ผมเพิ่งเดินทางกลับจากอำเภอชุมพวง จังหวัดนครราชสีมา อันที่จริงเมื่อวานก็ไปครั้งหนึ่ง รถออกเวลา ๑๕.๐๐ น. ดูเป็นนาทีเร่งด่วนพอสมควร ช่วงเช้าผมไปทำหน้าที่ที่ศูนย์แก่งคอย จังหวัดสระบุรี และรีบกลับมาอาบน้ำ (ไม่อาบท่า เพราะน้ำก๊อก) จากนั้นจึงเดินทางไปงานบำเพ็ญกุศลศพพ่อของเพื่อน ถึงงานศพเวลา ๑ ทุ่ม ฟังพระสวดอภิธรรมและพระภิกษุรูปหนึ่งบรรยายธรรมให้ฟัง ในงานนี้ผมได้สมาทานศีล ๕ ข้อ (ไม่เว้นข้อใดข้อหนึ่ง) และได้ฟังธรรมให้เกิดความเข้าใจบางสิ่งบางอย่าง พระแสดงธรรมเป็นเวลา ๒๐ นาที หลังจากนั้นเราจึงรับประทานอาหารร่วมกัน ผมชอบข้าวต้ม ก็เลยจัดการไป ๓ ชาม (ชามเล็กของเล็ก) จากนั้นจึงเดินทางกลับถึงที่พัก ตีหนึ่งกว่าๆ ต่างแยกย้ายกันไป ผู้ร่วมไปครั้งนี้มีทั้งหมด ๑๒ ท่านรวมทั้งผู้ขับรถ รถที่ใช้เป็นรถตู้ของคณะมนุษย์ฯ
วันรุ่งขึ้น (วันนี้ยอมรับว่าตื่นสาย) หลังจากอาบน้ำจึงรีบไปห้องทำงานจัดข้อสอบเพื่อเตรียมสอบ จากนั้นจึงไปทานข้าว ๐๘.๓๐ น. พอดีจึงเข้าห้องสอบ จัดการให้นักศึกษาสอบเก็บคะแนน ๐๙.๕๕ น. นักศึกษาสอบเสร็จ จึงรีบกลับห้องพักนำกระดาษคำตอบและข้อสอบเก็บไว้ จากนั้นประมาณ ๑๐.๑๕ น. จึงขึ้นรถตู้คันเดิมมุ่งหน้าสู่งานฌาปนกิจศพ ด้วยเพื่อนสมาชิกอีก ๔ ท่านรวมทั้งผู้คำรถ เราไปถึงวัดเวลาบ่ายสองโมงกว่าๆ ทราบว่าพระสวดเสร็จแล้ว แต่ก็ยังโชคดีที่ไปได้ทันฟังพระเทศน์หน้าศพตั้งแต่เริ่มแรก พระเทศน์หลายเรื่องรวมกัน มีเรื่องหนึ่งที่ตั้งใจจะนำมาบันทึกไว้ เป็นปัญหาให้คิด
"สี่คนหาม สามคนแห่ หนึ่งคนนั่งแคร่ สองคนพาไป" ท่านเฉลยว่า สี่คนหามคือ ธาตุทั้ง ๔ ได้แก่ ธาตุดิน น้ำ ลม ไฟ รวมกันเป็นร่างกาย สามคนแห่หมายถึง ความไม่เที่ยง (อนิจจตา) ความเป็นทุกข์ (ทุกขตา) และความไม่มีตัวตน (อนัตตตา) หนึ่งคนนั่งแคร่หมายถึง จิตวิญญาณ สองคนพาไปได้แก่ ดีและชั่ว ที่จะชักนำให้ไปที่ใดที่หนึ่ง
ผู้ตายคือ คุณพ่ออิ่ม เป็นบุคคลที่น่าเคารพกราบไหว้ เป็นคนใจบุญสุญทาน จากประวัติที่เพื่อนให้ผมอ่านในงานให้ผมปลื้มใจเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งก็อยากบันทึกความดีนั้นไว้ ๑) ครั้งหนึ่งเคยทอดกฐินสร้างอุโบสถหลังใหม่ของวัดโชติการาม จำนวนเงิน ๑ แสนบาท (อย่าเปรียบเทียบกับคนที่มีเงิน สิบล้าน ร้อยล้านฯลฯ หากเปรียบเทียบจำนวนเงินมันต่างกันมาก แต่ถ้าเปรียบเทียบคุณที่ซ่อนไว้ในตัวเงิน เงินจำนวน ๑ แสนบาทนี้ มีคุณสูงกว่าถึงกับนับไม่ได้) ๒) ร่วมเตรียมงานผูกพัทธสีมาฝังลูกนิมิต (ในเรื่องนี้คนนอกย่อมไม่เข้าใจศรัทธาของผู้มีศรัทธา) ๓) รักษาศีลอุโบสถทุกวันพระ (หนึ่งในตัววัดความเป็นคนดีมีศีลธรรม)
แม้นผมจะไม่อ้างคุณพระศรีรัตนตรัย จิตวิญญาณของท่านก็ต้องไปสู่สุคติภพแน่นอน (ผมเชื่ออย่างนั้น) เพราะศีลที่ท่านหมั่นรักษาไว้
บุญประสิทธิ์ ประสาน พิมานภพ
สุขประสบ สิ่งประเสริฐ บุญเกิดผล
อิ่มบุญเปรม เปรมปรีดา พาใจดล
ประกอบผล คุณพ่ออิ่ม สุคติภูมิฯ
ไม่มีความเห็น