…ปัจจัยขั้นพื้นฐานที่ได้รับ…จากการเสียภาษี
…เมืองแคลการี่ จัดว่าเป็นเมืองใหญ่ และมีค่าครองชีพสูง…จ่ายภาษีแพง…ผู้คนทำงานวันละหลายชั่วโมง โดยเฉพาะผู้ที่ย้ายถิ่นพำนักมาจากประเทศอื่น ส่วนใหญ่ต้องทำงานทั้งช่วงกลางงวัน และกลางคืน เพื่อให้เพียงพอต่อค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือน …โดยภาพรวมการบริหารจัดการเมือง เน้นให้ความสำคัญต่อปัจจัยขั้นพื้นฐานอย่างเป็นรูปธรรม เริ่มต้นจากอาหารการกิน น้ำสะอาด และของใช้ในชีวิตประจำวัน มีคุณภาพ และปริมาณมากเพียงพอ ต่อความต้องการของทุกเพศทุกวัย และทุกเชื้อชาติ …ต่อมาคือที่อยู่อาศัย บ้านเป็นสิ่งสำคัญ…การปลูกสร้างคำนึงถึงความปลอดภัย มีสาธารณูปโภคครบ และที่สำคัญต้องมี หรือใกล้สวนสาธารณะ สนามเด็กเล่น สนามออกกำลังกายของวัยรุ่น และวัยผู้ใหญ่ …ภายในสวนสาธารณะผู้คนสามารถชื่นชมธรรมชาติ และใช้ประโยชน์ร่วมกันกับสัตว์ป่าในท้องถิ่น …มีกิจกรรมออกกำลังกาย และสันทนาการมากมายในแต่ละฤดูกาลอาทิเช่น ปิคนิค Camping พายเรือ ตกปลาว่ายน้ำ เดิน วิ่ง ขี่จักรยาน …ฯลฯ…ทั้งหมดสามารถเลือกเข้าใช้ได้ตามรูปแบบการบริการของสวนสาธารณะนั้นๆ …อันดับสามคือเสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่ม มีจำหน่ายมากเพียงพอตามฤดูกาลและตามกิจกรรมในแต่ละฤดูกาล ไม่ได้ให้ความสำคัญในเรื่องแบนด์เนม ของสินค้า แต่สินค้าต้องมีคุณภาพเหมาะสมกับเพศ อายุ และวัย สุดท้ายคือยารักษาโรค เป็นระบบสุขภาพทั่วหน้า ทุกคนมีหมอประจำเพื่อตรวจเช็คสุขภาพ ประจำปี และสามารถเข้ารักษาในยามฉุนเฉินโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายในการตรวจวินิจฉัยโรค เมื่อต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล ไม่มีค่าใช้จ่ายใดทั้งสิ้น แต่ต้องเสียค่ายา และค่าหัตถการพิเศษบางอย่างเอง…ที่นี่เท่าที่ทราบไม่มีคลีนิค และโรงพยาบาลเอกชน…นอกจากมีคลีนิคทันตกรรม…ที่คนส่วนใหญ่ก็จะทำประกันสามารถเบิกค่ารักษาได้…แค่นี้ก็ครอบคลุมในการดำเนินชีวิตขั้นพื้นฐานให้มีคุณภาพของชาวเมืองแคลการี่…ทั้งนี้ทั้งนั้น การบริหารจัดการต้องเป็นไปอย่างโปร่งใส มีทั้งคุณภาพ ปริมาณ ความมั่นคง ความปลอดภัย และความพึงพอใจ คำนึงถึงผู้รับบริการเป็นที่สำคัญ …เพราะเมืองนี้เก็บภาษีแพงงงง…มากกกก…
ถนนในเมือง และชุมชน มีทางให้คนเดินข้าม ทางจักรยาน และสกู๊ตเตอร์ ที่กำลังเป็นที่นิยม
Outdoor Fitness สำหรับวัยรุ่น และผู้ใหญ่ ตามสวนสาธารณะ
ความเห็น (1)
บรรยากาศดูดีนะคะ สถานการณ์โควิดเป็นยังไงบ้างคะ