จดหมายจากพ่อถึงลูก(2)


งานบายเฟรชชี่

เรื่องนี้เป็นเรื่องของนักาศึกษาชั้นปีที่1ที่ไม่มีข้อยุติสักทีจนต้องมีพ่อเข้าไปช่วยตัดสินและก็ได้เขียนไว้บนเว็บว่า

จดหมายถึงลูกๆ(๒) มอ.ปัตตานี ลูก ๆ ที่รัก วันนี้พ่อมีเรื่องดีๆจะเล่านะ ๔ - ๕ วันที่แล้ว  พ่อได้ข่าวเรื่องการประชุมของน้องปี ๑ เกี่ยวกับการจัดงาน บายเฟรชชี่”  แล้วหาข้อยุติไม่ได้   มีความคิดแตกแยกถึงขั้นจะจัดงานแยกกัน  งานใครงานมันเลย รายงานที่พ่อได้รับอีกชิ้นที่น่าตกใจคือ  ถึงขั้นโทร.ข่มขู่ใช้อำนาจมืดกันเลย
อะไรจะขนาดนั้น
พ่อไม่สบายใจเลย  พ่อต้องเชิญนายกองค์การฯ มาปรึกษาเพื่อหาทางออกดีๆ ให้  แล้วนายกฯก็นัดให้พ่อได้พบกับพวกเรา  ตัวแทนนศ.   ชั้นปีที่หนึ่งทุกวิชาเอก  ประชุมกัน ๒ ชั่วโมงกว่า  ประชุมจนพ่อเหนื่อยนะ   แต่ก็สุขใจที่ทุกคนเริ่มยิ้มออก  และหันหน้าเข้าหากันใหม่
แล้วเราก็ได้คำตอบสุดท้าย
พ่อคิดว่าเป็นทางออกที่ดีนะ
ปัญหาสำคัญของพวกเราเวลาประชุม  คือ  ไม่ยอมรับฟังความคิดเห็นของคนอื่น  เอาความคิดเห็นของตัวเองเป็นใหญ่
ความเห็นของข้าถูกต้องที่สุด  ใครคิดต่างจากข้าผิดหมด
คิดอย่างนี้ก็มีปัญหาซิ
มีบางกิจกรรมที่พวกเราหาข้อยุติไม่ได้  เช่น  การพัฒนาพื้นที่สาธารณะ  เราจะพัฒนาอะไร
นศ.ไทยพุทธบอกว่า ต้องพัฒนาวัด
นศ.ไทยมุสลิมบอกว่า ต้องพัฒนามัสยิด
ต่างฝ่ายต่างไม่ยอม 
พ่อเสนอว่า  เราพัฒนาที่อื่นที่ทุกฝ่ายทำได้ซิ  เช่น  พัฒนาโรงเรียน  พัฒนาโรงอาหารของเรา   เก็บขยะในสนามฟุตบอล  ลอกคูคลอง  ปลูกต้นไม้  ตัดแต่งกิ่งไม้ข้างหอ  ล้างห้องน้ำ  และฯลฯ  อย่างนี้ทุกศาสนิกก็ทำได้ด้วยความสบายใจ  และสามารถร่วมกิจกรรมได้อย่างสมัครสมานสามัคคี  สามารถเรียนรู้ร่วมกัน  แลกเปลี่ยนประสบการณ์กัน  โดยไม่มีความแตกแยกในความแตกต่าง”  
พ่อเสนอให้จัดกิจกรรมที่มีสาระบ้าง  เช่น  ช่วงเช้าทุกคนทำกิจกรรมทางศาสนาของตัวเอง  นศ.ไทยมุสลิมไปละหมาด  ฟังบรรยายธรรมตามแนวศาสนาอิสลาม  นศ.ไทยพุทธไปทำบุญใส่บาตร  ฟังเทศน์
สาย ๆ เข้าห้องประชุม  ฟังบรรยายวิชาการบ้าง  เชิญวิทยากรเก่งๆ มาบรรยาย  ถ้าฉุกเฉิน  เชิญพ่อก็ได้   พ่อก็พูดเป็นนะจะบอกให้
บ่ายๆไปร่วมกันพัฒนา  ตกค่ำก็เป็นงานบรรเทิง  พ่อย้ำว่างานบรรเทิงต้องเป็นศิลปะ  ต้องแสดงความมีวัฒนธรรม  การแสดงที่ส่อไปในทางลามกเหมือนที่เห็นในสื่อจากนอก พ่อไม่เอานะ  ศิลปินที่เก่งๆ เขาแสดงความสามารถล้วนๆ  โดยไม่ต้องใช้อวัยวะที่พึงสงวนออกมาโชว์ประกอบเลย  พ่อจะรอดูผลงานของลูกนะ เรื่องเรียนเป็นไงบ้าง   แบ่งเวลาสำหรับการเรียนให้มากด้วยนะ  อ่านหนังสือทุกวัน   อ่านหนังสืออื่นที่มีประโยชน์ด้วย  เด็กไทยอ่านหนังสือน้อยมาก  รู้ไหมเด็กไทยโดยเฉลี่ยอ่านหนังสือวันละกี่นาที?   ลองหาสถิติล่าสุดให้พ่อด้วยนะ ลืมเล่าเรื่องแม่  แม่ก็สบายดีตามประสาแม่   มีสิ่งหนึ่งที่พ่อจะทำเพื่อลูกได้ดีที่สุด  คือ  รักแม่และดูแลแม่ของลูกให้ดีที่สุดนะ รักลูกมาก
พ่อ
หากมีข้อเสนอแนะ ข้อคิดเห็น ตอบมาได้ที่เมล์นี้ครับ
(นิฟาริด   ระเด่นอาหมัด  [email protected] )
 

 

คำสำคัญ (Tags): #บันทึก
หมายเลขบันทึก: 66672เขียนเมื่อ 12 ธันวาคม 2006 13:31 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 16:41 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท