วิกฤติเป็นโอกาส การแนะนำให้คนอยู่บ้าน การทำงานที่บ้าน การประชุม online ทำให้คนชอบอยู่บ้านมากขึ้น การอยู่บ้านสิ่งที่ต้องทำ คือ ทำเองทุกอย่าง
- ทำกิน ตั้งแต่ทำอาหารเอง ปลูกผักกินเอง จัดระบบอาหารภายในบ้าน แต่ในหมู่บ้านมีกิจการค้าขายในไลน์ ก็สะดวกอีกแบบสำหรับคนทำงานและผู้สูงวัย ดังนั้นลูกเขาทำแปลงผักง่ายและเห็นไปทำสวน ปลูกกล้วย ปลูกมะม่วง มะพร้าว สูงสุดคืนสู่สามัญ กลับไปใช้ชีวิตแบบเดิมที่เคยเป็นเด็ก แต่สะดวกสบายกว่า มีรถยนต์ใช้
- บ้านลูกที่ นนทบุรี ปลูกผักสวนครัว มีมะละกอพันธุ์ดี ได้แบ่งคนข้างบ้านเยอะแยะเลย
- ทำงานบ้านเอง ซักผ้า ถูบ้าน เก็บกวาดบ้านให้สะอาด
- การอ่าน การเขียน มากขึ้นด้วย
- ผ่อนคลายอ่านไลน์ อ่านเฟสบ้างแต่อย่าติดมาก
- การบันเทิง หนัง online จาก netfix, VIU ที่เราดูอยู่ก็ดี
- การค้าขาย online แต่วัยเราไม่ค่อยนิยม ต้องให้ลูกทำให้ เห็นลูกค้าขายออนไลน์บ้าง ดูมีความสุขควบคู่กับการทำงาน
- การจ่ายค่าน้ำ ค่าไฟ จาก web ทำได้ ลูกทำให้
- การซื้อตั๋วเครื่องบิน จาก web ได้นานแล้ว แต่การจัดการค่อนข้างยากต้องพยายามทำเวปให้ผู้สูงวัยทำได้แบบง่ายๆ
- ทำใจด้วย จากพิษเศรษฐกิจ ทำให้ลูกต้องหางานกันใหม่ (มิย และ ธค 2563) แต่เห็นมีบริษัทอื่นติดต่อให้ไปทำงานแล้ว เพราะเราเชื่อมั่นในลูกว่า เป็นคนมุ่งมั่น ตั้งใจ ทำงานได้รางวัลคนทำงานดี ดูจากช่วงนี้ เมษายน 2563 ต้องทำงานที่บ้าน ก็เห็นรับผิดชอบทำงานเหมือนทำงานที่ทำงาน ทำงานสำเร็จตามภาระงาน ตั้งแต่ 8.00-16.45น. การมีวิกฤติแบบนี้ทำให้เราทำใจได้ง่ายขึ้น เราได้เห็นลูกเติบโต บางทีอาจทำให้ลูกทำสิ่งอื่นได้ดี ไม่ต้องอยู่แค่บริษัทเดียวทั้งชีวิต
- ตัวเราเองก็ไม่เบื่อ ได้อยู่กับลูก หลาน ทำอาหาร ทำงานบ้าน ตัดชุดให้หลาน ได้อ่านงานวิชาการ ได้เป็นทีมถอดบทเรียนอาสาจากกลุ่มกักตัว ได้จัดห้องตัวเองที่บ้านลูกห้องเดียวแบบไม่รกตา มีเสื้อผ้าพอประมาณ ทำให้เห็นว่า ห้องเดียวก็อยู่ได้และชอบด้วย
- ออกกำลังกายส่งแคลอรีให้เพื่อนทุกวัน
- มีเงินจากบำนาญ พอใช้ถ้าไม่ฟุ่มเฟือย
- อื่นๆ
สรุป โควิท 19 ทำให้คนเราเปลี่ยนพฤติกรรมได้ไปในทางที่ดีค่ะ
................................
แก้ว บันทึก 21 เมษายน 2563