ก่อนนอนคืนนี้ อ่านงานเขียนของคุณอดุลย์ กาญจนวัฒน์ นักบริหารและนักคิดนักเขียน ที่ชาว ธกส.รู้จักกันดี ท่านเขียนหนังสือดีมากๆ แต่หนังสือของท่านไม่มีวางขายในท้องตลาด ผมได้อ่านจากเจ้าหน้าที่ของธกส.ที่เดินทางมาบริจาคสื่อการสอนที่โรงเรียน จึงรู้จักและคุ้นเคยกับท่านอดุลย์มาตลอดหลายปี...แต่ไม่เคยเห็นหน้ากัน
คุณอดุลย์บอกว่า "ชีวิตคนเราเสมือนดั่งต้นไม้ เมื่อเกิดมาเป็นเมล็ดพันธุ์ดีแล้ว หากพบเจอคน..ที่รักการปลูกฝัง ย่อมปลุกพลังให้เติบโตอย่างมั่นคง สามารถดำรงตนได้ไม่หวั่นไหว..”
ทำให้ผมนึกถึงเด็กนักเรียนที่โรงเรียน เขาเหล่านั้นใช่เลยกับคำว่า “เมล็ดพันธุ์” ทุกวันนี้ เราผู้ซึ่งเป็นครู กำลังสร้างพวกเขาให้เจริญเติบโตอย่างเข้มแข็ง..ใช่หรือไม่? ตอบ..ก็น่าจะใช่นะ
“หากมีใจรักการปลูกฝังสิ่งดีให้ผู้คน ทุกสิ่งดีๆที่ปลูกฝังไว้ในใจให้ผู้คน ย่อมช่วยคลิกพลิกชีวิตคนและสังคมได้ เราต่างทำได้ด้วยการเริ่มปลูกที่ใจตน” สำนวนของคุณอดุลย์ช่างโดนใจ
ครูทุกคน ย่อมมีใจนำพา ศรัทธานำทาง เพื่อสร้างสรรค์เยาวชนของชาติ ทุกฝ่ายจึงฝากความคาดหวังไว้กับครู ที่จะเชิดชูให้สังคมอยู่รอดปลอดภัย
คุณอดุลย์มีความคิดว่า “ไม่ต้องรอคำว่าพร้อม...ความพร้อมที่แท้หามีอยู่จริงไม่ การรอคือการสร้างเงื่อนไขปิดกั้นตน เราหายใจได้ทุกวันโดยไม่ต้องรอสิ่งใด แล้วจึงเริ่มต้นจังหวะการหายใจ”
หรือว่า..เพราะความไม่พร้อมนี่เอง ครูเราจึงแกร่ง ยอมเหนื่อยยากและอดทน พัฒนาและแก้ไขปัญหาอยู่ตลอดเวลา อย่างไม่รู้จบสิ้น...จนลืมแสวงหาความพร้อม ว่ามันแอบซ่อนอยู่ ณ จุดใด
“เหตุใดจึงต้องท้อเพราะคำคน ลมแรงด้วยลมปากคน..ไม่มีวันหยุดคนที่มั่นคง จงปลูกฝังชิปความดีด้วยพลังที่มีอยู่ในตัว Runสิ่งดีๆวันละนิดในทุกวัน ช่วยชุบสร้างคนสง่างามได้...คุณอดุลย์ทิ้งท้ายไว้ด้วยแง่คิด ที่เป็นอมตะชีวิตที่ต้องพบเจอ
นั่นสิ...ครูกับนักเรียนผู้เป็นเมล็ดพันธุ์ และครูผู้มีใจรักงาน แม้อยู่ในท่ามกลางคำว่าไม่พร้อม ยอมขมแล้วขมอีก ย่อมสะกดคำว่าท้อไม่เป็น อดทนและรอคอยที่จะส่งลูกศิษย์ให้ถึงฝั่ง
ชีวิตครู จึงเหมือนงานศิลป์ เป็นผู้สร้างด้วยการใช้พลังแห่งความดีที่มีอยู่ ครูเป็นผู้มีโอกาสทำความดีได้ทุกวัน..ครูจึงดูมุ่งมั่นและสง่างามจากแสงธรรมแห่งความดี เป็นบารมีที่ติดตัวครูตลอดไป..
ชยันต์ เพชรศรีจันทร์
๔ มีนาคม ๒๕๖๔
ไม่มีความเห็น