AAR จากการเข้าร่วมห้อง Workshop 1 “ฝึกคุณอำนวยและวางแผนจัดการความรู้ในองค์กร” ในมหกรรมการจัดการความรู้แห่งชาติ ครั้งที่ 3


หน่วยงานที่นำ KM เข้าไปใช้แล้วประสบผลสำเร็จนั้น เพราะเขาเน้นให้คนในองค์กรเขา ทำ KM ได้ มิใช่ แค่ได้ทำ KM

     ดร.แสวง  รวยสูงเนิน  ได้กรุณาให้คำแนะนำดิฉัน โดยผ่านบันทึกของท่านว่า หากดิฉันอยากที่จะพัฒนาตนเองให้เร็วเพื่อให้เกิดเทคนิคที่ดีในการพัฒนาการเขียนเพื่อถ่ายทอดลงในบันทึก สิ่งหนึ่งที่จะต้องทำคือ ให้เขียนบ่อย ๆ มีอะไรที่เป็นประเด็นสะกิดใจ ให้เขียนทันที ถ้าปล่อยไว้ จะจืด และลืมไปเลย ที่สำคัญคือ ให้ทำทุกครั้งที่คิดออก โดยท่านได้แนะนำให้ใช้หลัก ททท (ทำทันที)  และจากการที่ได้มีโอกาสอ่านบันทึกของหลาย ๆ ท่าน ที่เขียนถึงสิ่งที่ได้รับจากการเข้าร่วมงานมหกรรมการจัดการความรู้แห่งชาติ ครั้งที่ 3 นี้ ยังไม่มีใครเอ่ยถึงห้อง Workshop 1  เลย  ดังนั้น ดิฉันถือว่ายังไม่สายเกินไปนะคะ  ที่จะนำสิ่งที่ตัวเองได้เรียนรู้จากการเข้าร่วมห้อง Workshop 1 ในหัวข้อเรื่อง “ฝึกคุณอำนวยและวางแผนจัดการความรู้ในองค์กร” มาร่วมถ่ายทอดให้ได้ฟัง

      ห้อง workshop 1 ดำเนินรายการในลักษณะของคอร์สทดลองปฏิบัติระยะสั้นให้กับผู้ที่สนใจหรือมีบทบาทเป็นคุณอำนวยขององค์กร  ได้เรียนรู้ทักษะ และเทคนิคต่าง ๆ ในการสร้างบรรยากาศการเรียนรู้ อำนวยกระบวนการเรียนรู้ให้ “คุณกิจ/ผู้ปฏิบัติ” เรียนรู้ทักษะการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ จดบันทึก และจัดทำคลังความรู้ พร้อมทั้งร่วมเรียนรู้ หลักการคิด ตัวอย่าง และแนวทางการวางแผนทำ KM ในหน่วยงาน ที่ต้องมองตั้งแต่เป้าหมายองค์กร (วิสัยทัศน์) พันธกิจ ลักษณะงาน และบทบาทงาน นำมาจัดทำเป็นแผนและกลยุทธ์ในการผลักดัน KM  เพื่อให้ได้ผลประโยชน์ที่สอดคล้องกับองค์กร
      โดยเนื้อหาหลัก ๆ ตลอด 2 วันในห้องนี้ ประกอบด้วย
• การให้ความรู้ในเรื่องหลักการการจัดการความรู้เบื้องต้น
• ฝึกปฏิบัติทักษะ “คุณอำนวย” ในองค์กร
• ทำความเข้าใจ “หลักการวางแผน KM” ในองค์กร
• ฝึกปฏิบัติ/ปรึกษา การทำแผน KM ในองค์กร
• แลกเปลี่ยนเรียนรู้ แนะนำ กลยุทธ์แผน KM ในองค์กรแต่ละบริบท
ซึ่งวิทยากรที่มาร่วมถ่ายทอดประสบการณ์ดังกล่าว ประกอบด้วย คุณไพฑูรย์ ช่วงฉ่ำ ผู้จัดการเครือข่ายการจัดการความรู้ กลุ่มโรงพยาบาลภาคเหนือตอนล่าง พร้อมทีมงานวิทยากร

• ความมุ่งหมาย/วัตถุประสงค์ ในการเข้าร่วม Workshop ครั้งนี้ 
เนื่องจาก ดิฉันเพิ่งได้รับมอบหมายจากผู้บริหารให้ทำหน้าที่เป็นผู้ประสานงานให้เกิดกระบวนการจัดการความรู้ในคณะวิทยาศาสตร์ ดังนั้น วัตถุประสงค์หลักในการเข้าร่วม Workshop ในครั้งนี้  ก็คงจะหนีไม่พ้น การต้องการมาเก็บเกี่ยวความรู้และประสบการณ์ที่จะได้รับจากทีมวิทยากร ตลอดจนจากผู้เข้าร่วมอบรม

• บรรลุผลเกินความคาดหมาย  เพราะเหตุใด
ตลอดเวลา 2 วัน ของการเข้าร่วมกิจกรรม ถือว่าหลักสูตรนี้ เป็นประโยชน์มาก  สามารถเป็นหลักสูตรเร่งรัดสำหรับคนที่ต้องการรู้เรื่อง KM ตลอดจนมือใหม่หัดขับที่จะต้องมารับผิดชอบงานด้าน KM   ของหน่วยงาน เนื่องจากเป็นการเรียนรู้กระบวนการจัดการความรู้จนครบขั้นตอน นอกจากนี้ ทางทีมวิทยากรซึ่งมาจากหน่วยงานที่ต่างกัน  ยังได้ร่วมกันถ่ายทอดประสบการณ์จริงที่แต่ละท่านได้มีส่วนร่วมในการเป็นผู้ผลักดันให้เกิดกระบวนการจัดการความรู้ในหน่วยงาน ถึงแม้ทีมวิทยากรจะแตกต่างกัน แต่ผู้เข้าอบรมก็ได้รับเทคนิคในการทำงานในบริบทที่ใกล้เคียงกัน นอกจากนี้แล้วดิฉันยังได้เครือข่าย KM ต่างหน่วยงานเพิ่มขึ้น

• บรรลุผลน้อยเพราะเหตุใด
เนื่องจากหลักสูตรนี้เป็นหลักสูตรเร่งรัด และด้วยข้อจำกัดของเวลา ทำให้แก่นที่ได้รับในเรื่องของการวางแผนการจัดการความรู้ในองค์กร ยังไม่ชัดเจน  และไม่มีเวลาเพียงพอที่จะฝึกปฏิบัติ เพื่อจัดทำแผน KM ในองค์กร

• ทำอะไรต่อ
นำสิ่งที่ได้รับจากการเข้าร่วมฝึกอบรมในครั้งนี้  ถ่ายทอดให้ทีมบริหาร และแกนนำที่จะเป็นตัวขับเคลื่อน KM ของคณะฯ เพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบในการวางรูปแบบการจัดการความรู้ของคณะวิทยาศาสตร์

ข้อเสนอแนะ
1. เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อหน่วยงานที่ยังไม่ได้มีการนำ KM เข้าไปเป็นตัวขับเคลื่อนการดำเนินงานขององค์กร   หน่วยงานควรมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ที่จะเป็นผู้ประสานงาน KM และ ผู้บริหารที่ทำหน้าที่ผลักดัน KM ขององค์กร ได้มีโอกาสเข้าร่วมฝึกอบรมในหลักสูตรนี้
2. การฝึกอบรมครั้งนี้จะเป็นประโยชน์มากหากผู้เข้าร่วมฝึกระบวนการ ได้มีการนำโครงสร้างและแผนงานองค์กรเข้ามาร่วมปรึกษากับวิทยากรและใช้เป็นแบบทดลองฝึกวางแผน KM ได้

• อะไรคือสิ่งที่เราเรียนรู้ครั้งนี้
1. ทำให้ทราบว่ากระบวนการทำ KM อย่างง่าย เริ่มจากตัวเราเอง ได้รับความรู้อะไรที่เป็นประโยชน์ ก็กลับมาสื่อสารให้คนใกล้ตัวในหน่วยงานฟัง แล้วค่อยขยายวงกว้างออกไปเรื่อย ๆ
2. กระบวนการทำ KM ที่ดีและง่ายที่สุด เริ่มต้นจากงานที่รับผิดชอบ และพยายามทำ KM ให้เนียนในเนื้องาน
3. การขับเคลื่อน KM ให้เกิดในหน่วยงานมี ทั้งจาก Top-Down คือ เป็นนโยบายมาจากผู้บริหาร และจาก Bottom – up คือ จากหน่วยงานเป็นคนเสนอโครงการพัฒนางานขึ้นไป  และผู้ที่จะมีส่วนในการขับเคลื่อน KM ได้ดีทีสุดคือ ผู้บริหารระดับกลางตลอดจนหัวหน้าหน่วยงาน ดังนั้น หน่วยงานควรทำความเข้าใจและสร้างแรงบันดาลใจให้เกิดกับคนกลุ่มนี้ เพื่อที่เขาจะได้เป็นตัวช่วยส่งเสริม/สนับสนุน ให้เกิด KM ในหน่วยงานได้เป็นอย่างดี
4. ทำให้ได้รับทราบว่าหน่วยงานที่นำ KM เข้าไปใช้แล้วประสบผลสำเร็จนั้น เพราะเขาเน้นให้คนในองค์กรเขา ทำ KM ได้  มิใช่ แค่ได้ทำ KM

   จากการที่ได้มีโอกาสเข้าร่วมฝึกอบรมในห้องนี้ ทำให้ดิฉันมองเห็นภาพชัดขึ้นว่า การที่เราจะทำให้คนในองค์กรของเราทำ KM ได้ นั้น ควรเริ่มต้นจากอะไร

แล้วท่านหละคะ อยากเห็นองค์กรของท่านทำ KM แบบไหน

สำหรับเอกสารประกอบการอบรมในห้อง workshop 1 มีดังนี้ค่ะ

เอกสารการจัดการความรู้ภายในองค์กร

เอกสารเส้นทางการจัดการความรู้จากทฤษฎีสู่ภาคปฏิบัติ

เอกสารบทบาทคุณอำนวย

เอกสารเทคนิคการเล่าเรื่อง

แผนที่ความคิด

เอกสารการจัดทำโครงสร้างแผนการจัดการความรู้

หมายเลขบันทึก: 68373เขียนเมื่อ 20 ธันวาคม 2006 13:15 น. ()แก้ไขเมื่อ 14 เมษายน 2012 09:11 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)
ได้รับความรู้มากเลยค่ะ สงสัยต้องนำหลัก ททท ไปใช่บ้างแล้วค่ะ เพราะยังจดๆจ้องๆอยู่เลยค่ะ
  • ทำ KM แล้ว ความสัมพันธ์ของคนในองค์กรดีขึ้น เปิดใจพูดคุยกันมากขึ้น บรรยากาศในหน่วยงานดีขึ้น ก็ OK แล้วครับ
  • บางครั้งหลายคนมองภาพว่า มัวแต่ทำ KM แล้วไม่ทำงานหรือ มองแบบแยกส่วน ความจริง KM เป็นเพียงกระบวนการในงานเท่านั้นเอง ไม่เช่นนั้นจะเป็นการทำ KM เพื่อ KM
  • ทำ KM แล้วต้องตอบคำถามให้ได้ว่า KMช่วยพัฒนาคน งาน หน่วยงาน ขึ้นหรือยัง (ร่วม ลปรร.ด้วยครับ) หรือว่าทำเพียงเพื่อได้ทำ KM
ชอบทุกข้อเลยค่ะ คุณรัตติยาเขียนได้ดี อ่านเก็บทุกตัวอักษรได้เลย ชอบที่สุดคือหัวข้อสุดท้ายค่ะ มีประโยชน์มาก ถือเป็นคัมภีร์ที่ควรแจกให้หน่วยงานที่อยากเริ่ม แล้วไม่รู้ว่าจะเริ่มยังไงดีนะคะ

รายละเอียดที่เก็บมา กับ แก่นความรู้ที่สกัดได้ขนาดนี้ แสดงถึงว่าคนเข้าอบรม ต้องมีความตั้งใจ และ ใส่ "ใจ" ไปเในการเรียนรู้อย่างแม่นมั่น  ขอชื่นชมมากๆ ค่ะ  หน่วยงานใด ส่งคนไปเข้าไปอบรมแล้ว เรียนรู้ได้แบบนี้ ถือว่าโชคดีมากๆ  KM คณะวิทย์ไปโลดแน่ๆ ค่ะ

  • เยี่ยมเลยครับพี่
  • แวะมาสวัสดีปีใหม่กลับมาจากชายแดนแล้วนะครับ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท