๑,๒๑๘ คนบ้า..ปลูกต้นไม้


"บุญคุณผู้บริหาร ครูและนักการภารโรงรุ่นก่อนๆ ที่วางแผนบริหารจัดการพื้นที่โรงเรียนได้อย่างลงตัว และมีวิสัยทัศน์ด้านการปลูกต้นไม้อย่างดีเยี่ยม"

          ผมเป็นเช่นนั้นจริงๆ เป็นมาเมื่อไรไม่รู้ อาการโดยรวมคงเริ่มตั้งแต่มาอยู่ในโรงเรียนขนาดเล็กเมื่อปี ๒๕๔๙ ตอนนั้น..โรงเรียนเล็กจริงๆ มีนักเรียนเพียง ๔๘ คน

      แต่สภาพแวดล้อมไม่เล็กเลย ต้นไม้เยอะมากๆ อาจเป็นเพราะมีอาคารเพียงหลังเดียว ในพื้นที่กว่า ๒๕ ไร่ มองไปทางไหนจึงเห็นแต่ต้นไม้...


          ต้นไม้เป็นส่วนหนึ่งให้ผมเลือกที่จะย้ายมาทำงานที่นี่ ก็คงเหมือนคนส่วนใหญ่นั่นแหละ ที่ไขว่คว้าหาอากาศบริสุทธิ์ในการดำรงชีวิต แต่ผมมีโอกาสมากหน่อย ที่สามารถเลือกชีวิตการงานในท่ามกลางต้นไม้ตลอดทั้งวัน

          วันที่มาดูโรงเรียนครั้งแรก..คิดว่าโรงเรียนเป็นสวนป่า มีดงไม้ใหญ่ต้นไม้ที่รู้จักชื่อ ก็มีประดู่ มะค่า พิกุล ขี้เหล็ก และต้นแจง ขนาดลำต้นก็รู้ได้ทันทีว่าต้องปลูกมาก่อนปี ๒๕๔๐ อย่างแน่นอน

          รู้สึกขอบคุณและเป็นหนี้บุญคุณผู้บริหาร ครูและนักการภารโรงรุ่นก่อนๆ ที่วางแผนบริหารจัดการพื้นที่โรงเรียนได้อย่างลงตัว และมีวิสัยทัศน์ด้านการปลูกต้นไม้อย่างดีเยี่ยม

          จึงทำให้ผมรู้สึกรักและบ้าปลูกต้นไม้เพิ่มเติม ตรงไหนยืนต้นตาย ผมลงมือปลูกซ่อมแซม ตรงไหนเป็นไม้ยูคา โดยเฉพาะบริเวณเสาธง ผมตัดทิ้งปรับเปลี่ยนเป็นต้นสะเดา ให้ร่มเงามาถึงทุกวันนี้

          ต้นไม้ที่ผมชอบและปลูกมากเป็นพิเศษ แบบว่าล้อมโคนต้นยกลำต้นจากสวนหลังบ้านมาปลูกกันเลย ก็มีปีบและหูกระจง ปลูกตั้งแต่ลำต้นเท่าข้อมือ แต่ตอนนี้ใหญ่กว่าขาผมแล้ว

          ส่วนต้นฮอคกานี..ปลูกตั้งแต่ต้นเล็กๆ ตอนนี้สูงใหญ่โตทันกันหมด เติบโตแข่งกับต้นพิกุล ที่ดูจะมั่นคงและยั่งยืนคู่กับโรงเรียนมานานเท่านาน

          ถึงแม้ว่า..ต้นไม้จะหลากหลาย แต่คนบ้าปลูกต้นไม้อย่างผม ก็ยังมองเห็นที่ว่างๆพอที่จะปลูกต้นไม้ได้อีก วางแผนไว้ในใจหลายจุด โดยเฉพาะริมสระน้ำของโรงเรียน

          ส่วนที่ต้องปลูกเร่งด่วนก็ตรงริมถนนหน้าโรงเรียน ระยะทาง ๓๐๐ เมตร เมื่อฤดูฝนที่ผ่านมา ผมกับผู้ปกครองช่วยกันปลูกต้นเหลืองปริดียาธรหลายต้น..มียืนต้นตายเพราะวัวเหยียบและรถไถเฉี่ยวชนก็หลายต้นเหมือนกัน

          ผมตั้งใจจะปลูกซ่อมสัก ๗ ต้น วันนี้เริ่มไปแล้ว ๒ ต้น ส่วนต้นที่รอดดูสมบูรณ์ สูงใหญ่ขึ้นตามกาลเวลา ผ่านปากเหยี่ยวปากกามาได้อย่างน่าอัศจรรย์

          อนาคต...ที่ไม่รู้ว่าเมื่อไร...ที่แน่ๆผมคงเกษียณแล้ว หากต้นไม้หน้าโรงเรียนอยู่รอดปลอดภัย อาจจะได้เห็นอุโมงค์ต้นไม้ หรือถนนแสนสวยที่ดูสดใสที่สุดของเลาขวัญก็เป็นได้

          หลายคนอาจคิดว่า..โรงเรียนเป็นสถานที่ราชการ ไม่ต้องปลูกเยอะก็ได้ เหมือนที่เห็นกันทั่วไป แต่ผมบ้าปลูกต้นไม้ ต้องการให้ต้นไม้เป็นสื่อการเรียนรู้ สอนใจเด็กให้ตระหนักและรักต้นไม้

          หลายคนอาจคิดว่า ที่บ้านก็มีทำไมไม่ปลูก บ้านผมอยู่ในสวน ไม้ยืนต้นและไม้ผลเยอะแล้ว แต่ความที่บ้าปลูกต้นไม้ ก็เลยซื้อที่ดินเพิ่มเติม ทำโคกหนองนาโมเดล เพื่อปลูกต้นไม้ไปเรื่อยๆก่อนจะเกษียณ...หลังเกษียณจะได้มีเวลาดูแล..และเฝ้ามองการเจริญเติบโต

          ไม่ชอบเลย..ถ้ามีคนถามว่าปลูกแล้วจะตัดได้เมื่อไหร่?...ใช้เวลากี่ปีต้นไม้ถึงจะโต..? จริงๆแล้ว ปลูกวันไหน มันก็โตวันนั้นแหละ...

          ผมมีเวลาอีก ๒ ปีที่จะบ้าปลูกต้นไม้อย่างเต็มพื้นที่..ทั้งโรงเรียนและโคกหนองนา ผมอยากเห็นสวนป่าในฝัน โดยจะลงมือทำให้มันเป็นจริง เพื่อจะดำรงไว้เป็นมรดกตกทอดที่มีคุณค่าจากรุ่นสู่รุ่น สืบทอดต่อลูกหลาน เป็นตำนานการสร้างมรดกทิ้งไว้ให้แผ่นดิน ให้ชุมชนท้องถิ่น สงบร่มเย็น

ชยันต์ เพชรศรีจันทร์

๓๐ เมษายน ๒๕๖๔


หมายเลขบันทึก: 690314เขียนเมื่อ 30 เมษายน 2021 20:59 น. ()แก้ไขเมื่อ 30 เมษายน 2021 20:59 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

สิ่งดีที่ทำถูก ทำมาก ๆ คือ “การทุ่มเท” เพราะทำเพื่อให้ เพื่อเสียสละ เพื่อละ เพื่อวาง เป็นการกระทำอันเกิดจาก “สัมมาทิฏฐิ” ความเห็นถูกต้อง ความเข้าใจถูกต้อง การกระทำเหล่านั้นจึงถูกต้อง…ขออนุโมทนากับการกระทำที่ดี ทำด้วยใจที่ให้ ที่เสียสละ…

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท