เป็น "คนเปิด" หรือเป็น "คนปิด"


หนังสือพิมพ์มติชนคอลัมน์ "กระบวนทัศน์ พัฒนาคน" กับ "เปิดใจให้กว้าง ทุกอย่างอยู่แค่เอื้อม" โดยคุณรัศมี ธันยธร ผอ.ศูนย์ความคิดสร้างสรรค์

วันนี้ขณะที่ผู้เขียนนั่งรอรายงานผลการตรวจวิเคราะห์ ก็ตามสไตล์ค่ะชอบทำงานมากกว่าหนึ่งชิ้นในเวลาเดียวกัน เลยเลือกหยิบหนังสือพิมพ์มติชนมาอ่าน แล้วมาสะดุดกับ คอลัมน์ "กระบวนทัศน์ พัฒนาคน" กับ "เปิดใจให้กว้าง ทุกอย่างอยู่แค่เอื้อม" โดยคุณรัศมี ธันยธร ผอ.ศูนย์ความคิดสร้างสรรค์ เป็นหน้าหลัง ๆ เลย (29 ของฉบับวันที่ 15 ธ.ค. 49)  แต่ด้วยความที่ชอบอ่านหนังสือจากหลังมาหน้า เราก็เลยไม่พลาดของดี ๆ

ผู้เขียนขอสรุปโดยย่อ ๆ ว่า.....

โดยธรรมชาติลึก  ๆของคนเหมือนกันอยู่อย่างหนึ่งคือ ทุกคนอยากประสบความสำเร็จในชีวิต สามารถพึ่งตนเองและช่วยเหลือผู้อื่นได้เมื่อมีโอกาส แต่หากใครมาชักชวนอะไรใหม่  ๆที่ไม่เคยชิน เรามักจะปฏิเสธทันทีในตอนแรก เพราะไม่อยากทำอะไรที่ไม่เคยทำ ซึ่งเป็นเรื่องปรกติ แต่เมื่อใดที่เราย่ำอยู่กับที่ ไม่กล้าเปิดรับสิ่งใหม่ ก็จะไม่สามารถพัฒนาตนเองเพื่อนำชีวิตสู่ความสำเร็จได้ ดังนั้นหากอยากมีชีวิตก้าวหน้า เราต้องมุ่งมั่นพัฒนาตนเอง อย่างแรกที่ควรทำคือ การเปลี่ยนแปลงตนเองให้เป็น "คนเปิด" แทนที่จะเป็น "คนปิด" ที่ปิดประตูไม่ยอมรับความเปลี่ยนแปลง

"คนเปิด" คือคนที่เมื่อได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบงานที่ไม่เคยทำมาก่อน ครั้งแรกจะปฏิเสธ ไม่อยากทำ (นึกถึงตัวเองเลย) แต่ก็ยอมเปิดใจรับฟังเหตุผลและพิจารณา เมื่อเห็นว่างานนั้นช่วยให้พัฒนาขีดความสามารถ และสร้างความเจริญก้าวหน้าให้กับองค์กรและตนเอง คนเปิดก็สามารถฝืนความรู้สึกของตนเองได้ และตั้งใจทำงานที่ได้รับมอบอย่างเต็มความสามารถจนงานนั้นสำเร็จและกลายเป็นงานที่เจ้าตัวคุ้นเคยในที่สุด

"คนปิด" จะปิดประตูใจ ปิดกั้นตัวเองทันที และจะแย้งทันทีว่าฉันทำไม่ได้ ไม่เหมาะสมและไม่ควรทำเป็นอย่างยิ่ง และเมื่อปิดใจเสียแล้วก็ไม่ต้องพูดถึงเหตุผลใด ๆ ที่จะโน้มน้าวให้เขายอมรับและพัฒนาตนเองได้

ถ้าถามคนทั่วไปคำตอบก็คือเป็นคนเปิด 95 % อีก 5% ก็จะตอบว่า "ขึ้นกับสถาณการณ์" สิ่งที่คิดอาจจะไม่ใช่สิ่งที่ทำก็ได้ แต่คนที่ฉลาดจะผลักดันแรงใจของตนเองให้ทำในสิ่งที่ดีงาม ตามที่คิดให้บรรเป้าหมายที่วางไว้ แม้จะขัดกับความเคยชินเดิม ๆ และอารมณ์ลบที่คอยค้านอยู่ร่ำไป ซึ่งคนที่คิดอย่างนี้จะสามารถพัฒนาตนเองให้เจริญก้าวหน้าและประสบความสำเร็จได้ไม่ยาก

ฉะนั้นใครที่รู้ตัวว่าเป็นคนปิด ยังไม่สายที่จะปรับปรุงและพัฒนาตนเองให้เป็นคนเปิด ที่สามารถตั้งรับความเปลี่ยนแปลงใหม่ ๆ หรือปรับตัวได้กับสถาณการณ์ใหม่ ๆ ในทุกรูปแบบ ขอเพียงแต่ให้เราเปิดใจกว้าง สร้างมุมมองใหม่ แล้วจะพบว่าความสำเร็จอยู่แค่เอื้อม

อ่านแล้วรู้สึกกระแทกใจอย่างแรง และลองวิเคราะห์ตัวเองก็พบว่าน่าจะเป็น เปิด ๆ ปิด ๆ บางครั้งเปิดมากกว่าปิด บางครั้งก็ ปิดมากกว่าเปิด เอ๊ะ ! หรือจะเป็น ลักเปิดลักปิด คงต้องไปหาวิตามินมากินซะแล้ว 

หมายเลขบันทึก: 67450เขียนเมื่อ 15 ธันวาคม 2006 13:20 น. ()แก้ไขเมื่อ 30 เมษายน 2012 21:17 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)
เป็นคนเปิดค่ะ...แต่วิธีการเปิดของเราแตกต่าง หากประเมินคุณศิริว่าเป็นคนปิด...ซะแล้ว...ในโลกนี้จะมีคนที่เปิดหรือเปล่าหนอ...สงสัย

เป็นคนกึ่งๆ ค่ะ

จะปิดก็ดูไม่ดี  จะเปิดก็ยังกล้าๆ กลัวๆ  เลยแค่แง้มๆ ไว้ก่อน

คงจะเป็นคนประเภทเดียวกับพี่นิดหน่อยคะ แบบ ปิดๆ เปิดๆ  คงไม่เปิดซะทีเดียว

คุณเมตตาค๊ะ ไม่ต้องสงสัยหรอกค่ะ ผู้เขียนว่ายังไง๊ยังไง ในโลกนี้ก็คงมีคนเปิดมากกว่าคนปิดนิ ไม่งั้นเราคงยังอยู่ในยุคหิน ยุคถ้ำอยู่เลยนิ ผู้เขียนคงเป็นประเภทแบบเปิดค่ะ--เข้าข้างตัวเองไปรึเปล่า ?? เพราะหลายเรื่องหลายราว ไม่อยากทำก็ทำมาหมดแล้วทั้งน๊าน...เฮ้อ เหลือก็แต่ยังไม่ค่อยชิน แต่ที่แน่ ๆ หากเป็นลักเปิดลักปิดค่ะ ต้องรับหาวิตามินมากินบำรุง..

คุณ nidnoi และคุณจ๊ะจ๋าค๊ะ เป็นแบบกึ่ง ๆ หรือแง้ม  ๆ ก็ยังดีกว่าปิดตาย เอ๊ยปิดสนิท หรือปิดไปเลย

 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท