เชิญชวนกัลยาณมิตรอ่านกรณีศึกษาตามลิงค์บันทึกที่เกี่ยวข้องทางด้านขวามือ
ผมขออนุญาตทบทวนหลักฐานเชิงประจักษ์ทางการแพทย์เพื่อสรุปบทบาทนักกิจกรรมบำบัดต่อประสิทธิผลการฟื้นคืนสุขภาวะนักเปียโนหลังมีอาการบิดเกร็งของกล้ามเนื้อมือ ทำให้มีความบกพร่องในการสั่งการระบบประสาทการเคลื่อนไหว เช่น กล้ามเนื้อภายในมือข้อนิ้วนางกับนิ้วก้อยงอพร้อมกันไม่ได้ - ถ้านิ้วนางงอ นิ้วก้อยก็จะเหยียด ส่งผลให้นิ้วก้อยตึงตัวในท่าเหยียดจนอ่อนล้า สมองซีรีเบลลัมที่ควบคุมความตึงตัวของกล้ามเนื้อในร่างกายก็ส่งสัญญาณมาช่วยทำงานให้เกิดสหสัมพันธ์ของการใช้มือพร้อม ๆ กับสมองส่วนกลางก็สั่งการมาเลี้ยงกล้ามเนื้อนิ้วนางก้อยมากเกินไปจนความตึงตัวของกล้ามเนื้อภายในสองนิ้วบิดเกร็งอัตโนมัติ ทำให้นักเปียโนรับรู้สึกอารมณ์ตึงเครียดลบทั้งวิตกกังวลกับเสียงเปียโนที่ผิดเพี้ยนและมีภาวะซึมเศร้า (นอนไม่หลับ แยกตัว เปรียบเทียบคนเก่ง มีความล้าเรื้อรัง) ขณะฝึกซ้อมอย่างหนักเพราะไม่มีความมั่นใจในสมรรถนะของตัวเองว่าจะเป็นนักเปียโนมืออาชีพได้หรือไม่
งานทบทวนวรรณกรรมอย่างเป็นระบบปี 2017 คลิกที่นี่ พบว่า จาก 1,207 งานวิจัยทางคลินิก มีงานคุณภาพที่พอจะวิเคราะห์ได้เพียง 45 ชิ้น ทำให้เห็นหลักฐานเชิงประจักษ์แสดงความก้าวหน้าทางการบำบัดฟื้นฟูการใช้งานของมือ (Hand Rehabilitation) ได้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (Significant Improvement) เพียง 29 ชิ้น ผมเลยวิเคราะห์ให้เห็นเปอร์เซ็นต์แยกเป็น 6 รูปแบบการบำบัดฟื้นฟูการใช้งานของมือ ได้แก่
ปัจจุบันทั่วโลกมีความขาดแคลนแพทย์ นักกายภาพบำบัด และนักกิจกรรมบำบัด ที่มีประสบการณ์บำบัดฟื้นฟูการใช้งานของมือนักเปียโน ... ทำให้เกิดการรวมกลุ่มครูสอนเปียโนศึกษาและออกแบบโปรแกรมฝึกอ้างอิงหลักการชีวกลศาสตร์ได้น่าสนใจ คลิกที่นี่ ตรงกับรูปแบบที่นักกิจกรรมบำบัดใช้ได้แก่ การฝืนทนใช้มือ บวกกับ การชดเชยด้วยกล้ามเนื้อที่แข็งแรง
ไม่มีความเห็น