เซ็กส์สมดุล



เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา มีนักจัดรายการวิทยุที่กรุงเทพฯมาขอสัมภาษณ์เรื่อง “เพศสัมพันธ์” โดยเค้าขอคุย ๒ เรื่อง คือการมีเซ็กส์ในช่วงสูงวัย ซึ่งคุยไปคุยมาก็กลายเป็นเซ็กส์ในช่วงวัยรุ่น วัยกลางคน และเข้าสู่ช่วงเกษียณอายุการทำงาน ปนกันไปหมดอย่างกลมกลืน และอีกเรื่องคือการมีเซ็กส์ในขณะตั้งครรภ์

มาแบบนี้ผมก็สนุกสิครับ แต่คนสัมภาษณ์และคนฟังจะสนุกด้วยหรือไม่นั้นก็ไม่รู้ได้จริงๆ ผมน่ะ พูดไม่ค่อยเก่ง

มีอยู่คำถามหนึ่งที่ถามว่า “มีเพศสัมพันธ์บ่อยแค่ไหนจึงจะเรียกว่าปกติ” 

ผมก็ตอบไปว่า “ไม่รู้สิ” 

ก็จะไปรู้ได้อย่างไรเล่า ในเมื่อเรื่องแบบนี้มันต้องถามคนที่มีเซ็กส์ด้วยกันไง ว่าเขาโอเคกันไหม
หากผู้ชายต้องการมีเซ็กส์วันละครั้ง แล้วผู้หญิงไม่โอเค เพราะมันเหนื่อย ไม่สนุก เพลีย แบบนี้ก็เรียกว่าไม่สมดุล ไม่ปกติ แต่หากบ้านไหนเค้าต้องการมีเซ็กส์กันเดือนละครั้ง โดยที่แต่ละครั้งก็ทำให้ทั้งคู่อิ่มหมีพีมัน ไม่มีการสะกิดแล้วอีกฝ่ายไม่ตอบสนอง อย่างนี้คนอื่นอาจจะว่าน้อยไปไหม แต่เค้าโอเคไง โอเคทั้งหญิงและชาย เราก็เรียกว่า สมดุล เรียกว่าปกติ

“อ้าว แล้วอย่างนั้นเราจะรู้ได้อย่างไรล่ะครับ ว่าแบบเรานี่ปกติไหม” คนสัมภาษณ์ถามผม
“คุยไงครับ ก็คุยกัน ผัวเมียไม่คุยกันแล้วจะให้ใครมาคุยให้” ผมหมายความอย่างนั้นจริงๆ เรื่องนี้ต้องสื่อสาร

บางบ้านอาจจะจัดเป็นโควต้า กี่ครั้งต่อเดือน อันนี้เหมือนเป็นบ้านนักคณิตศาสตร์ ทุกอย่างต้องเป็นตัวเลขที่จับต้องได้ เช่น ๔ (ทำไมต้องเลข ๔ วะ?) แค่นี้ยังไม่พอ เพราะหากในบางเดือนที่ไม่ได้ตามโควต้า ก็ยังต้องมาคุยกัน ว่าจะให้ชดหรือไม่ให้ชด หรือจะให้ปล่อยลืมๆมันไป ผมนี่รู้สึกขำปนสงสาร แต่มันก็เป็นข้อตกลงในครอบครัวเขานี่นา ถ้ายังรักกัน มีอย่างอื่นให้คิด ให้รัก ให้กอด มันก็ทำให้ครอบครัวไปต่อได้ มีอะไรให้ทำอีกตั้งมากมายที่ไม่ใช่เรื่องเซ็กส์นี่นา อย่าลืม
ในขณะที่บางบ้านอาจจะต้องการการมีเซ็กส์ทุกวัน มันอาจจะเป็นคล้ายๆกับยาคลายเครียด ยานอนหลับ ยาคลายเส้น เพราะเอ็นมันตึง หรืออะไรสักอย่างที่เขาขาดมันไม่ได้ เมื่อไหร่ที่สามีต้องการแล้วภรรยาบอกว่ายินดี ไม่ว่าจะกี่ทีกี่ทีก็โอเคทุกครั้ง อยากมีที่โซฟาก็ได้ อยากมีที่โต๊ะกินข้าวในครัวก็เสิร์ฟ หรือจะมีในห้องน้ำบ้างก็สนุกด้วยกันแบบเปียกๆเมือกๆ แบบนี้ก็เป็นเรื่องน่ายินดี 

เรียกได้ว่า “ศีลเสมอกัน” ได้ใช่ไหม
.........................

“พี่มีอะไรจะให้ผมช่วยครับ” ผมดูอายุของคนไข้ก่อนที่จะตัดสินใจเรียกเธอว่า “พี่” 
พูดไปก็รู้สึกทอดถอนใจ เพราะเดี๋ยวนี้ หากคนไข้มีอายุราว ๕๐ กลางๆ ต้องใช้สรรพนามเรียกคนไข้ว่าพี่เสียแล้ว

“หมอที่คลินิกนู้นเขาบอกให้พี่มาหาคุณหมอเพราะพี่บอกเค้าไปว่ามีอาการปัสสาวะเล็ดและมีก้อนโผล่ออกทางช่องคลอดค่ะ มันเจ็บๆแสบๆ เวลาปัสสาวะก็รู้สึกว่าไม่เหมือนเมื่อก่อน เวลามีเพศสัมพันธ์มันก็จะรู้สึกเจ็บๆถ่วงๆ” เธอสาธยายอาการไม่สบายให้ผมฟัง ว่าแล้วก็รีบสรุปในใจไปล่วงหน้า ว่าอาการแสบๆที่ว่าอาจจะเกิดจากช่องคลอดแห้งในกลุ่มอาการสตรีวัยทองอย่างที่คนอื่นๆรุ่นราวคราวเดียวกับเธอมาบ่นให้ฟัง

“พี่มีเซ็กส์กับสามีบ่อยแค่ไหนครับ” ที่ถาม ก็เพื่อเป็นการประเมินและเตรียมหาลู่ทางในการช่วยรักษา

“ก็ไม่ค่อยบ่อยนะคะ” เธอบอกหน้าตาสดใส เออว่ะ..หน้าตาของพี่คนนี้สดใสจริงๆ ผิวหน้าเต่งตึง รอยยับย่นบนใบหน้ามีน้อยมาก หากเทียบกับหน้าหมอของเธอกันเป็นตารางเซนติเมตรต่อตารางเซนติเมตร หมอของเธออาจจะมีริ้วรอยมากกว่าเสียอีก 

“ราวครั้งหนึ่งต่อสัปดาห์ได้ไหมพี่” ผมถาม

“ราวๆ สองถึงสามครั้งค่ะ” เธอบอก
“ต่อเดือนใช่ไหม” ผมมั่นใจ จึงถามย้ำ
“ต่อสัปดาห์ค่ะ” เธอยิ้ม
“ตั้งแต่อายุมากขึ้น กำลังวังชาก็เริ่มลดน้อยลง จึงร่วมกันได้ราวสามครั้งต่อสัปดาห์ อาจจะมีบางโอกาสที่ได้สักห้าครั้ง” เธอยังคงเล่าให้ฟังอย่างต่อเนื่อง

“ครับ อย่างนี้สมัยที่เป็นหนุ่มสาวก็คงมีเซ็กส์กันทุกวันเลยสินะครับ มิน่า ผมจึงรู้สึกว่าพี่หน้าตาผ่องใส ผิวพรรณดูไม่ค่อยจะมีริ้วรอย” มันเกี่ยวกันด้วยเหรอ อาจจะมีคนสงสัย ผมก็จะตอบว่า “ใช่” เพราะหากการมีเพศสัมพันธ์นั้นคือความสุข มันคือการออกกำลังกาย หัวใจได้สูบฉีดรุนแรง แถมการถึงจุดสุดยอดทางเพศยังทำให้เราเสพความสุขได้ อย่างนี้ก็สามารถเรียกมันได้ว่าคือ “ยาวิเศษ” อ่านให้ดีนะครับ ต้องมีอย่างมีความสุขด้วยนะครับ ไม่ใช่การถูกขืนใจเพราะสามีหื่น

“แหม..คุณหมอคะ วันละครั้งนี่พี่ว่าคงจะน้อยไปไหมคะ” เธอหยุดนิดหนึ่ง
“เดือนๆหนึ่ง เรามีเพศสัมพันธ์กันเกิน ๙๐ ครั้งเห็นจะได้”
ผมรีบคำนวณในใจ ๙๐ ครั้งหาร ๓๐ วัน นั่นมันคือวันละ ๓ ครั้งชัดๆ

รู้สึกวันนี้น้ำลายเหนียว ผมจิบน้ำชาเล็กน้อยก่อนจะพูดต่อ

“โห แล้วทำกันยังไง ตอนไหนเหรอครับ”

“ก็ตอนเช้า ก่อนนอน และตอนดึกๆค่ะ นั่นคือแบบปกตินะคะหมอ หากวันไหนเราครึ้มใจ ก็จะแถมตอนเที่ยง และตอนบ่ายด้วยค่ะ” 
ผมจิบน้ำชาอีกรอบ คอมันแห้งผาก

“แล้วช่องคลอดพี่ไม่ระบมแย่เหรอครับ” ผมนึกเห็นภาพช่องคลอดของคนไข้ผมคนหนึ่งเมื่อนานมาแล้ว คนที่สามีเธอต้องการมีเซ็กส์กับเธอวันละ ๓ ครั้ง เธอมีความทรมานมาก ช่องคลอดของเธอแสบระบม มันแห้งและมีผิวแตกเหมือนทุ่งนาขาดน้ำ 
“ไม่หรอกค่ะ มันมีน้ำหล่อลื่นดีจะตาย เวลาสามีมาสะกิด พี่จะตื่นเต้นไปกับเขาด้วยทุกครั้ง สนุกด้วย มันดีจริงๆนะคะหมอ” ผมเชื่อตามนั้น เพราะแววตาของเธอมันลุกโชน

“พี่ถึงทุกครั้งไหมครับ” ผมหมายถึงออร์กัสซั่ม
“ไม่ทุกครั้ง แต่ก็เกือบแหละค่ะ อย่างในช่วงเช้าๆ บางทีมันยังง่วงอยู่ ยังจัดการอารมณ์ได้ไม่ดีเท่าไหร่นัก แต่ส่วนมากก็ถึงค่ะ สามีพี่เค้าจัดการให้จนเสร็จแหละ” 

“สุดยอดครับพี่” ผมพูดได้เพียงเท่านี้จริงๆ

“แล้วทำไมมาช่วงนี้จึงทำได้ลดลงล่ะครับ” สงสัยไหม จากวันละ ๓-๔ ครั้ง มาเหลือ ๓-๕ ครั้งต่อสัปดาห์

“บางพี่ก็รู้สึกเจ็บตรงก้อนนั้นไงคะหมอ พอมันเกิดเจ็บขึ้นมา อารมณ์มันก็จะหายไป แล้วแฟนพี่ก็รู้สึกสงสาร”

“แสดงว่าก็ไม่ได้เจ็บทุกครั้งสินะครับ”

“ค่ะ แต่ก็เกือบทุกครั้งแหละ พี่ก็พยายามไม่บอกเขาหรอกนะคะ เพราะเห็นเขามีความสุข และอันที่จริงพี่ก็สุขด้วยมากเหมือนกัน” เธอหัวเราะออกมานิดหนึ่ง

“เดี๋ยวผมขออนุญาตตรวจภายในดูสักนิดนะครับ ดูไอ้ก้อนที่พี่ว่ามา และจะตรวจแรงขมิบช่องคลอดสักหน่อย” 

“เรื่องแรงขมิบ หมอไม่ต้องห่วงเลยค่ะ เดี๋ยวนี้พี่ยิ่งขมิบเก่ง เวลาเรามีเพศสัมพันธ์กันแล้วพี่รู้สึกเจ็บ พี่ก็จะขมิบช่องคลอดแรงๆ แฟนพี่ก็จะถึงจุดสุดยอดเร็วขึ้น” 
“อื้อหือ มันคือการจัดการปัญหาที่แสนจะฉลาดยิ่งนัก” ผมอดที่จะชมออกมาดังๆไม่ได้

ผมประเมินช่องคลอดจากการตรวจภายใน ประเมินความแข็งแรงของกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน ซึ่งพบว่ากล้ามเนื้อช่องคลอดของเธอกระชับจริงๆอย่างที่คิดไว้ อะเมซิ่งมาก!

เราคุยกันเรื่องการวินิจฉัยโรค แผนการรักษา ภาวะแทรกซ้อนที่อาจจะเกิดขึ้นอยู่อีกระยะหนึ่ง

“พี่คิดว่า สัปดาห์ละ ๓ ครั้งนี่ สามีพี่จะไม่ไปนอกบ้านเหรอ” เวรล่ะสิ เสือกถามออกไปทำไม
“เราอยู่ด้วยกันทั้งวันค่ะหมอ เค้าเป็นคนดี ไม่กินเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ไม่เล่นพนัน แถมพี่ก็ยังตอบสนองเขาได้ทุกครั้ง เพียงแต่เขาสงสารที่พี่มีอาการเจ็บตรงก้อนที่มันโผล่ออกมา พี่จึงมาให้หมอช่วยนี่ไง” ออ..เข้าใจ ผมนี่อยากตบปากตัวเองสักสองที

“แต่งงานกันมานานเท่าไหร่แล้วเหรอครับ” ยัง ยังอยากจะรู้เรื่องเขาไปอีก

“ตั้งแต่พี่ยังไม่ถึงยี่สิบค่ะ ตอนนั้นเค้ามาจีบพี่ แล้วพี่ก็รักเค้านะคะ เลยออกจากโรงเรียนแล้วตามเค้ามาเลย” 
“เฮ้ย..แล้วอย่างนี้พ่อกับแม่ไม่ว่าเอาเหรอพี่”
“ไม่ค่ะ พ่อกับแม่ของพี่เค้าก็แยกกันอยู่ พี่ก็แยกออกมาเรียนไกลบ้าน ตอนที่ตามเค้ามาก็บอกพ่อนะคะ พ่อก็ไม่ได้พูดอะไร พี่ว่าแกคงพูดไม่ออก แต่พี่รักเค้านี่คะ” 
แหม่..ยังกะนิยาย

“ตอนนั้นไม่กลัวเค้าทิ้งเหรอครับ” ที่ถามก็เพราะเห็นมาเยอะ พวกวัยรุ่นที่รักกันปานจะเข้าสิงร่าง อยู่ไปพอได้ลูกก็เลิกกันไปเยอะแยะตาแป๊ะไก่

“ไม่นะคะ เพราะหากเค้าทิ้ง พี่ก็ทำงานเลี้ยงตัวได้ แต่นี่เค้าไม่ทิ้ง พี่เป็นแม่บ้านเต็มตัว เรียกง่ายๆเลยว่าผัวเลี้ยงร้อยเปอร์เซ็นต์ พี่ว่าพี่โชคดีจริงๆค่ะหมอ”

“ครับ ผมก็มั่นใจว่าพี่โชคดี” ผมเขื่อเช่นเดียวกัน ว่าเธอโชคดี ไม่ใช่สิ ผมกลับรู้สึกว่า เขาทั้งคู่โชคดี เขามีครอบครัวที่ดี มีงานเลี้ยงชีพ มีลูกที่ดี และมีชีวิตเซ็กส์ที่ผมเชื่อว่าคงมีหลายคนอิจฉา

มีเซ็กส์กันเดือนละกว่า ๙๐ ครั้งมาตลอดเกือบ ๓๐ ปี ผมแอบคูณเลขในหัวก็ตกราวๆ ๓๒๔๐๐ ครั้ง และหากในแต่ละครั้งหลั่งน้ำอสุจิคราวละ ๓ ซีซี ก็คาดว่าหลั่งออกไปแล้ว ๙๗๒๐๐ ซีซี หากรวบรวมน้ำอสุจินั้นมาชั่งน้ำหนักก็จะได้น้ำหนักราวเกือบร้อยกิโล เอาเหอะ จริงๆแล้วมันก็ไม่ถึงขนาดนั้นหรอก เพราะในช่วงปีหลังๆนี้ เขาทำได้เพียง ๓-๕ ครั้งต่อสัปดาห์เท่านั้น!

“นี่ผมเป็นนักคณิตศาสตร์ไปตั้งแต่เมื่อไหร่วะ?” เอ๊ะ..

หึหึ...ได้โปรดอย่าถามผม ว่าอิจฉาชีวิตการมีเซ็กส์ของคู่นี้หรือไม่ เพราะหากจะต้องให้ทำกันทุกวันอย่างตอนนี้ หรือต้องทำกันสักสามครั้งต่อวันแบบตอนนู้น ผมคงต้องตายคาอกเมียเป็นแน่แท้

แต่จะว่าไป “ตายคาอกเมีย” น่าจะเป็นการตายที่สมศักดิ์ศรีที่สุดในโลกมิใช่หรือ ผมเชื่อเช่นนั้น

คุณล่ะ อิจฉาคนไข้ผมบ้างไหม

ธนพันธ์ ชูบุญในสามสิบวันจะหารเลขอะไรดี
๔ มิย ๖๒

คำสำคัญ (Tags): #เพศสัมพันธ์
หมายเลขบันทึก: 673118เขียนเมื่อ 14 พฤศจิกายน 2019 15:40 น. ()แก้ไขเมื่อ 14 พฤศจิกายน 2019 15:40 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท