเชื้อโรคโควิดสายพันธุ์Omicronยังไม่ระบาด …แต่เที่ยวขากลับแคนาดา การเดินทางยุ่งยากมาก …แค่ถึงสนามบินสุวรรณภูมิ ลุง และป้าต้องเข็นรถบรรทุกกระเป๋าเดินทางจากประตูผู้โดยสารขาออกหมายเลข 2 ที่เปิดเพียงประตูเดียว มาถึงเคาน์เตอร์เช็คอินของสายการบินหมายเลข9 ก็เหงื่อตก ผมเผ้าเปียก…พอมาถึงนาริตะ เจอทั้งจุดตรวจคนเข้าเมือง และจุดตรวจเอกสารRT-PCR …ทั้งลุง และป้าต้องหาที่นั่งพักเอาแรง…ยังนึกขำตอนซื้อ E-Ticket พยายามเลือกจุดเปลี่ยนเครื่องที่ใช้เวลาน้อยที่สุดแค่ ชั่วโมงเดียว…ลุงก็บอกว่าไหว…ต่อมาเชื้อ Omicron เริ่มเกิดการแพร่ระบาด สายการบินแจ้งเปลี่ยนเที่ยวบิน และเวลาหยุดเปลี่ยนเครื่อง ทั้งสองสนามบิน เพิ่มเป็น 3-4ชั่วโมง …ทำให้ต้องเตือนตัวเองว่า ถ้าจะเดินทางครั้งต่อไปต้องสำรองE-Ticket ที่มีเวลารอเปลี่ยนเครื่อง 4-5ชั่วโมง เพื่อมีเวลานั่งพักผ่อนให้เหมาะสมกับวัยที่เพิ่มขึ้นทุกวัน…
ไม่มีความเห็น