มองโลกแง่ดี อายุยืน


กลุ่มคนที่มองโลกในแง่ดีมากที่สุดมีความเสี่ยงตายลดลงถึง 42% เมื่อเทียบกับกลุ่มคนที่มองโลกในแง่ร้ายมากที่สุด

เราๆ ท่านๆ คงจะมองโลกในแง่ดีกันบ้างไม่มากก็น้อย วันนี้มีข่าวดีสำหรับท่านผู้อ่านที่มองโลกในแง่ดีครับ...

อาจารย์ดอกเตอร์บีเวอร์ลี เอช. บรัมเมทท์ แห่งศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยดุค เมืองดันแฮม รัฐนอร์ทแคโรไลนา สหรัฐฯ ทำการศึกษาพบว่า

กลุ่มคนที่มองโลกในแง่ดีมากที่สุดมีความเสี่ยงตายลดลงถึง 42% เมื่อเทียบกับกลุ่มคนที่มองโลกในแง่ร้ายมากที่สุด

อาจารย์บรัมเมทท์ทำการศึกษานิสิตนักศึกษามหาวิทยาลัยนอร์ธ แคโรไลนาที่เรียนในช่วงกลางทศวรรษ 1960 (ประมาณปี 2508) 6,958 คน โดยให้ทำแบบทดสอบบุคลิกภาพ และติดตามไปนานถึง 40 ปี

ผลการศึกษาพบว่า

  • กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่มองโลกแบบกลางๆ ไม่สุดโต่งไปทางดี หรือทางร้าย
  • กลุ่มตัวอย่าง 1,630 คนมองโลกในแง่ดีแบบสุดๆ
  • กลุ่มตัวอย่าง 923 คนมองโลกในแง่ร้ายแบบสุดๆ 

อาจารย์บรัมเมทท์พบว่า กลุ่มตัวอย่างที่มองโลกในแง่ดีมีอะไรดีๆ หลายอย่างเหนือกว่ากลุ่มที่มองโลกในแง่ร้าย...

ไม่ว่าจะเสี่ยงต่อโรคซึมเศร้าน้อยกว่า วิถีชีวิตดีกับสุขภาพมากกว่า เช่น ออกกำลังมากกว่า กินอาหารที่ดีกับสุขภาพมากกว่า ฯลฯ

กลุ่มตัวอย่างที่มองโลกในแง่ดีมีแนวโน้มจะมองวิกฤตการณ์ หรือปัญหาชีวิตต่างๆ ว่า เรื่องร้ายๆ เป็นเรื่องชั่วคราว (temporary) หรืออนิจจัง(ไม่เที่ยง)

คนที่คิดแบบนี้มักจะมองว่า เหตุการณ์ร้ายๆ ย่อมจะทุเลาเบาบางไปพร้อมกับกาลเวลา

ปรากฏการณ์แบบนี้คล้ายกับคำกล่าวของท่านเติ้ง เสี่ยว ผิงที่ว่า หลังพายุ... ท้องฟ้าจะแจ่มใส

กลุ่มตัวอย่างที่มองโลกในแง่ร้ายมีแนวโน้มจะมองวิกฤตการณ์ หรือปัญหาชีวิตต่างๆ ว่า เรื่องร้ายๆ เป็นเรื่องถาวร หรือมองไม่เห็นอนิจจลักษณะ(สภาวะแห่งความไม่เที่ยง)

นอกจากนั้นคนที่มองโลกในแง่ร้ายมีแนวโน้มจะยึดติด ฝังใจ และคิดเรื่องร้ายๆ ซ้ำซาก (take to heart) คล้ายกับการพายเรือวนในอ่าง ไม่คิดหาทางออก

เมื่อคิดแต่เรื่องร้ายๆ ก็จะพลอยติเตียนตัวเอง และมองว่า เหตุการณ์ร้ายๆ ย่อมจะยั่งยืน เที่ยงแท้ ถาวร นิรันดร หรืออะไรทำนองนั้น

ปรากฏการณ์นี้คล้ายกับคำกล่าวของอาจารย์แพทย์ท่านหนึ่ง(ขอสงวนนาม) ท่านเล่าว่า คนไข้มะเร็งเต้านมมักจะพบร่วมกับปัญหาสามีมีภรรยาน้อย

หลังพายุลูกหนึ่ง... จะมีพายุตามมาอีกหลายลูก ท่านเปรียบไว้อย่างนั้น คำเปรียบของท่านช่างต่างจากมุมมองของท่านเติ้ง เสี่ยว ผิงราวกับ คนละเรื่องเดียวกัน

การศึกษาก่อนหน้านี้พบว่า คนสูงอายุที่มองโลกในแง่ดีมีอัตราตายต่ำกว่าคนสูงอายุที่มองโลกในแง่ร้ายไปนานถึง 10 ปี

คนที่ก้าวร้าว และไม่เป็นมิตรกับคนรอบข้าง (hostile) มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคเส้นเลือดหัวใจอุดตันมากกว่าคนที่มีเมตตา และเป็นมิตรกับคนรอบข้าง

อาจารย์บรัมเมทท์แนะนำว่า การฝึกสมาธิ (meditation) มีส่วนช่วยหยุดการคิดร้ายแบบเป็นวังวน... คล้ายการพายเรือวนในอ่างได้

ผู้เขียนขอเรียนเสนอให้ฝึกแสดงความชื่นชมคนรอบข้างให้ได้อย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง เมื่อครบ 3 สัปดาห์... ให้เพิ่มเป็นอย่างน้อยวันละ 3 ครั้ง การฝึกชมแบบนี้มีส่วนช่วยให้เรามองโลกในแง่ดีมากขึ้นได้

การชมคนอื่นควรจะชมออกมาเป็นคำพูด หรือออกมาเป็นลายลักษณ์อักษร เพื่อแสดงความหนักแน่น หรือความมั่นคงในการมองโลกแง่ดี

ชมคนอื่นแล้วอย่าลืมชมตัวเองเงียบๆ...

วิธีง่ายๆ คือ ทำอะไรดีๆ ไม่ว่าจะเป็นดีเล็ก หรือดีใหญ่ทุกวัน เช่น ปลูกต้นไม้ต้านโลกร้อน ปิดสวิทช์ไฟที่คนอื่นลืมเปิดทิ้งไว้ ทำงานอาสาสมัคร บริจาคเลือด ฯลฯ

บันทึกความดีของเราไว้เงียบๆ และทบทวนก่อนนอนทุกวัน

เมื่อทำบ่อยๆ จะพบว่า คนเรามักจะทำอะไรดีๆ ได้มากกว่าที่คิดเสมอ

ถึงตรงนี้... ขอให้พวกเรามีสุขภาพดีไปนานๆ ครับ

    แหล่งที่มา:                                      

  • ขอขอบพระคุณ > Amy Norton> Optimists may have longer lives. http://today.reuters.com/news/articlenews.aspx?type=healthNews&storyid=2006-12-22T161204Z_01_FLE258291_RTRUKOC_0_US-OPTIMISTS.xml&src=nl_ushealth1400 > December 22, 2006. // Source: Mayo Clinic Proceedings Medical Journal, December 2006.
  • ข้อมูลและการอ้างอิงในบล็อก บ้านสุขภาพ มีไว้เพื่อส่งเสริมสุขภาพ และป้องกันโรค ไม่ใช่เพื่อการรักษาโรค
  • ท่านที่มีโรคประจำตัวควรปรึกษาหมอที่ดูแลท่านก่อนนำข้อมูลไปใช้
  • ขอขอบพระคุณ > อาจารย์เทวินทร์ อุปนันท์ IT โรงพยาบาลค่ายสุรศักดิ์มนตรี
  • ขอขอบพระคุณ > อาจารย์ ณรงค์ ม่วงตานี และอาจารย์เทพรัตน์ บุณยะประภูติ IT ศูนย์มะเร็งลำปาง
  • นพ.วัลลภ พรเรืองวงศ์ จัดทำ > 23 ธันวาคม 2549 > 4 กรกฎาคม 2550.
เขียนใน GotoKnow โดย 
 ใน บ้านสุขภาพ
หมายเลขบันทึก: 68959เขียนเมื่อ 23 ธันวาคม 2006 11:33 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 17:42 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)

 Snow Angel เรียนอาจารย์หมอวัลลภ

 "มองแต่ดี ดีที่มอง ลองที่ตน ฅนเจริญ"

 ขอบพระคุณครับ
     ขอบพระคุณทุกครั้งที่ได้อ่าน 
บันทึกของอาจารย์ให้ทั้งความรู้ ความคิดที่เป็นประโยชน์เสมอ  เป็นการ บันทึกด้วยใจ  (รักผู้อื่น) อย่างไม่ต้องสงสัย  ขออภัยที่ไม่ค่อยได้ทิ้งร่องรอยไว้  ส่วนหนึ่งเป็นเพราะ ขาดความรู้ที่จะต่อยอดหรือแลกเปลี่ยน เลยเป็น Taker ของอาจารย์  ที่รับโดยไม่ค่อยได้ให้อะไรตอบครับ

คงยังไม่มีอะไรมา share ค่ะอาจารย์ ตอนนี้กำลังฝึกเรื่อง สมาธิ อยู่ค่ะ :)

ขอขอบพระคุณท่านอาจารย์หมอ JJ และท่านผู้อ่านทุกท่าน...

  • ขอขอบพระคุณสำหรับคำขวัญ และข้อคิดที่ดีๆ จากท่านอาจารย์หมอ JJ...

ขอขอบพระคุณอาจารย์ Handy และท่านผู้อ่านทุกท่าน...

  • ปลาอาศัยน้ำฉันใด นักเขียนย่อมอาศัยนักอ่านฉันนั้น
  • การที่อาจารย์และท่านผู้อ่านแวะมาอ่าน มาเยี่ยมชมนับเป็นพระคุณ และเป็นนาบุญนี่... นับเป็นมิตรภาพดีๆ ในบล็อกของ Go2No ครับ

ขอขอบพระคุณอีกครั้งหนึ่ง และขออนุญาตส่งความปรารถนาดี... เนื่องในโอกาสปีใหม่

  • ขอท่านอาจารย์ และท่านผู้อ่านทุกท่านมีความสุข ความเจริญ มีสุขภาพดี และมีโอกาสทำดีไปนานๆ ครับ...

ขอขอบพระคุณอาจารย์จันทวรรณ และท่านผู้อ่านทุกท่าน...

  • ขอแสดงความยินดีที่อาจารย์มีโอกาสฝึกสมาธิ ซึ่งเป็นวิธีเพิ่มสมรรถนะสมอง และปรับสมดุลร่างกายได้ดีเยี่ยม
  • ยิ่งถ้าเป็นสมาธิในพระพุทธศาสนาแล้ว... ยิ่งได้บุญ ได้อานิสงส์ (กำไร) มหาศาลเลย

ขออนุญาตส่งความปรารถนาดี... เนื่องในโอกาสปีใหม่

  • ขอท่านอาจารย์ และท่านผู้อ่านทุกท่านมีความสุข ความเจริญ มีสุขภาพดี และมีโอกาสทำดีไปนานๆ ครับ...
ไม่อนุญาตให้แสดงความเห็น
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท