ขอให้กำลังและแสดงความคิดเห็นในมุมมองเชิงพัฒนาและปัญหาการศึกษา (ครูภาคกลางและภาคตะวันออก ยื่นหนังสือ วอนเสมา 1 ทบทวนคืนตำแหน่งให้โรงเรียนที่มีนักเรียนน้อยกว่า 120 คน)

ขอให้กำลังและแสดงความคิดเห็นในมุมมองเชิงพัฒนาและปัญหาการศึกษา

ประเด็นการการคืนครูให้โรงเรียน : เห็นด้วยกับการคืนตำแหน่งครูให้โรงเรียนเพราะโรงเรียนที่จะมีคุณภาพการศึกษา ที่จะพัฒนาเด็กซึ่งเป็นอนาคตของชาติ เป็นผู้ที่จะพัฒนาชุมชน สังคม ประเทศชาติ นอกเนื่องจากด้านกายภาพ คือ อาคารเรียน ห้องเรียน ห้องสมุด ห้องคอมพิวเตอร์ สนามกีฬา สนามเด็กเล่น โรงอาหาร ฯลฯ เครือข่ายอินเทอร์เน็ต แล้ว บุคลากรในโรงเรียน โดยเฉพาะครูถือเป็นส่วนสำคัญ

ในประเทศไทยมีโรงเรียนขนาดเล็กมากกว่า 70% ซึ่งมีปัญหาเดียวกัน คือ นักเรียนน้อย ครูมีน้อย ได้รับงบประมาณน้อย ภาระงานเยอะ เช่น งานประกัน งานทำโครงการต่างๆที่ต้องดำเนินการตามเกณฑ์มาตรฐานตัวชี้วัด และโครงการต่างๆ ที่เกิดขึ้นตามนโนบายของหน่วยที่เดี่ยว ของหน่วยภาครัฐ ระดับประเทศ ระดับจังหวัด ระดับท้องถิ่น ฯลฯ

ฉะนั้น อย่างน้อยที่สุดเบื้องต้น โรงเรียนไม่ว่าจะขนาดไหน โดยเฉพาะในระดับประถมซึ่งเป็นช่วงที่สำคัญที่สุดในการพัฒนาเด็ก วางรากฐานความรู้ ทัศนคติ ค่านิยม คุณลักษณะที่พึงประสงค์

ดังนั้นถ้าได้ชื่อว่าเป็นโรงเรียน ก็ควรจะมีครูผู้สอนให้ครบทุกระดับชั้นปี อย่างน้อย 6 คน 6 ชั้นปี จึงจะสามารถพัฒนาคุณภาพการศึกษา และพัฒนาคุณภาพโรงเรียนให้ดียิ่งขึ้นได้ เพื่อช่วยในการอบรมสั่งสอนทั้งด้านความรู้ และอื่นๆ ตามสมรรถนะและคุณลักษณะที่พึงประสงค์ที่กำหนดไว้ในหลักสูตร

*หลักคิดเรื่องงบประมาณ ค่าหัวนักเรียน เงินสนับสนุน อัตรากำลัง อัตราส่วน นักเรียนต่อครู สำหรับโรงเรียนขนาดเล็กต้องปรับเปลี่ยนต้องใช้หลักคิดเชิงพัฒนาการศึกษาและการพัฒนาคนและการพัฒนาคุณภาพ เข้ามาจับมาใช้เป็นหลักคิด ยิ่งเป็นโรงเรียนของภาครัฐ ในหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ.2551 ระบุไว้ชัดเจน ว่าจะกระจายศึกษา มีนโยบายครูคืนถิ่น ต้องการพัฒนาท้องถิ่น แต่ในเชิงการดำเนินการ ขัดกัน จะยุบร่วม ให้เรียนรวม ให้นักเรียนไปเรียนรวมกันซึ่งไม่ถูกต้อง การดำเนินการแบบนี้ เหมือนให้เด็กละทิ้งท้องถิ่น เพิ่มภาระให้ผู้ปกครอง ทำลายระบบการพัฒนาการศึกษาพัฒนาเด็กไทย ตอนนี้เด็กไทยส่วนหนึ่งขาดโอกาสทางการศึกษา เพราะพ่อแม่ไม่มีกำลังและขาดเวลาในการที่จะส่งให้ลูกไปเรียนโรงเรียนขนาดใหญ่หรือโรงเรียนดังๆ ตอนนี้เราพูดว่า เราจะขยายโอกาสทางการศึกษาที่เท่าเทียม แต่ความเป็นจริงไม่เท่าเทียม ยังมีช่องว่างอย่างเห็นได้ชัดเจน โรงเรียนขนาดเล็ก ครูต้องสอน 2 ห้องไปพร้อมๆกัน ต้องสอนทุกวิชาความรู้และทักษะที่เด็กจะได้? ผมมองว่าเด็กกลุ่มนี้ถูกทอดทิ้งทางการศึกษา และถูกปิดโอกาสในการพัฒนา 

….ประเทศไทยไม่ได้ขาดแคลนครู ทุกกลุ่มสาระแต่เราปิดโอกาสที่จะให้ผู้ที่จบครูเข้ามาเป็นครู ไม่เปิดอัตราด้วยเหตุผลว่ามีนักเรียนน้อยคนที่จบครูมาไม่สามารถแบกรับภาระค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น แต่ต้องเป็นครูอัตราจ้างเงินเดือนน้อยที่โรงเรียนหางบมาจ้างครูก็ต้องไปทำอาชีพอื่นๆ

**ขอคืนครูให้โรงเรียนด้วยครับ จัดสรรงบประมาณส่วนหนึ่งมาเปิดสอบครูพัฒนาให้โรงเรียนมีคุณภาพ ให้พ่อแม่เกิดความเชื่อมั่น ไม่ส่งเด็กไปเรียนกระจุกอยู่โรงเรียนขนาดใหญ่หรือโรงเรียนดังๆ ลดภาระรายจ่ายของพ่อแม่ ครอบครัวอบอุ่น ฯลฯ สร้างความรักในท้องถิ่น กระจายการศึกษา กระจายความเจริญ สนองต่อการพัฒนาท้องถิ่น พัฒนาชุมชน

ปัญหาการศึกษาไทยมีทางออกที่ดีกว่านี้
- เทคโนโลยีไม่ใช่ทางออกในการแก้ปัญหาการศึกษาไทย แต่เป็นเพียงตัวช่วยในการแก้ปัญหา
- ตราบใดที่ระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตยังไม่ฟรีหรือถูกลงกว่าปัจจุบัน โอกาสทางการศึกษาก็ไม่มีวันเท่าเทียม เทคโนโลยีจึงไร้ผล
- คอมพิวเตอร์ ทับเล็ต มือถือ ที่เราบอกว่าเป็นช่องทางในการเรียนรู้ และแสดงให้เห็นว่าประเทศมีความเจริญทางการศึกษา เคยถามไหมว่าจริงไหมที่ช่วยให้เด็กได้เรียนรู้มากขึ้น? และเด็กใช้คอมพิวเตอร์ ทับเล็ต มือถือ ทำอะไร?มากที่สุด
- คอมพิวเตอร์ ทับเล็ต มือถือ เด็กควรจะเริ่มใช้ช่วงไหน? ป.1 ป.2 ป.3ฯลฯ ม.1
- เคยสงสัยไหม?ว่าทำไมเด็กสมัยนี้ ขึ้น ม.1 แล้วยังอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ เขียนไม่ค่อยถูก โดยส่วนตัวคิดว่าเราพึงสื่อ เทคโนโลยีมากเกินไป จนเด็กปัจจุบันไม่ค่อยได้เขียนหนังสือ ไม่ค่อยได้อ่านหนังสือ- เคยสงสัยว่าจำเป็นไหม? ที่เด็ก ป.1 ต้องเรียนทุกกลุ่มสาระ เรียนเน้นทักษะภาษาไทย ทักษะภาษาต่างประเทศ ฟัง พูด อ่าน เขียนก่อนได้ไหมฯลฯ

แหล่งข้อมูลอ้างอิงครูภาคกลางและภาคตะวันออก ยื่นหนังสือ วอนเสมา 1 ทบทวนคืนตำแหน่งให้โรงเรียนที่มีนักเรียนน้อยกว่า 120 คนhttps://www.kroobannok.com/87237