ซีรี่ส์ “แอร์ทุฆรุล” ฟื้นฟูความปรารถนาการเป็นวีรบุรุษในตัวของชาวมุสลิม (1)

หนังสือพิมพ์ “Middle East Eye” ของอังกฤษ ตีพิมพ์รายงานเกี่ยวกับสิ่งที่กล่าวว่าเป็นบทบาทของซีรีส์ตุรกีเรื่อง “Resurrection Ertugrul” ในเรื่องการรื้อฟื้นจินตนาการของอิสลามรายงานดังกล่าวได้กล่าวว่า ซีรี่ส์นี้ได้รับเสียงสะท้อนที่ยอดเยี่ยมเช่นเดียวกับภาพยนตร์เรื่อง “The Lion of the Desert” ซึ่งเกี่ยวข้องกับชีวประวัติของอุมัร มุคตาร์ สัญลักษณ์ลิเบีย ซึ่งออกฉายในปี 1981

ตามที่หนังสือพิมพ์ระบุ ก่อนที่การปรากฏของสหภาพโซเวียตในฐานะ “ตัวร้าย” ในภาพยนตร์ตะวันตกลดลง และ “ฮอลลีวูด” เริ่มหา “ตัวร้าย” คนอื่น ๆ รวมถึงชาวมุสลิม อันเป็นการหมิ่นชื่อเสียงพวกเขาอย่างชัดเจน และสิ่งนี้หนักข้อมากขึ้นหลังจากเหตุการณ์ 11 กันยายน 2544

หนังสือพิมพ์ “Middle East Eye” ของอังกฤษ กล่าวว่า เช่นเดียวกับ “The Lion of the Desert” ซีรี่ส์แอร์ตุฆรุลได้กระตุ้นความรู้สึกของชาวมุสลิมในตุรกีและต่างประเทศ และฟื้นฟูความปรารถนาของชาวมุสลิมในการมองตัวเองในฐานะเป็นวีรบุรุษ และเป็นฝ่ายถูกต้องหลังจากที่หายไปจากหน้าจอในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา

รายงาน Middle East Eye กล่าวว่า“สิงโตแห่งทะเลทราย” ซึ่งได้รับทุนสนับสนุนจากมูอัมมาร์กัดดาฟี เผด็จการลิเบีย และกำกับโดยมุสตาฟา อัลอัคคอด อันเป็นเล่าเรื่องราวของอุมาร์ มุคตาร์ นักปฏิวัติชาวลิเบียและกลุ่มซานูซีย์ในตำนานที่ต่อสู้กับการล่าอาณานิคมของอิตาลีในช่วงต้นศตวรรษที่ยี่สิบ และด้วยการเข้าฉายโรงภาพยนตร์ทั่วโลกในปี 1981 กลุ่มต่อต้านในปาเลสไตน์และแคชเมียร์ก็ประทับใจอย่างสูงในคำพูดของมุคตาร์ (รับบทโดยแอนโธนี ควินน์) มุคตาร์บอกกับชาวอิตาลีในภาพยนตร์เรื่องนี้ “เราต่อต้านพวกท่านมาแล้ว 20 ปี ด้วยความช่วยเหลือของอัลลอฮ์ เราจะต่อสู้กับพวกท่านจนกว่าพวกท่านจะหมดสิ้นไป”

อุมาร์ มุคตาร์ และกลุ่มนักสู้เร่ร่อนหลายร้อยคนที่ขี่ม้าติดอาวุธปืนไรเฟิลและสวมชุดโต๊บอาหรับเผชิญหน้ากับกองทัพอิตาลีสมัยใหม่ที่ติดอาวุธด้วยรถถังและปืนกล ซึ่งปฏิบัติต่อชาวแอฟริกาเหนือด้วยความโหดร้าย ทั้งการแยกครอบครัว เผาพืชผลและทุ่งนาและสร้างค่ายกักกัน ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายหมื่นคน

แก้ไขเพิ่มความเห็นต่อขื้น