ฤาษีจำกรง

.

ฤาษีจำกรง ๘ เดือน

มาจำหลักอยู่รพ.จิตเวช (รพ.บ้า) อยูได้จะเกือบ ๘ เดือนแล้ว ได้เรียนรู้ว่าการที่คนติดยา (เช่นยาบ้า) แล้วบ้าคลั่งนั้น หาใช่ว่าเพราะเสพยา แต่เป็นเพราะว่าหายาเสพไม่ได้ ..ดังนั้นวิธีแก้บ้าแบบพอเอาตัวรอดไปพลางก่อน ก็น่าจะเป็นการโยนยาให้เขาเสพ..จากนั้นมาระยะสองคือให้เสพน้อยลงเรื่อยๆ เช่น เศษหนึ่งส่วน๒ เศษหนึ่งส่วน ๔ ใช้เวลารักษาประมาณ  ๑ เดือน

.

ส่วนเสพเหล้าก็เช่นกันถ้าเลิกแบบหักดิบเฉียบพลัน ก็มักจะมีอาการคลั่งลงแดง ก็คงต้องใช้วิธี”ทีละครึ่ง” จนกว่าจะหาย ก็คงใช้เวลาประมาณ ๑ เดือนเช่นกัน ส่วนเรานั้นอยู่มา “๘ เดือนแล้ว” ไม่มีอาการอยาก หรือลงแดงอะไรเลย แต่ก็ไม่ได้ออกเสียที..สุดแล้วแต่หมอและญาติจะตกลงกัน  คนไข้มีสิทธิเท่ากับ ๐ นี่มันเผด็จการชัดๆ เผลอๆอาจผิดกฎหมายข้อใดข้อหนึ่งเสียด้วย เพราะเป็นการจำกรงโดยไม่มีคำสั่งศาล

.

ในช่วง ๘ เดือนนี้เราไม่มีอาการคลั่ง เพ้อ ลงแดงอะไรเลยนะ มีแต่หงุดหงิดเล็กน้อยที่มาคิดว่าชาติก่อนเราทำกรรมอะไรไว้หนอ ชาตินี้จึงต้องมารับกรรมเช่นนี้ แต่ก็ระงับได้ด้วยการทำสมาธิเท่าที่ทำได้ในสภาพแวดล้อมของการถูกกักบริเวณด้วยห้องลูกกรงเหล็ก

.

อานิสงส์อันประเสิรฐที่ได้มาในระหว่างถูกจำขังก็คือว่า ได้ข้อตัดสินใจว่าจะต้องประกาศศาสนาใหม่ที่เป็นการ “แตกหน่อ” ออกไปจากพุทธศาสนา โดยเราจะขนานามว่า ธรรมศาสนา ที่ยึดถือพระธรรมเป็นสรณะแห่งชีวิต แทนที่จะยึดพระพุทธ-ธรรม-สงฆ์ ดังเช่นถือปฏิบัติกันมานมนาน   

.

เราได้ยกร่างต้นฉบับหนังสือชื่อ ธรรมศาสน์ ไว้แล้ว ขอเวลาอีกสัก ๑ ปีเราจะได้ทำการเปิดตัวและประกาศศาสนาออกไปในสภาพของการเปิดตัวหนังสือ ซึ่งคงต้องการเวลาประมาณ ๑ ปีเพื่อขัดเกลาให้เนื้อความทั้งเล่ม ลงกันได้ ไม่เกิดการขยักหน้าเขยิบหลัง จนทำให้ผู้อ่านงงเสียก่อนที่จะได้สาระสำคัญ

-----คนถางธรรม..๒๑มีค. ๖๔

ปล. ศาสนาใหม่นี้เรามิใช่ศาสดา แต่เป็นธรรมทูตที่พระธรรมได้แต่งตั้งให้เป็นผู้นำในการก่อตั้งพันธะสัญญาใหม่ ระหว่างคนและพระธรรม