เล่าต่อเรื่องราวของ COVID-19 จากข่าวใน Nature เกี่ยวกับการตรวจหาแอนติบอดี
21 Apr 2020
นักวิจัยในสหรัฐอเริกาพยายามพัฒนาวิธีการตรวจเลือดเพื่อช่วยให้ผู้คนหลุดพ้นจากการกักตัวอยู่บ้าน โดยให้เหตุผลว่าเพราะความเร่งด่วนในการควบคุมการระบาด เพื่อป้องกันการล้มตายของผู้คนที่มากขึ้นและให้ธุรกิจได้เปิดตัวอีกครั้ง จึงมีความสำคัญที่ต้องเริ่มลงมือทำเลย ในปัจจุบัน สหรัฐอเมริกาเป็นจุดศูนย์กลางของ COVID-19 โดยมีคนมากกว่า 42,000 คนที่เสียชีวิตจากโรคนี้ในช่วงเวลา 7 สัปดาห์
สัปดาห์ที่แล้วมีการเริ่มใช้วิธีตรวจ antibody ต่อเชื่้อ COVID-19 ในคนหลายแสนคน โดยคลินิกและแล็บที่เกี่ยวข้องกับเครือข่ายโรงพยาบาลใน เวอร์จิเนียร์ วอชิงตัน เคนตักกี มิชิแกน และโอไฮโอ
นักวิจัยมีความสนใจไปถึงกลุ่มที่ต่างกันของ antibody ที่อาจบอกได้ว่าบุคคลผู้นั้นมีภูมิคุ้มกันต่อการติดเชื้อ COVID-19 แล้ว ได้พยายามใช้วิธีตรวจ antibody เพื่อดูการกระจายของเชื้อในชุมชน และนักวิจัยบางคนให้ความเห็นว่านี่เป็นข้อมูลที่มีประโยชน์ในตอนที่ผลตรวจ PCR ทำยังไม่ได้หรือได้ช้า
การตรวจ antibody ต่อเชื่้อ COVID-19 เป็นการตรวจสถานะทางภูมิคุ้มกันส่วนบุคคล ซึ่งต่างจากวิธีตรวจด้วย PCR ที่ตรวจดูสารพันธุกรรมของเชื้อไวรัสโดยตรง แต่การทดสอบภาวะภูมิคุ้มกันของร่างกายต้องมีการแปลผลที่ต่างกันออกไป
ถ้าการตรวจ antibody ให้ผลคุ้ม การริเริ่มนี้จะเป็นต้นแบบให้รัฐอื่นๆ Keith Jerome ผู้อำนวยการของ clinical virology department ที่คณะแพทย์ของมหาวิทยาลัยวอชิงตันที่ซีแอตเติล ซึ่งเปิดบริการตรวจที่ทำได้ 15,000 การทดสอบต่อวัน กล่าวว่า "สิ่งหนึ่งที่เราเรียนรู้คือเราจะปล่อยให้ความสมบูรณ์แบบมาเป็นศัตรูของการทำดีไม่ได้ เราต้องลงมือทำ ถ้าเรารอให้มีคำตอบสำหรับทุกคำถาม เราจะไม่มีทางพร้อมภายในเวลาเพียงเดือนเดียว"
การตรวจแบบรวดเร็ว
ในช่วงกลางมีนาคม Rashid Chotani นักระบาดวิทยาชื่อดังที่ CareLife Medical ได้เช่าพื้นที่ของอาคารใน Merrifield เพื่อบริการตรวจ antibody แบบเร็ว โดยใช้วิธีเข็มเจาะปลายนิ้ว 10 นาทีในการตรวจคัดกรองสาธารณสุข กลุ่มแรงงานที่สำคัญ เช่นช่างก่อสร้าง รวมทั้งสมาชิกในครอบครัวผู้ติดเชื้อ หลายคนที่มาตรวจไม่สามารถไปตรวจวิธี PCR ได้เพราะรพ.จะตรวจให้เฉพาะผู้มีอาการเท่านั้น
การตรวจ antibody จะไม่ขึ้นในช่วงแรกของการติดเชื้อ แต่ Chotani แนะนำว่ายังมีประโยชน์สำหรับผู้ที่ไม่มีอาการแต่กลัวว่าจะส่งต่อเชื้อให้คนอื่นที่บ้านหรือที่ทำงาน โดยทั่วไป ระบบภูมิคุ้มกันจะสร้าง antibody เป็นช่วงๆในการต่อสู้กับผู้รุกราน ในช่วงแรกจะเป็น Immunoglobulin M ซึ่งสร้างอยู่ประมาณ 4-10 วันหลังจากติดเชื้อโคโรน่า Chotani เล่าถึงแพทย์ที่มาตรวจเมื่อสามอาทิตย์ก่อนให้ผลบวก IgM โดยเขาทำการตรวจซ้ำด้วย จากนั้นทำ nasal swab แล้วส่งไปยังแล็บเอกชนเพื่อยืนยันผลด้วยวิธี PCR แต่เนื่องจากต้องใช้เวลาอย่างน้อยสองวัน เขาแนะนำแพทย์ท่านนั้นให้งดตรวจคนไข้ ซึ่งขัดกับกฎของโรงพยาบาลหลายแห่งที่กำหนดให้แพทย์ พยาบาลทำงานยกเว้นเมื่อมีอาการหรือมีผลตรวจ PCR positive แต่บุคลากรหลายคนเป็นกังวลกับกฎนี้เพราะอัตราผู้ติดเชื้อโคโรน่าที่ไม่แสดงอาการสูงถึง 40% นี่คือ Chotani กล่าวว่า นี่คือปัญหาที่เรากำลังเผชิญ
ในเอกสารที่ส่งถึงผู้จัดทำนโยบายในหกมลรัฐ เขาและทีมงานแนะนำวิธี rapid antibody test ซึ่งจะช่วยลดการแพร่ของเชื้อในที่ทำงานซึ่งไม่สามารถตรวจคัดกรองคนด้วยวิธี PCR
แต่มีอีกปัญหาคือผลตรวจ rapid antibody สามารถผิดได้ โดยวิธีที่ Chotani ใช้นี้มีโอกาสให้ผลบวกลวง 2% และ ผลลบลวง 15% ตามที่ระบุโดย Boston Biopharma ผู้ผลิต ในช่วงเดือนที่ผ่านมามีการทดสอบ antibody ผลิตมาประมาณ 70 กว่าชนิดและยังไม่ได้ผ่านการตรวจสอบความแม่นยำโดย FDA ซึ่งเป็นเหตุผลที่ FDA และ WHO จึงให้ใช้เฉพาะการทดสอบที่ใช้ PCR เท่านั้นในการยืนยันผลตรวจการติดเชื้อ
ซึ่งเป็นจุดที่มีการโต้เถียงกันอยู่ แต่ประเทศจีนได้อัพเดตแนวทางดูแลโรคนี้ใหม่ ให้ใช้ผล IgM positive เป็นการระบุการติดเชื้อโคโรน่าด้วย และมีผู้เชี่ยวชาญหลายรายยอมรับความไม่สมบูรณ์แบบเนื่องจากสภาพความฉุกเฉินของสถานการณ์ การขาดการตรวจรวมทั้งแนวโน้มความไม่แม่นยำวิธี PCR Ranu Dhilon ผู้เชี่ยวชาญของ Harvard Medical School ในบอสตัน แมสซาจูเสต ก็ระบุว่า เขาก็จะอยู่บ้านถ้าหากเขามีผลตรวจ IgM positive ด้วยวิธีที่เชื่อถือได้ ยกเว้นในสถานการณ์ที่เหมือนสงครามที่ทุกคนต้องมารวมตัวช่วยกัน ผมก็จะถือว่าตัวเองติดเชื้อจนกว่าจะมีอะไรพิสูจน์ว่าไม่ใช่
การตรวจคัดกรองเพื่อป้องกัน
การตรวจภูมิคุ้มกันต่อ COVID-19 ก็มีปัญหา ในช่วงสัปดาห์ที่แล้ว นักการเมืองทั่วโลกเริ่มสนใจภูมิคุ้มกันที่ร่ากายสร้างในช่วงที่สอง ที่เรียกว่า IgG เพราะความหวังว่า antibody ชนิดนี้อาจป้องกันบุคคลจากการติดเชื้อซ้ำ ร่างกายจะสร้าง antibody ชนิดนี้อย่างช้าๆโดยจะจำเชื้อที่ติดมาก่อนนั้นได้ ในบางโรค IgG สามารถทำให้ไวรัสที่เคยติดมาก่อนไม่สามารถทำอันตรายเซลล์ได้อีก
ในรัฐเคนตักกี้ Aruni Bhatnagar นักวิทยาศาสตร์ด้านสุขภาพสิ่งแวดล้อมของมหาวิทยาลัย Louisville ช่วยโน้มน้าวให้บุคลากรสาธารณสุข
6,000 คนทำการทดสอบ ด้วยการทดสอบแอนติบอดีอย่างรวดเร็วโดย Cellex และ Becton Dickinson เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลมีความเสี่ยงสูงต่อการติดเชื้อ โดยในการนี้ทีมสามารถเก็บข้อมูลได้ด้วยว่าผู้ที่ทดสอบผลบวกต่อ IgG จะมีความเสี่ยงจากการติดเชื้อ COVID-19 ลดลงหรือไม่
ทีมของ Bhatnagar ยังทำการทดลองเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวอย่างเลือดที่มี IgG positive โดยวัดระดับแอนติบอดีด้วยวิธีการตรวจที่ซับซ้อนมากขึ้นที่เรียกว่า ELISA และทำการประเมินว่าแอนติบอดี IgG สามารถยับยั้งการติดเชื้อของเซลล์ในจานเลี้ยงเชื้อได้หรือไม่ หากทำได้ นักวิจัยจะขอให้บุคคลที่ให้ตัวอย่างมาบริจาคเลือด เพื่อทำธนาคารพลาสมาซึ่งพวกเขาหวังว่าจะช่วยรักษาผู้ป่วย COVID-19 ได้ “เรายังไม่ได้รับผลกระทบจากโรคนี้อย่างรุนแรงในตอนนี้ ทำให้เราสามารถทำวิจัยในรัฐเคนตักกี้เพื่อช่วยสหรัฐอเมริกาได้” Bhatnagar อธิบาย
ในช่วงเดียวกันนักวิจัยที่ Beaumont Health ในดีทรอยต์ รัฐมิชิแกนกำลังตรวจคัดกรองแพทย์ นักเทคนิค และเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลอื่น ๆ 38,000 คน ดูระดับแอนติบอดี IgG โดยใช้วิธี ELISA จาก EuroImmun การทดสอบนี้จะช่วยให้รู้ว่าต้องมีระดับของแอนติบอดีเท่าใดจึงจะสามารถป้องกันการติดเชื้อได้
เลือดจากผู้รอดชีวิตจาก coronavirus อาจจะช่วยชีวิตได้อย่างไร
ในเมืองเหล่านี้นักวิจัยกำลังตรวจสอบสถานะแอนติบอดีของแต่ละคน แต่ทำอย่างระมัดระวัง พวกเขากล่าวว่าผู้คนรู้สึกสบายใจที่ได้รับข้อมูลเพิ่มเติมในเวลาที่สับสนนี้ – แม้ว่าสิ่งนั้นจะมีความไม่แน่นอนตามที่มีอยู่แล้วในกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ แต่นักวิทยาศาสตร์หลายคนยังคิดว่ามันเร็วเกินไปที่จะใช้การทดสอบเหล่านี้และบอกผลออกไป Amy Lockwood ผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขของกรมอนามัยซานฟรานซิสโกในแคลิฟอร์เนียกังวลเกี่ยวกับความไม่ถูกต้องหรือการก่อให้เกิดความสับสน เธอกล่าวว่า "ในตอนนี้ มีเพียงการทดสอบ PCR สำหรับไวรัสเท่านั้นที่ยืนยันได้ว่ามีเชื้อจริง ทุกอย่างอื่นๆเป็นเพียงการคิดคาดคะเนเอาเท่านั้น”
การตรวจแอนติบอดีเป็นการทดสอบยืนยันตามความคิดความเชื่อของนักวิทยาศาสตร์ เป็นข้อสังเกตจาก Scott Boyd นักภูมิคุ้มกันวิทยาที่มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดในแคลิฟอร์เนีย “ บางคนรู้สึกไม่สบายใจอย่างมาก เพราะเรายังไม่มีข้อมูลอีกมาก” เขากล่าว“ และบางคนก็บอกว่านี่คือสิ่งที่ดีที่สุดที่เราสามารถทำได้ในตอนนี้ ดังนั้นยังไงก็มาลงมือทำกันเถอะ”
ความเห็น (1)
ขอบคุณอยางมากมายค่ะคุณโอ๋อยากรู้แต่ไม่มีเวลาและความสามารถที่จะอ่านและเรียบเรียงได้อย่างสมบูรณ์และรวดเร็วแบบคุณโอ๋ค่ะ
ดูแลสุขภาพอย่างยิ่งยวดนะคะ