ในชุดการนำเสนอนี้และก่อนหน้านี้ เน้นย้ำการเรียนรู้ (กลยุทธ์ และแผนงานที่ประสบความสำเร็จ) จากผู้ที่ได้รับรางวัล Baldrige โดยเน้นแต่ละหมวดของเกณฑ์ และวิธีปฏิบัติที่องค์กรอาจพิจารณาใช้เป็นแรงบันดาลใจ
การนำองค์กร
Leadership from Role Models
พลตรี มารวย ส่งทานินทร์
[email protected]
23 พฤษภาคม 2563
บทความเรื่อง การนำองค์กร ( Leadership from Role Models) นำมาจากบทความเรื่องLearning from Role Models: Category 1: Leadership โดย Dawn Bailey เมื่อ May 21, 2020 จากเว็บไซต์ https://www.nist.gov/blogs/blogrige/learning-role-models-category-1-leadership
ผู้ที่สนใจบทความนี้แบบ PowerPoint (PDF File) สามารถ Download ได้ที่ https://www.slideshare.net/maruay/leadership-from-role-models
หมวด 1 ของ Baldrige Criteria ครอบคลุมภาวะผู้นำขององค์กร
หมวด 1 การนำองค์กร
ถามเกี่ยวกับวิธีการที่ผู้นำระดับสูงและระบบการกำกับดูแลองค์กรใช้ชี้นำและทำให้องค์กรมีความยั่งยืน
หมวดนี้ถามเกี่ยวกับประเด็นสำคัญของความรับผิดชอบของผู้นำระดับสูงขององค์กร โดยมีจุดประสงค์ในการสร้างองค์กรที่ประสบความสำเร็จทั้งในปัจจุบันและอนาคต
นอกจากนี้ ยังถามว่าองค์กรสร้างความมั่นใจได้อย่างไรว่า ทุกคนในองค์กรมีพฤติกรรมที่ถูกต้องตามกฎหมายและมีจริยธรรม มีส่วนร่วมทางสังคมและการสนับสนุนชุมชนสำคัญขององค์กรอย่างไร
หมวด 1
หมวดการนำองค์กร ถามเกี่ยวกับวิธีการที่ผู้นำระดับสูงและระบบการกำกับดูแลองค์กรใช้ชี้นำและทำให้องค์กรมีความยั่งยืน
แบ่งเป็น 2 หัวข้อคือ
1.1 การนำองค์กรโดยผู้นำระดับสูง ( Senior Leadership)
1.2 การกำกับดูแลองค์กรและการทำประโยชน์ให้สังคม ( Governance and Societal Contributions)
1.1 การนำองค์กรโดยผู้นำระดับสูง
เจตจำนง
หัวข้อนี้ถามถึงประเด็นความรับผิดชอบที่สำคัญของผู้นำระดับสูง โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างองค์กรที่ประสบความสำเร็จทั้งในปัจจุบันและในอนาคต บทบาทของผู้นำระดับสูง
ผู้นำระดับสูงมีบทบาทสำคัญในการกำหนดค่านิยมและทิศทาง การสร้างและเสริมสร้างวัฒนธรรมองค์กร การสื่อสาร การสร้างคุณค่าและทำให้เกิดความสมดุลของคุณค่าระหว่างผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมดทุกกลุ่ม และการสร้างให้องค์กรเกิดการปฏิบัติการอย่างจริงจัง รวมทั้งการเปลี่ยนแปลงแบบพลิกโฉม ( transformational change) ในโครงสร้างและวัฒนธรรมองค์กรเมื่อจำเป็น
ความสำเร็จขององค์กรต้องอาศัยการมองการณ์ไกล ความเข้าใจว่าความเสี่ยงเป็นส่วนหนึ่งในการวางแผนและการปฏิบัติการในองค์กร ความมุ่งมั่นต่อการปรับปรุง การสร้างนวัตกรรม ความกล้าเสี่ยงที่ผ่านการประเมินผลได้ผลเสียอย่างรอบด้าน และการมุ่งเน้นที่ความยั่งยืนขององค์กรเป็นสำคัญ ซึ่งต้องอาศัยการสร้างบรรยากาศเพื่อให้เกิดการเอื้ออำนาจในการตัดสินใจแก่ผู้ปฏิบัติงาน ตลอดจนการสร้างบรรยากาศเพื่อให้เกิดความคล่องตัว การเปลี่ยนแปลง และการเรียนรู้ในระดับองค์กรที่มากยิ่งขึ้น
ผู้นำระดับสูงที่เป็นแบบอย่างที่ดี
ในองค์กรที่ได้รับการยกย่องอย่างสูงนั้น ผู้นำระดับสูงมีความมุ่งมั่นในการสร้างวัฒนธรรมที่สร้างความผูกพันกับลูกค้า การพัฒนาผู้นำในอนาคตขององค์กร รวมทั้งการยกย่องชมเชยและการให้รางวัลในการอุทิศตนของบุคลากร
ผู้นำระดับสูงดำเนินการด้วยตนเองในการสร้างความผูกพันกับลูกค้าที่สำคัญ
ผู้นำระดับสูงเสริมสร้างทักษะความเป็นผู้นำของตนเอง
ผู้นำระดับสูงมีส่วนร่วมในการเรียนรู้ระดับองค์กร การพัฒนาผู้นำในอนาคต การวางแผนสืบทอดตำแหน่ง รวมทั้งมีส่วนร่วมในโอกาสและกิจกรรมต่าง ๆ ที่ยกย่องชมเชยบุคลากร
นอกจากนี้ กิจกรรมการพัฒนาผู้นำในอนาคต อาจรวมถึงการเป็นพี่เลี้ยง การเป็นผู้ฝึกสอนงาน หรือการมีส่วนร่วมในหลักสูตรการพัฒนาผู้นำองค์กร
ผู้นำที่เป็นแบบอย่างที่ดี จะตระหนักถึงความจำเป็นสำหรับการเปลี่ยนแปลงแบบพลิกโฉม และจากนั้นนำไปสู่ความพยายามเพื่อการบรรลุผลเต็มรูปแบบ
นอกจากนี้ ยังแสดงให้เห็นถึงความจริงใจ การยอมรับความผิดพลาด รวมทั้งแสดงภาระความรับผิดชอบต่อการดำเนินการขององค์กร
การประพฤติปฏิบัติตามกฎหมายและการประพฤติปฏิบัติอย่างมีจริยธรรม
ในการเป็นแบบอย่างที่ดีสำหรับการประพฤติปฏิบัติอย่างมีจริยธรรม ผู้นำระดับสูงมักต้องสร้างสมดุลระหว่างความต้องการส่งมอบผลระยะสั้นกับการกำหนดบรรทัดฐานบรรยากาศที่มีจริยธรรมและนโยบายของความซื่อสัตย์เสียก่อน การสร้างสภาพแวดล้อมเพื่อนวัตกรรม
นวัตกรรมเริ่มต้นด้วยการกำหนดทิศทางที่ชัดเจน
ผู้นำระดับสูงต้องสื่อสารเกี่ยวกับปัญหาหรือโอกาสที่องค์กรพยายามจัดการ จากนั้นสร้างสภาพแวดล้อมที่สนับสนุนและกระบวนการที่ชัดเจน ซึ่งจะกระตุ้นและอนุมัติให้เกิดความกล้าเสี่ยงที่ผ่านการประเมินผลได้ผลเสียอย่างรอบด้าน
1.2 การกำกับดูแลองค์กรและการทำประโยชน์ให้สังคม
เจตจำนง
หัวข้อนี้ถามถึงประเด็นสำคัญ ๆ ในระบบการกำกับดูแลองค์กร รวมถึงการปรับปรุงของผู้นำระดับสูงและระบบการนำองค์กร นอกจากนี้ ยังถามถึงวิธีการที่องค์กรทำให้มั่นใจว่าทุกคนในองค์กรได้ประพฤติปฏิบัติตามกฎหมายและจริยธรรม รวมทั้งการทำประโยชน์ให้สังคมและสนับสนุนชุมชนที่สำคัญ การกำกับดูแลองค์กร
หัวข้อนี้เน้นเกี่ยวกับความจำเป็นที่องค์กรจะต้องมีคณะกรรมการหรือที่ปรึกษาด้านการกำกับดูแลที่รับผิดชอบ รับรู้ เข้าใจ โปร่งใส รวมทั้งรับผิดชอบต่อผลต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น เพื่อให้สามารถปกป้องผลประโยชน์ของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่สำคัญ (รวมทั้งผู้ถือหุ้น) ขององค์กรที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ องค์กรที่ไม่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ รวมทั้งองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไร
คณะกรรมการดังกล่าวควรมีอิสระในการทบทวนและตรวจสอบองค์กร รวมทั้งตรวจติดตามการดำเนินการขององค์กรและผู้นำสูงสุด หรือคณะผู้บริหารระดับสูง
การปฏิบัติตามกฎหมาย จริยธรรม และความเสี่ยง
การจัดการและปรับปรุงผลการดำเนินการจำเป็นต้องมีการดำเนินการเชิงรุกในด้าน (1) การประพฤติปฏิบัติอย่างมีจริยธรรม (2) การปฏิบัติตามกฎหมายและกฎระเบียบข้อบังคับ และ (3) ปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ
การที่จะมีผลการดำเนินการที่ดีในเรื่องดังกล่าวได้นั้น องค์กรต้องกำหนดตัววัดหรือตัวชี้วัดที่เหมาะสมที่ผู้นำระดับสูงสามารถใช้ในการติดตาม
นอกจากนี้ องค์กรควรมีความไวต่อประเด็นความกังวลของสาธารณะ ไม่ว่าประเด็นนั้นจะระบุไว้ในกฎหมายและกฎระเบียบข้อบังคับปัจจุบันหรือไม่ก็ตาม
องค์กรที่เป็นแบบอย่างที่ดีต้องหาโอกาสในการดำเนินการอย่างเป็นเลิศด้านการประพฤติปฏิบัติตามกฎหมายและจริยธรรม
นอกจากนี้ ยังต้องตระหนักถึงความจำเป็นในการยอมรับความเสี่ยง การระบุระดับความเสี่ยงที่เหมาะสมสำหรับองค์กร รวมทั้งการประกาศและการสื่อสารนโยบายการตัดสินใจเรื่องความเสี่ยง
ความกังวลของสาธารณะ
องค์กรภาครัฐและองค์กรการกุศลควรคาดการณ์ล่วงหน้าถึงความกังวลของสาธารณะ ซึ่งอาจรวมถึงต้นทุนของโครงการและการดำเนินงาน ความทันกาล และเท่าเทียมกันในการเข้าถึงผลิตภัณฑ์ รวมทั้งการรับรู้ของสังคมต่อการที่องค์กรดูแลรักษาทรัพยากรสาธารณะ การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ
การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติอาจบรรลุได้โดยการใช้เทคโนโลยีที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม การลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ การใช้สารเคมีที่มีน้ำเป็นตัวทำละลายทดแทนสารเคมีอันตราย การอนุรักษ์พลังงาน การใช้แหล่งพลังงานที่สะอาดกว่า หรือการนำผลผลิตพลอยได้หรือของเสียกลับมาใช้ใหม่ การทำประโยชน์ให้สังคม
เมื่อแนวคิดเรื่องความรับผิดชอบต่อสังคมได้รับการยอมรับ องค์กรที่มีผลการดำเนินการที่ดีเห็นว่าการทำประโยชน์ให้สังคมเป็นสิ่งที่พวกเขาต้องทำ มากกว่าสิ่งอื่นใด
การทำให้เหนือกว่าความรับผิดชอบ ในการทำประโยชน์ให้สังคมอาจเป็นตัวขับเคลื่อนความผูกพันของลูกค้าและบุคลากร และเป็นสิ่งสร้างความแตกต่างในตลาด
การทำประโยชน์ให้สังคมมีความหมายมากกว่าการปฏิบัติตามกฎระเบียบข้อบังคับเท่านั้น
องค์กรไม่ว่าขนาดเล็กหรือใหญ่ มีโอกาสส่งเสริมสภาพความเป็นอยู่ที่ดี ทั้งในด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และเศรษฐกิจ รวมถึงโอกาสในการสนับสนุนชุมชนที่สำคัญ
ทั้งนี้ ระดับและขอบเขตของการส่งเสริมขึ้นอยู่กับขนาดและความสามารถขององค์กร
นอกจากนี้ การตัดสินใจที่จะทำงานร่วมกับองค์กรใด ๆ มีแนวโน้มที่จะพิจารณาถึงการทำประโยชน์ให้สังคมขององค์กรนั้นมากขึ้นเรื่อย ๆ
การสนับสนุนชุมชน
องค์กรควรพิจารณาประเด็นที่เกี่ยวข้องกับชุมชน ซึ่งเกี่ยวข้องกับความสามารถหลักขององค์กร ตัวอย่างการมีส่วนร่วมกับชุมชนได้แก่
การร่วมมือกับโรงเรียนและคณะกรรมการโรงเรียนเพื่อปรับปรุงการศึกษา
การร่วมมือกับผู้ให้บริการด้านสุขภาพ เพื่อพัฒนาสุขภาพในชุมชนท้องถิ่น โดยการให้การศึกษา และบริการอาสาสมัคร เพื่อแก้ไขปัญหาสาธารณสุข
การเป็นพันธมิตรกับสมาคมการค้า ธุรกิจ และสมาคมวิชาชีพ เพื่อทำกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ และร่วมมือกัน เช่น กิจกรรมที่เป็นมาตรฐานโดยสมัครใจ หรือการแบ่งปันแนวปฏิบัติที่ดีที่สุด เพื่อปรับปรุงความสามารถในการแข่งขันในระดับโลก และจริยธรรมและความผาสุกของสังคม
องค์กรไม่หวังผลกำไรบางแห่ง อาจช่วยเหลือสังคมและสนับสนุนชุมชนสำคัญของพวกเขา โดยผ่านกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับพันธกิจ
ในกรณีเช่นนี้ การสนับสนุนจากชุมชนจะรวมถึง “ ความพยายามเป็นพิเศษ” เช่นการร่วมมือกับองค์กรหรือองค์กรธุรกิจที่ไม่แสวงหาผลกำไรอื่น ๆ เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการพิทักษ์ทรัพยากรสาธารณะและการกุศลโดยรวม
การปฏิบัติที่เป็นเลิศของผู้ที่ได้รับรางวัล
ต่อไปนี้ เป็นแนวทางปฏิบัติภาวะผู้นำขององค์กรที่ได้รางวัล Baldrige (Donor Alliance, Mary Greeley Medical Center และ Tri County Tech) ในการสนับสนุนบุคลากร ที่ขับเคลื่อนด้วยพันธกิจ ส่งเสริมวัฒนธรรมองค์กร ตั้งความคาดหวัง ตอบสนองสังคมและสนับสนุนชุมชนที่สำคัญ Donor Alliance
DA เป็นหนึ่งใน 58 องค์กรการจัดหาอวัยวะที่เป็นอิสระที่ไม่หวังผลกำไร ซึ่งกำหนดโดย Centers for Medicare and Medicaid Services (CMS) พันธกิจของกลุ่มคือ การช่วยชีวิตโดยการบริจาคอวัยวะและเนื้อเยื่อ และการปลูกถ่าย
เพื่อให้บรรลุภารกิจนี้ DA ได้ใช้แนวทางของครอบครัวและโครงการฟื้นฟูในโรงพยาบาลกว่า 100 แห่ง และยังเป็นแรงบันดาลใจให้ประชาชนลงทะเบียนเป็นผู้บริจาคอวัยวะและเนื้อเยื่อ โดยเป็นหุ้นส่วนของชุมชน การเผยแพร่ประชาสัมพันธ์สาธารณะ และแคมเปญการศึกษาทั่วพื้นที่ให้บริการ
DA ทำหน้าที่ในมลรัฐโคโลราโดและส่วนใหญ่ของไวโอมิง ซึ่งเป็นพื้นที่ให้บริการทางภูมิศาสตร์ที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสาม ครอบคลุมพื้นที่ 184,151 ตารางไมล์, มีสำนักงานอยู่สองแห่งใน Denver, CO และสำนักงานภูมิภาคในGrand Junction, CO, Colorado Springs, CO และCasper, WY
จุดเด่น
Donor Alliance ได้รับการจัดอันดับให้เป็น หนึ่งในสิบ องค์กรจัดส่งอวัยวะที่ดีที่สุดในประเทศ เนื่องจากมีอัตราการบริจาคอวัยวะที่สูงกว่า 80%
องค์กรมีประสิทธิภาพดีกว่า 25% ขององค์กรจัดส่งอวัยวะที่ดีที่สุด ด้วยผลลัพธ์ที่ดีขึ้นจาก 64% ถึง 74% สำหรับผู้บริจาคอวัยวะตั้งแต่ปี ค.ศ. 2014 และจาก 65% ถึง 68% สำหรับผู้บริจาคเนื้อเยื่อ (เช่น ผิวหนัง กระดูก)
อัตราของผู้บริจาคอวัยวะอยู่ที่ 80-84% ซึ่งเป็นอัตราที่ดีกว่าการเปรียบเทียบระดับชาติสูงสุด 25% ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2014 และอัตราการบริจาคเนื้อเยื่ออยู่ระหว่าง 74-79% ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2014 ซึ่งอยู่ในด้านบน 10% ทั่วประเทศ
ลูกค้าทั้งสี่แห่งของศูนย์ปลูกถ่ายท้องถิ่น มีความพึงพอใจ 100% ในแบบสำรวจ ค.ศ. 2018, ผู้ประมวลผลเนื้อเยื่อซึ่งรับผิดชอบในการจัดเตรียมการเก็บรักษาการ จัดเก็บ และการกระจายเนื้อเยื่อขั้นสุดท้ายสำหรับการปลูกถ่าย มีความพึงพอใจ 100% กับ Donor Alliance
Donor Alliance: 2018 Baldrige Award Recipient, Nonprofit
องค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไรที่ประสบความสำเร็จ เพราะบุคลากรที่รู้ว่าความมุ่งมั่นต่อพันธกิจ เป็นองค์ประกอบหนึ่งของความสำเร็จDonor Alliance เป็นองค์กรจัดหาอวัยวะที่ใหญ่เป็นอันดับสามของสหรัฐอเมริกาตามพื้นที่ให้บริการทางภูมิศาสตร์ ทราบดีว่าความมุ่งมั่นในพันธกิจเป็นทุกสิ่งทุกอย่าง
ในปีที่ได้รับรางวัล Baldrige บุคลากร 100% ระบุว่า พวกเขาเข้าใจว่า งานของพวกเขาช่วยให้องค์กรประสบความสำเร็จได้อย่างไร นอกจากนี้ บุคลากรยังรายงานว่า พวกเขาเข้าใจแผนการของบริษัทเพื่อความสำเร็จในอนาคต และวิธีการทำงานของพวกเขาที่สนับสนุนความสำเร็จ
ความมุ่งมั่นของผู้นำระดับสูง
ผู้นำระดับสูงแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในพันธกิจในทุกโอกาส การนำเสนอแต่ละครั้งจะเริ่มต้นด้วยการทบทวนพันธกิจ วิสัยทัศน์ และค่านิยม ( Mission, Vision, and Values: MVV)
เพื่อความโปร่งใส ผู้นำระดับสูงจะสื่อสารการตัดสินใจที่สำคัญ เพื่อช่วยให้บุคลากรเข้าใจเหตุผลและผลกระทบกับพวกเขา
ความผูกพันนั้น วัดโดยการแสดงให้เห็นถึงความตระหนัก ความเข้าใจ และการเชื่อมต่อกับ MVV พร้อมกับวัตถุประสงค์ส่วนตัวของพวกเขาเอง ที่มีส่วนช่วยในการบรรลุพันธกิจขององค์กรคือ เพื่อช่วยชีวิตผ่านการบริจาคอวัยวะและเนื้อเยื่อ
วัฒนธรรมที่ขับเคลื่อนด้วยพันธกิจ
ผู้นำระดับสูงยังเน้นวัฒนธรรมที่ขับเคลื่อนด้วยพันธกิจ โดยเชิญครอบครัวผู้บริจาคและผู้รับอวัยวะ/เนื้อเยื่อ เพื่อแบ่งปันเรื่องราวระหว่างการประชุมบุคลากรทุกไตรมาส เรื่องราวเหล่านี้ ช่วยให้บุคลากรมีการเชื่อมต่อที่ชัดเจนของงานของพวกเขากับการบรรลุพันธกิจ
แนวทางขององค์กรในการสร้างสภาพแวดล้อมเพื่อความสำเร็จได้ผ่านการปรับแต่งหลายครั้ง ล่าสุด ทีมบูรณาการถูกสร้างขึ้นเพื่อปรับปรุงและบูรณาการแนวทางในการพัฒนากลยุทธ์ นวัตกรรม และการจัดการความรู้
ในปี ค.ศ. 2018 ตามข้อเสนอแนะของทีมบูรณาการกับผู้นำระดับสูงองค์กร ได้สร้างแพลตฟอร์มร่วมเพื่อจัดการทั้งกลยุทธ์ขององค์กรและผลงานของแต่ละบุคคล
ความสอดคล้องขององค์กร ( Organizational Rhythm)
การเชื่อมโยงวัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์ เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ และแผนปฏิบัติการ เสริมสร้างความแข็งแกร่งของการจัดแนวทาง จากบุคลากรแต่ละคนไปสู่วัตถุประสงค์และพันธกิจขององค์กร และผู้นำทบทวนความคืบหน้าเป้าหมายส่วนบุคคลแต่ละคน ในระหว่างการประชุม 1:1 ทุกเดือน
นอกจากนี้ องค์กรยังรวมวิธีการเหล่านี้ทั้งหมดเข้าด้วยกัน เพื่อช่วยให้องค์กรมุ่งเน้นไปที่การดำเนินการเพื่อให้พันธกิจขับเคลื่อนและบรรลุเป้าหมายของแผนกลยุทธ์เรียกว่าOrganizational Rhythm เป็นโครงสร้างสำหรับใช้ติดตาม ประเมิน และปรับปรุงของ ระบบ กระบวนการ และแนวทางการปฏิบัติที่สำคัญทั่วทั้งองค์กร
Mary Greeley Medical Center (MGMC)
เปิดให้บริการในปี ค.ศ. 1916 และในปัจจุบันเป็นศูนย์การแพทย์ที่ใหญ่ที่สุดในระดับปฐมภูมิและระดับทุติยภูมิ
MGMC เป็นโรงพยาบาลใน city of Ames ซึ่งมอบแก่เมืองให้โดยเจ้าหน้าที่กองทัพพันธมิตรในสงครามกลางเมือง เพื่อเป็นความทรงจำให้กับภรรยาที่รักของเขา
โรงพยาบาลให้การดูแลสุขภาพแก่ผู้อยู่อาศัยในพื้นที่ 14 ตำบลในมลรัฐไอโอวาตอนกลาง บริการผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอก สนับสนุนการดูแลอย่างต่อเนื่องที่รวมถึงการผ่าตัด การดูแลมะเร็ง การดูแลหัวใจ การดูแลผู้ป่วยโรคเบาหวานและโภชนาการ การผ่าตัด ศัลยกรรมกระดูก สูติศาสตร์และนรีเวชวิทยา ระบบทางเดินอาหาร บริการสุขภาพจิต การดูแลแบบประคับประคอง และอื่น ๆ
จุดเด่น
ผลการดูแลสุขภาพของ MGMC อยู่ในช่วงร้อยละสิบที่ดีที่สุดของ CMS ซึ่งรวมถึงการกลับเข้าห้องฉุกเฉินภายใน 30 วัน การเสียชีวิตภายใน 30 วันสำหรับผู้ป่วยหัวใจวาย อุบัติการณ์การอุดตันของเลือดที่สามารถป้องกันได้ การปฏิบัติตามวิธีการติดเชื้อในกระแสเลือด การฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ การป้องกันเลือดออกในสมอง และการวัดความพึงพอใจผู้ป่วยนอก
ความพึงพอใจของผู้ป่วยในซึ่งวัดโดย HCAHPS นั้นอยู่ในช่วงร้อยละสิบของระดับสูงสุดตั้งแต่ปี ค.ศ. 2016
มากกว่า 75% ของผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอกจะแนะนำ MGMC ให้คนอื่น ๆ ซึ่งอยู่ในร้อยละสิบของระดับสูงสุด
MGMC เป็นผู้นำที่โดดเด่นในระดับปฐมภูมิสำหรับผู้ป่วยใน (43%) และผู้ป่วยนอก (48%) ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2015 แม้จะมีขนาดหนึ่งในสามของคู่แข่งที่ใกล้เคียงที่สุด
Mary Greeley Medical Center: 2019 Baldrige Award Recipient, Health Care
คำขวัญ “กระทำสิ่งที่ถูกต้อง ( Doing What’s Right)” สำหรับ Mary Greeley Medical Center (MGMC) ไม่เพียงแต่แสดงคุณลักษณะสำคัญของวัฒนธรรมองค์กรเท่านั้น แต่ยังทำให้ชัดเจนว่า เป็นความคาดหวังให้มีการปฏิบัติทั้งผู้นำระดับสูงและบุคลากร
ในฐานะส่วนหนึ่งของวัฒนธรรม ผู้นำจะเสริมสร้างคำขวัญนี้ผ่านสภาที่ปรึกษาผู้ป่วยและครอบครัว ซึ่งผู้ป่วยและครอบครัวจะได้แบ่งปันมุมมองของพวกเขาเกี่ยวกับ “สิ่งที่ถูกต้อง” เพื่อเรียนรู้และมีส่วนร่วม มีการเยี่ยมเยียนหน่วยที่ให้ดูแลผู้ป่วยเพื่อดูสภาพแวดล้อมการทำงานของบุคลากร และผ่านการมีส่วนร่วมของผู้นำในกิจกรรมการปรับปรุง
คำขวัญนี้ช่วยเสริมพันธกิจ วิสัยทัศน์ และค่านิยมของ MGMC สนับสนุนวัฒนธรรมให้บุคลากรมีอำนาจในการปรับปรุงการทำงานของพวกเขาอย่างต่อเนื่อง และเพื่อกระทำสิ่งที่ถูกต้อง
ระบบการนำองค์กร
ผู้นำระดับสูงกำหนด สื่อสาร และปรับใช้ MVV อย่างเป็นระบบ ผ่านระบบการนำองค์กร ซึ่งสอดคล้องกับความต้องการของผู้ป่วย ลูกค้ารายอื่น และผู้มีส่วนได้เสีย
ผู้นำแบ่งปันเผยแพร่วิสัยทัศน์และค่านิยมให้กับบุคลากร บุคลากรทางการแพทย์ ตลอดจนผู้ส่งมอบและพันธมิตรที่สำคัญ ด้วยตนเองอย่างสม่ำเสมอ
นอกจากนี้ผู้นำระดับสูงยังยกย่องคลากรที่แสดงให้เห็นถึง MVV ในการทำงานประจำวัน โดยการส่งจดหมายขอบคุณ ไปยังบ้านของบุคลากรผู้นั้น
การกระทำส่วนบุคคลของผู้นำระดับสูง
การกระทำส่วนบุคคลของผู้นำระดับสูง สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นต่อค่านิยมขององค์กร ผ่านการรับฟังความกังวลและความสำเร็จของบุคลากร ผ่านการสื่อสารสองทางที่เป็นธรรมและด้วยความเคารพ และผ่านการพบปะกับกลุ่มบุตลากรที่เป็นเป้าหมาย
การเคารพในบุคคลสร้างเสริมผ่านการสื่อสาร สนับสนุนความผูกพันของบุคลากรผู้ที่ใกล้ชิดกับงานที่เป็นนวัตกรรมในการออกแบบของวิธีการทำงาน และผ่านการเผยแพร่ความคืบหน้าให้กับบุคลากรทุกคน
ปรัชญา Big Dot Goal
ในปี ค.ศ. 2017 MGMC นำปรัชญา Big Dot Goal มาใช้ ในการสร้างแนวทางที่ชัดเจน ไปที่การดำเนินการที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุกลยุทธ์ที่สำคัญขององค์กร (ลดอันตรายที่สามารถป้องกันได้ ปรับปรุงประสบการณ์ผู้ป่วยใน เพิ่มความผูกพันของบุคลากร และบรรลุความคุ้มทุนของการปฏิบัติการ)
ปรัชญานี้สร้างความมั่นใจว่า ผู้นำระดับสูงสร้างและเสริมสร้างวัฒนธรรมการกระทำสิ่งที่ถูกต้อง รองประธานแต่ละคนจะได้รับมอบหมายเป้าหมายของ Big Dot Goal ให้รับผิดชอบ และรายงานความคืบหน้าของแผนตามเป้าหมาย ในการประชุมรายเดือน
การมอบหมายงานให้กับผู้นำ
เป้าหมาย Big Dot Goals และการมอบหมายให้กับผู้นำดังกล่าว สอดคล้องกับระบบการจัดการผลประกอบการขององค์กร มีการการถ่ายทอดตามลำดับชั้นทั่วทั้งองค์กร และนำไปสู่การปฏิบัติงานประจำวัน ผ่านการทบทวนแผนกลยุทธ์ของผู้นำระดับสูง การประชุมผู้นำรายเดือน การทบทวนทางธุรกิจของผู้นำ และผ่านบัตร workforce Big Dot Goal cards เพื่อสนับสนุนการตัดสินใจในการดำเนินงาน Tri County Tech (TCT)
เป็นหนึ่งใน 29 ศูนย์เทคโนโลยีสาธารณะในมลรัฐโอคลาโฮมา
TCT บริการผู้อยู่อาศัยในสามเขต และมีวิสัยทัศน์ สร้างแรงบันดาลใจให้ประสบความสำเร็จ ผ่านประสบการณ์การเรียนรู้ที่เปลี่ยนแปลงชีวิต
ให้บริการมัธยมศึกษาตอนปลาย การศึกษาผู้ใหญ่ ธุรกิจเฉพาะและการฝึกอบรมในอุตสาหกรรม รวมทั้งบริการประชุมและจัดงานประชุม
TCT มุ่งมั่นที่จะทำลายวงจรความยากจนให้กับนักเรียน โดยให้บริการสนับสนุนนักเรียนที่ไม่มีเงินทุน และค่าเล่าเรียนต่ำสำหรับนักเรียนผู้ใหญ่
มีหลักสูตรได้แก่ premedicine, preengineering and bioscience, culinary arts, cosmetology, การดูแลเด็กก่อนวัยเรียน, เทคโนโลยีอัตโนมัติ, เครื่องจักรกลที่มีความแม่นยำ, เทคโนโลยีการก่อสร้าง และช่างเชื่อม นอกจากนี้ ยังมีหลักสูตรพยาบาลภาคปฏิบัติ และหลักสูตรทันตานามัย
จุดเด่น
ด้วยเป้าหมาย นักเรียนไม่ควรถูกปฏิเสธการเข้าถึงการศึกษา โดยพิจารณาจากความสามารถในการจ่ายเงิน TCT ได้เปิดตัวมูลนิธิของตนเอง ในปีงบประมาณ ค.ศ. 2014 ถึง 2018 ทุนการศึกษาของมูลนิธิเพิ่มขึ้นจาก 60,000 เหรียญเป็น 250,000 เหรียญ
อัตราการจบการศึกษา/การธำรงรักษา และการหางานสำหรับนักเรียนหลังจากสำเร็จการศึกษาอยู่ใน ด้านบน 25 เปอร์เซ็นต์ ในระดับประเทศสำหรับแปดปีงบประมาณที่ผ่านมา, นอกจากนี้ TCT ยังได้รับคะแนนสูงสุดอัตราการจบการศึกษา/การธำรงรักษาของมลรัฐ สำหรับนักศึกษาที่เรียนเต็มเวลา ในช่วงห้าปีที่ผ่านมา
ร้อยละเจ็ดสิบ ของผู้สำเร็จการศึกษาหลักสูตรมัธยมศึกษาตอนปลายของ TCT ย้ายไปเรียนต่อในวิทยาลัยเทคนิค หรือโรงเรียนเทคนิคผู้ใหญ่
จากผลการสำรวจของ GPTW ผลการปฏิบัติงานของ TCT ในกลุ่มบุคลากรส่วนใหญ่ อยู่ใน อันดับต้น 10% ของประเทศ ในแต่ละปี ตั้งแต่ปีงบประมาณ ค.ศ. 2014 เป็นต้นมา
Tri County Tech: 2018 Baldrige Award Recipient, Education
Tri County Tech (TCT) มีส่วนช่วยสังคม โดยให้การศึกษาแก่พนักงานพื่อเพิ่มพูนทักษะ และเตรียมนักเรียนสำหรับการศึกษาต่อเนื่อง
TCT อยู่ในมลรัฐที่ยากจนที่สุดแห่งหนึ่งของสหรัฐอเมริกา แต่โรงเรียนมอบความหวังให้กับนักเรียน โดยทำลายวงจรความยากจนผ่านการฝึกงานที่ดี และโอกาสในการศึกษาต่อเนื่อง
พยายามอย่างเต็มที่เพื่อมอบโอกาสที่จะช่วยให้นักเรียนบรรลุเป้าหมาย
มูลนิธิ Tri County มอบโอกาสและความช่วยเหลือทางการเงิน เพื่อให้นักเรียนประสบความสำเร็จในโปรแกรมการศึกษาที่เลือก เป้าหมายของมูลนิธิคือ"ไม่ควรปฏิเสธการเข้าถึงการศึกษาของนักเรียน เนื่องจากความสามารถในการจ่ายเงิน ( No student should be denied access to education due to their ability to pay.)"
TCT สร้างกระบวนการผ่านที่ปรึกษาความสำเร็จของนักเรียน ( Student Success Advisors) เพื่อให้นักเรียนที่ด้อยโอกาสได้รับความช่วยเหลือทางการเงิน รวมถึงทุนสำหรับการตรวจลูกตา บัตรเติมน้ำมัน และเงินสำหรับยาที่จำเป็นหรืออาหาร ซึ่งเป็นความต้องการขั้นพื้นฐาน
ความผาสุกและผลประโยชน์ของสังคม
ความผาสุกและผลประโยชน์ของสังคม เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์โดยรวมของ TCT ซึ่งสอดคล้องกับคุณค่าการลงทุนในชุมชนและความสามารถหลักขององค์กร ในการพัฒนาเศรษฐกิจและชุมชน
TCT มีคณะกรรมการที่นำโดยบุคลากรสองคณะคือ คณะกรรมการชุมชนสัมพันธ์ และคณะกรรมการความคิดที่สดใส การมุ่งเน้นของคณะกรรมการชุมชนสัมพันธ์นั้นสอดคล้องกับคุณค่าการลงทุนในชุมชน
กระบวนการการเลือกและจัดลำดับความสำคัญของความผาสุกของสังคม สี่ขั้นตอน คือ
1. กำหนดสามลำดับแรกในกิจกรรมการระดมทุนและกิจกรรมอาสาสมัคร ที่ได้รับการสนับสนุนจากบุคลากร
2. คาดหวังให้บุคลากรแต่ละคนมีเวลาดำเนินการบริการชุมชนอย่างน้อย 16 ชั่วโมง ซึ่งรวมอยู่ในแผนปฏิบัติการส่วนบุคคลของเขา โดยใช้เวลาแปดชั่วโมงในช่วงเวลาการจ้างงาน (ตัวชี้วัดที่สำคัญของแผนปฏิบัติการคือ 100% ของบุคลากรในการบริการชุมชน)
3. วิเคราะห์ผลการมีส่วนร่วมกับชุมชน
4. ให้คำแนะนำสำหรับการปรับปรุง ที่จะนำไปสู่การเลือกการระดมทุนและกิจกรรมอาสาสมัครในอนาคต
ความสนใจและความกังวลของชุมชน
ความสนใจและความกังวลของชุมชน ได้รับการแก้ไขผ่านการประชุมกับโรงเรียนพันธมิตร เขต และคณะกรรมการการศึกษา
เพื่อความโปร่งใส ผู้นำระดับสูงจะแถลงผลการดำเนินงานขององค์กร ผ่านระบบการวัดและการรายงาน การประชุมผู้กำกับโรงเรียนรายเดือนที่บุคลากรทุกคนเข้าร่วม และการสื่อสารระดับกลุ่มย่อย
ในปีที่ TCT ได้รับรางวัล Baldrige บุคลากรกว่า 300 คนและนักเรียนที่เป็นอาสาสมัคร ได้เข้าร่วมในวัน United Way’s Day of Caring ทำให้ TCT เป็นองค์กรที่มีอาสาสมัครที่มากที่สุด
สรุป
ในชุดการนำเสนอนี้และก่อนหน้านี้ เน้นย้ำการเรียนรู้ (กลยุทธ์ และแผนงานที่ประสบความสำเร็จ) จากผู้ที่ได้รับรางวัล Baldrige โดยเน้นแต่ละหมวดของเกณฑ์ และวิธีปฏิบัติที่องค์กรอาจพิจารณาใช้เป็นแรงบันดาลใจ
*************************