ผู้หญิงธรรมดาๆ คนหนึ่งได้รับตำแหน่ง แม่ มาด้วยความสมัครใจ แม่ในแบบที่เธอเป็นและผู้คนมักเห็น คือ แม่ผู้มีแต่ให้
.
.
ให้เวลาทั้งชีวิตที่มีของตัวเองให้ลูกและสามี ให้รอยยิ้ม แม้ภายในอยากร้องไห้ แต่ก็ยังฝืนยิ้มได้ แม่ที่ให้การดูแลความสุขแก่ทุกคน ให้เกียรติผู้อื่นเสมอ ให้กำลังได้กับทุกๆ คน ให้แม้แต่ใครมาขอยืมเงิน แม้มีน้อย โอกาสได้คืนน้อย ก็ยังจะให้ ถ้าคนๆ นั้นเป็นคนพิเศษในใจ แม่คนนี้มีแต่ให้
.
.
คุณสมบัติพิเศษ ของแม่คนนี้ คือ การสังเกต ความสามารถในการรับรู้ความรู้สึก ความต้องการของอีกฝ่ายที่เป็นคนพิเศษของเธอ หรือคนที่เธอต้องการจะให้
.
.
และนี่ก็เป็นดาบ 2 คม หลายที การสังเกต ใส่ใจ รับรู้ความรู้สึก ความต้องการของคนอื่นก็ทำร้ายใจเธอได้บ่อยๆ การให้ ให้ ให้ หยุดให้ก็ไม่ได้
.
.
หลายทีการให้ของเธอ สิ่งที่ได้รับกลับมาคือ ความรำคาญใจ หงุดหงิดใจของอีกฝ่าย ความน้อยใจที่แอบสะสมไว้เรื่อยๆ
.
.
มาลงรายละเอียดเรื่องราวชีวิตกันบางส่วน
.
.
แม่ปลุกลูกสาวมากินอาหารเช้าในวันหยุด
.
ลูกสาววัย 14 ปี
“แม่ หนูขอทีเหอะ ช่วยเลิกมายุ่งวุ่นวายกับชีวิตหนูได้ไหม แม่จะมาอะไรกับหนูหนักหนา หนูจะกินข้าว ไม่กินข้าว นอนดึก นอนเช้า มันเกี่ยวอะไรกับแม่ด้วย” (พูดด้วยเสียงหงุดหงิดรำคาญ)
.
แม่ “แม่เป็นห่วงนี่ลูก เนี่ยดูซิ แม่ตั้งใจตื่นตั้งแต่ตี 4 เลยนะ มาทำอาหารที่ลูกชอบทั้งนั้นเลย ตื่นมากินข้าวเช้ากับแม่ก่อนดีมั้ย แล้วค่อยไปนอนต่อก็ได้นี่ลูก ( อ่อนโยนและอ่อนหวาน)
.
ลูก “แม่ ที่หนูพูดเนี่ย แม่ฟังหนูบ้างไหมอะ หนูยังไม่หิว หนูง่วงและอยากนอน” (เริ่มเสียงดังขึ้นและหงุดหงิดมากขึ้น)
.
แม่ “ก็แค่มากินข้าวกับแม่ก่อน แม่อยากให้ลูกได้กินอาหารเช้าด้วยกัน ของโปรดลูกทั้งนั้นเลยนะ”
.
ลูก “โอ๊ย แม่ หนูยังไม่หิว หนูง่วง หนูยังไม่กิน ” (คุมโปง)
.
แม่ “จ๊ะ ยังไม่กิน ก็ไม่กิน” เดินน้ำตารินออกจากห้องนอนลูก
======
วันครบรอบวันแต่งงาน ณ โต๊ะอาหารเช้า ภรรยาตั้งใจทำอาหารสุดพิเศษให้สามี เป็นอาหารที่สามีชอบทุกอย่างและหลายอย่าง
ภรรยา/แม่ “คุณคะ วันนี้ประชุมเสร็จกี่โมง”
สามี “ก็ประมาณ 19.00 น.นะ”
ภรรยา “แล้ววันนี้ มีอะไรที่ต้องทำเป็นพิเศษอีกไหมคะ”
สามี “ก็ไม่มีนะ... นี่คุณจะทำอาหารอะไรเยอะแยะ ผมบอกแล้วใช่ไหม ว่าช่วงนี้เศรษฐกิจไม่ค่อยดีให้ช่วยกันประหยัดค่าใช้จ่าย”
ภรรยา ยังยิ้มเจื่อนๆ นอกจากสามีจะจำวันสำคัญพิเศษไม่ได้ ยังถูกตำหนิอีก ยิ้มและเศร้าเงียบๆ ในใจ
======
.
ยอดภูเขาน้ำแข็ง คือ แม่/ภรรยา/เพื่อน ที่แสนอ่อนหวาน อ่อนโยน ยิ้มและมักแสดงความเป็นผู้ให้เสมอๆ
.
.
ชวนดำลงไปดูใต้ภูเขาน้ำแข็งกันค่ะ โดยใช้การสนทนากับเพื่อนสนิท ที่รู้จักกันมาตั้งแต่สมัยเด็กๆ จนมีครอบครัว
.
เพื่อน “โทร.หาเรา มีอะไรหรือเปล่า เสียงฟังเศร้าๆ นะ”
.
แม่ผู้ให้ “ก็ไม่มีอะไรมาก คิดถึงเลยอยากโทรหาน่ะ”
.
เพื่อน “คิดถึงน่ะ ก็ดีใจนะ แต่ฟังเสียงแกแล้วฉันไม่ค่อยสบายใจเลย เป็นห่วงนะ มีอะไรอยากเล่าระบายไหม?”
.
แม่ผู้ให้ “ก็ ไม่มีอะไรมากหรอก ก็เรื่องลูก............................................................................................................”
.
เพื่อน “แล้วแกรู้สึกโกรธมั้ย หรือรู้สึกอะไร?”
.
แม่ผู้ให้ “ก็โกรธนะ ฉันก็ยิ้มแหละไม่ได้แสดงความโกรธ แต่ไม่มากเท่าน้อยใจฉันตั้งใจทำอาหารเช้าให้ลูกกิน ของโปรดลูกทั้งนั้น กินสักคำก็ยังดี แต่นี่ไม่กินเลย แล้วก็ อย่างที่เล่าแหละ”
.
เพื่อน “รู้สึกน้อยใจด้วย แกต้องการให้ลูกกินอาหารเช้า เพราะเป็นห่วงสุขภาพลูกใช่มั้ย?
.
แม่ผู้ให้ “ใช่"
.
เพื่อน “ตอนนี้ลูกแก อายุ 14 เนาะ แกคิดว่า ถ้าลูกไม่กินอาหารเช้ามื้อนี้ ลูกจะเสียสุขภาพเลยมั้ย?”
.
แม่ผู้ให้ “ก็ยังแหละ แต่เป็นห่วง”
.
เพื่อน “เออ แกเป็นห่วง แล้วทำแบบนี้ช่วยให้ลูกเห็นความสำคัญของการกินอาหารเช้า หรือช่วยให้ลูกรักสุขภาพมากขึ้นมั้ย และเรื่องนี้ส่งผลอย่างไรกับแกและลูก"
.
แม่ผู้ให้ “เออก็จริง ลูกก็ไม่ได้จะเห็นความสำคัญ หรือลุกมากิน ลูกหงุดหงิดรำคาญฉัน ฉันเป็นแม่ที่น่ารำคาญ” เสียงสั่นและร้องไห้โฮ
.
เพื่อน ฟังเพื่อนร้องไห้สักพักให้ระบายความรู้สึกออก เห็นใจ แต่อยู่ด้วยความมั่นคงภายใจ
“แกคงรู้สึกแย่มากๆ ที่ลูกพูดและแสดงอาการแบบนี้ ถ้าเป็นฉันๆ ก็คงสะเทือนใจเหมือนกัน อะไรที่ทำให้แกมองตัวเองว่าเป็นแม่ที่น่ารำคาญ?” (ถามเมื่อเห็นว่าเพื่อนอารมณ์พอสงบแล้ว)
.
แม่ผู้ให้ “ลูกมักบอกฉันบ่อยๆ สามีเองก็มักพูดกับฉันแบบนี้”
.
เพื่อน “การที่ลูกและสามีมักพูดแบบนี้ ทำให้แกเห็นตัวเองว่าน่ารำคาญไปด้วย หรือเพราะแกเองก็เห็นตัวเองแบบนี้เหมือนกัน”
.
แม่ผู้ให้ “ฉันก็เห็นตัวเองแบบนี้ด้วย ฉันยุ่งกับพวกเขาทุกเรื่อง ฉันเองก็อยากหยุดดูแล หยุดใส่ใจพวกเขา แต่ก็ตัดใจทำไม่ได้สักที จริงๆ ฉันเองก็อยากมีเวลาให้ตัวเองบ้าง”
.
เพื่อน “แล้วอะไร หรือแกมีความคิดว่าการให้ การดูแล ใส่ใจ มันมีความหมายอย่างไรในใจแก”
.
แม่ผู้ให้ “ฉันเชื่อว่า ถ้าเราอยากได้อะไร เราก็ต้องให้เขาก่อน การให้คือความรัก”
.
เพื่อน “อ้อ แกเชื่อว่า...............................(ทวน) ลึกๆ ที่แกอยากได้จากลูกและสามีจริงๆ คือ ความรักหรือเปล่า”
.
แม่ผู้ให้ “อืม....ใช่ ฉันรู้สึกว่าพวกเขาไม่ใส่ใจ ไม่ค่อยรักฉัน อย่างที่ฉันใส่ใจ รักพวกเขา”
.
เพื่อน “แกต้องการให้สามีและลูกรัก ใส่ใจ แก แบบที่แกรักและใส่ใจดูแลพวกเขา การคิดว่าการที่สามีไม่ทำแบบที่แกทำ แปลว่า พวกเขาไม่รัก ไม่ใส่ใจแกงี้มั้ย?”
.
แม่ผู้ให้ “ก็ใช่ไง คนรักกัน ก็ต้องใส่ใจ รู้ความรู้สึก ความต้องการของอีกฝ่าย ทำอะไรให้โดยที่ไม่ต้องร้องขอ”
.
เพื่อน “ฉันเข้าใจมุมนี้ของแก รู้จักแกมานาน แกก็ใส่ใจ ดูแลฉันมากแบบที่ฉันไม่เคยต้องเอ่ยปากร้องขอเลย มันเป็นความรัก การแสดงออกในแบบของแก ซึ่งฉันประทับใจและรู้สึกขอบคุณ แต่แกรู้มั้ย ว่ามีหลายทีเลยที่ฉันก็อึดอัด ก็ไม่ถึงขนาดรำคาญนะ อยากแบ่งปันมุมมองของฉัน แกอยากฟังมั้ย เผื่อช่วยอะไรได้”
.
แม่ผู้ให้ “อยากฟัง มันอึดอัดเพราะอะไร?”
.
เพื่อน “คือบางทีมันก็ใส่ใจกัน จนแทบไม่มีระยะหายใจอะแก ความใส่ใจ ห่วงใยของแก มันรัดแน่นไป เช่นตอนสมัยเรียนที่..........................................(เล่าไป) อีกอย่างฉันเองก็อยากให้แกใส่ใจความรู้สึก ความต้องการตัวเองบ้าง ให้ตัวเองบ้างอะ แกอยากได้ความรัก ให้คนอื่นเยอะมาก บางทีก็ทุ่มเยอะไปไหม แกกลับมาให้ความใส่ใจ ดูแลให้ความรักตัวเอง แกน่าจะมีพลังที่ดีไปดูแลคนที่แกรักได้ดีขึ้นนะ อันนี้ความคิดฉัน”
.
แม่ผู้ให้ (ร้องไห้) “ขอบคุณแก ฉันใส่ใจ หวัง รอคอยจะได้ความรักตอบแทนจากการให้จริงๆ ฉันเห็นแล้วว่าที่ฉันหยุดให้ไม่ได้ เพราะฉันกลัว ว่าถ้าฉันไม่ได้ หยุดให้ ฉันจะไม่ได้ความรัก ฉันจะกลับมารักและให้ความรักตัวเอง ดูแลคนอื่นให้มีระยะห่างที่เหมาะสมขึ้น ฉันก็ไม่รู้จะทำได้ดีแค่ไหน แต่ฉันจะตั้งใจนะแก”
.
เพื่อน “รักแกนะ ดีใจกับแกด้วย ที่รู้สึกตัว ได้เห็นตัวเอง เมตตาตัวเองนะแก ความตั้งใจ ก็ไม่ได้แปลว่าจะทำได้ทุกครั้ง แต่แกตั้งใจ เผลอใจไถล ก็ให้อภัยตัวเองและกลับมาตั้งใจดูแลตัวเองใหม่นะ ค่อยๆ เป็นค่อยๆไปแหละ การเปลี่ยนแปลงตัวเองไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เป็นเรื่องที่ถ้าเราตั้งใจ มันก็ทำได้เองแหละ”
.
แม่ผู้ให้ “ขอบคุณอีกครั้งแก รักแกมากๆ เลย”
จบค่ะ แม่ผู้ให้
ขอบคุณ ภาพประกอบจากแม่อ้อและดอกมะลิกระถางน้อยๆที่ทยอยออกดอกให้ชื่นชมเรื่อยๆ ตามวาระ
ไม่มีความเห็น