ไม่เกิน 40 นาทีที่ผ่านมาค่ำวันนี้ ผมมีโอกาสสนทนากับพี่คนหนึ่ง ท่านเคยอยู๋แวดวงการนิติกร สอบสวนวินัยครูระดับประเทศ จังหวัด โดยการเริ่มสนทนามาจากข่าว จับ ผอ.ร.ร.ที่ฆ่าเด็กก่อนวันเด็ก ฆ่าคนเพียงเพื่อเอาทองที่ร้านทอง อย่างไรก็ดี ข่าวอย่างเป็นทางการ ยังไม่มีการแถลงและจะมีความเป็นทางการ 10.30 น.วันที่ 23 ม.ค.2563 แต่แบบไทย ๆ เพราะอยู่ในความสนใจ มีข่าวออกแบบไทย ๆ หลายช่องทางมาก
พี่คนที่สนทนาบอกว่า ท่านเอ้ยผมเคยเจอมาแล้ว น่านบ้านเรา น่านจะก่อนปี 2533 เขาต่อสู้คดีกันมานาน ศาลน่านตัดสินประหารชีวิต ศาลอุทธรณ์ตัดสินเหมือนศาลน่าน ภาษากฎหมายเรียกว่า พิพากษายืน แต่ที่สุดศาลฎีกาพิพากษายกฟ้อง ผมไม่รู้รายละเอียดมาก่อนมาก มาทราบภายหลังว่า อดีตจำเลยมายื่นเรื่องขอกลับเข้ารับราชการ แวดวงการครูหลงดีใจว่าเหมาะสมแล้วที่๋ประหารชีวิต คนในพื้นที่เขารู้กันแต่ตามถ้อยคำสำนวนเราไม่รู้ เมื่อศาลสุดท้ายยกฟ้องมันก็คงต้องตามนั้น มันคือะไร ผู้ใหญ่ที่ทำเรื่องบอกว่า ที่สุดของกฎหมายตัดสินยังงัยตามนั้น ไม่ต้องไปคิดมาก
ทำให้ผมคิดว่า เกี่ยวกับข่าวที่ยังไม่การแถลงอย่างเป็นทางการ ผู้รับสื่อรู้เรื่องจากสื่อสารพัด ข่าวคือข่าว ที่สุดของกฎหมาย ยังไม่ให้เห็นอีกว่า หมอที่ว่า่แน่ ๆ ติดคุกโทษอย่างหนักยังออกมาได้ แล้วกรณีที่เป็นข่าวโด่งดังนี่ละ อีกหน่อยสังคมคงลืม แบบไทย ๆ แล้วที่กัลยาณมิตรเล่าให้ฟังค่ำวันนี้ล่ะ ศาลฎีกาเห็นต่างจากศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์ ผมเลยบอกว่า สำหรับผมธรรมดา เนื่องจากแวดวงการกฎหมาย เขาไม่ได้เอาข่าวมาผูกไว้ในสำนวน เขาว่ากันไปตามถ้อยคำและพยานหลักฐานในสำนวน โดยไม่รับฟังความจริงนอกสำนวนมากลงโทษ หรือยกฟ้อง
ถือว่าเป็นบทเรียนเก่ง ๆ กันทั้งนั้นวันให้ข่าว แต่ที่สุดก็ลืม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ลืมเรื่องดี ๆ และลืมเรื่องคนที่เคยทำคุณงามความดี
22.01.2563
ไม่มีความเห็น