ความหมายของอุโบสถวัดร่องขุ่น.....โดย อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์


              

                  ผมปรารถนาอยากจะสร้างวัดให้เหมือนเมืองสวรรค์ เป็นวิมานบนดินที่มนุษย์โลกสัมผัสได้
                  ผมสร้างโบสถ์ในเขตพุทธาวาส เปรียบเหมือนบ้านของพระพุทธเจ้า สีขาวแทนพระบริสุทธิคุณของพระพุทธเจ้า กระจกขาวหมายถึง พระปัญญาธิคุณของพระพุทธเจ้าที่เปล่งประกายไปทั่วโลกมนุษย์และจักรวาล
                 สะพานหมายถึง การเดินข้ามวัฏสงสารมุ่งสู่พุทธภูมิ ก่อนขึ้นสะพานครึ่งวงกลมเล็กหมายถึง โลกมนุษย์ วงใหญ่ที่มีเขี้ยวเป็นปากของพญามาร หรือพระราหูหมายถึง กิเลสในใจแทนขุมนรกคือทุกข์ ผู้ใดจะเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าในพุทธภูมิต้องตั้งจิตปลดปล่อยกิเลสตัณหาของตนเองทิ้งลงไปในปากของพญามาร เพื่อเป็นการชำระจิตเราให้ผ่องใสถึงจะเดินผ่านขึ้นไป บนสันของสะพานจะประกอบไปด้วยอสูรอมกัน ๑๖ ตัว ข้างละ ๘ ตัว หมายถึง อุปกิเลส ๑๖ จากนั้นก็จะถึงกึ่งกลางสะพาน หมายถึงเขาพระสุเมรุ เป็นที่อยู่ของเทวดา ด้านล่างเป็นสระน้ำ หมายถึงสีทันดรมหาสมุทร มีสวรร์ตั้งอยู่ ๖ ชั้นด้วยกัน ผ่านสวรรค์ ๖ ชั้น เดินลงไปสู่แผ่นดินของพรหม ๑๖ ชั้น แทนด้วยดอกบัวทิพย์ ๑๖ ดอก รอบอุโบสถ ดอกที่ใหญ่สุด ๔ ดอก ตรงทางขึ้นด้านข้างโบสถ์หมายถึงซุ้มพระอริยเจ้า ๔ พระองค์ ประกอบด้วยพระโสดาบัน พระสกิทาคามี พระอนาคามี และพระอรหันต์ เป็นสงฆ์สาวกที่เราควรกราบไหว้บูชา
                  ก่อนขึ้นบันได ครึ่งวงกลมหมายถึง โลกุตตรปัญญา บันไดทางขึ้น ๓ ชั้น แทนอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ผ่านแล้วจึงขึ้นไปสู่แผ่นดินของอรูปพรหม ๔ แทนด้วยดอกบัวทิพย์ ๔ ดอก และบานประตู ๔ บาน บานสุดท้ายเป็นกระจกสามเหลี่ยมแทนความว่าง (ความหลุดพ้น) แล้วจึงจะก้าวข้ามธรณีประตูเข้าสู่พุทธภูมิ
                  ภายในประกอบด้วยภาพเขียนโทนสีทองทั้งหมด ผนัง ๔ ด้าน เพดานและพื้นล้วนเป็นภาพเขียนที่แสดงถึงการหลุดพ้นจากกิเลสมาร มุ่งเข้าสู่โลกุตตรธรรม
                  ส่วนบนของหลังคาโบสถ์ ผมได้นำหลักธรรมอันสำคัญยิ่งของการปฏิบัติจิต ๓ ข้อ คือ ศีล สมาธิ ปัญญา นำไปสู่ความว่าง (ความหลุดพ้น)
                  ผมแทนช่อฟ้าเอกเป็นศีล ประกอบด้วยสัตว์ ๔ ชนิดผสมกัน แทน ดิน น้ำ ลม ไฟ ช้างหมายถึง ดิน นาคหมายถึง น้ำ ปีกหงส์หมายถึง ลม และหน้าอกสิงห์หมายถึง ไฟ ขึ้นไปปกปักรักษาพระศาสนา บนหลังช่อฟ้าเอกเทินด้วยพระธาตุหมายถึง ศีล ๕ ศีล ๘ ศีล ๑๐ ศีล ๒๒๗ ข้อและ ๘๔,๐๐๐ พระธรรมขันธ์
                  ช่อฟ้าชั้นที่ ๒ (บน) หมายถึงสมาธิ แทนด้วยสัตว์ ๒ ชนิด คือ พญานาคกับหงส์ เขี้ยวพญานาค หมายถึงความชั่วในตัวมนุษย์ หงส์หมายถึง ความดีงาม ศีลเป็นตัวฆ่าความชั่ว (กิเลส) เมื่อใจเราชนะกิเลสได้ก็เกิดสมาธิ มีสติกำหนดรู้ก็เกิดปัญญา
                  ช่อฟ้าชั้นที่ ๓ (สูงสุด) หมายถึงปัญญา แทนด้วยหงส์ปากครุฑหมอบราบนิ่งสงบไม่ปรารถนาใดๆมุ่งสู่การดับสิ้นซึ่งอาสวะกิเลสภายใน
                  ด้านหลังหางช่อฟ้าชั้นที่ ๓ มีลวดลาย ๗ ชิ้น หมายถึงโพชฌงค์ ๗ ลาย ๘ ชิ้นรองรับฉัตร หมายถึงมรรค ๘ ฉัตรหมายถึงพระนิพพาน ลวดลายบนเชิงชายด้านข้างของหลังคาชั้นบนสุดแทนด้วยสังโยชน์ ๑๐
                  เสา ๔ มุม ด้านข้างโบสถ์คือ ตุง (ธง) กระด้าง เพื่อถวายเป็นพุทธบูชาแด่พระพุทธเจ้าตามคติล้านนา
                  ผมคงอธิบายคร่าวๆแค่นี้ จริงๆแล้วรายละเอียดมีมากกว่านี้เยอะ เพราะผมจะสร้างทั้งหมด ๙ หลัง แต่ละหลังมีความหมายเป็นคติธรรมทุกหลัง
                  ผมหวังจะสร้างงานพุทธศิลป์ของแผ่นดินให้ยิ่งใหญ่อลังการ เพื่อให้คนทั้งโลกยอมรับและปรารถนาจะมาชื่นชมให้ได้ จะถวายชีวิตสร้างจนลมหายใจสุดท้าย และได้สร้างลูกศิษย์รอรับช่วงต่ออีก ๒ ช่วง หลังผมตายคาดว่าจะเสร็จสมบูรณ์ทั้ง ๙ หลัง คงใช้เวลาทั้งหมด ๖๐-๗๐ ปีครับ
                   ขอร่วมอนุโมทนาในกุศลจิตอันแรงกล้าและความตั้งใจอย่างเด็ดเดี่ยวของ อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ที่จะสร้างพุทธศิลป์ฝากไว้ในแผ่นดิน ขอความตั้งใจดังกล่าวจงสำเร็จโดยฉับพลับและเดินข้ามวัฏสงสารมุ่งสู่พุทธภูมิโดยเร็ว
                   ท่านผู้ใดปราถนาจะได้ร่วมบุญสร้างวัดร่องขุ่นกับ อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ เชิญติดต่อที่วัดร่องขุ่น ตำบลป่าอ้อดอนชัย อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย ๕๗๐๐๐ โทร. ๐-๕๓๖๗-๓๕๗๙,๐-๙๙๕๑-๕๘๔๒,๐-๑๗๙๖-๗๔๓๒ FAX.๐-๕๓๖๗-๓๕๓๙ 

                  ชมภาพวัดร่องขุ่นได้ที่นี่ ค่ะ  http://gotoknow.org/file/chuanpis/rongkun.pdf

                 

หมายเลขบันทึก: 66516เขียนเมื่อ 11 ธันวาคม 2006 19:23 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 17:41 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)
วีรพงษ์ แก้วเขียว

ขอร่วมอนุโมทนาครับ ครั้งต่อไปที่ไปที่วัดอีกจะจำคำอุปมาเปรียบเทียบ ของสัญลักษณ์ พร้อมกับก้าวเข้าไป ผมชอบงานของอ.เฉลิมชัยมากๆครับ และอีกหลายๆข้อคิดที่ได้อ่านจากหนังสือ ที่คุณ เพชรยุพา บูรณ์สิริจรุงรัฐ เรียบเรียงและพิมพ์ออกมาให้อ่าน ผมขอเป็นกำลังใจ หื้อโตยคน เน้อครับอาจ๋าน เน้อ สา...ตุ๊ และผมจะ หัดวาด หัดเขียนหื้อเก่งๆ เผื่อสักวันได้ฮับใจ๊อาจารย์ ฮับใจ๊พระศาสนา สืบสานความตั้งใจ๋เน้อครับ ถ้ามีบุญต่อกั๋น สักวันคงได้ป๊ะครับผม  

                      ด้วยความเคารพ  วีรพงษ์ แก้วเขียว

                                     คนเมืองพานครับ

                                     

เจริญพร

อาตมาเคยไปเที่ยวที่วัดนี้ ราว 1-2 ปีก่อน รู้สึกตระการตาจริงๆ

พอดีนึกถึงคำของพระรูปหนึ่ง (เค้าคุยกันตามประสา แต่อาตมาเดินผ่าน นานเกินสิบปีมาแล้ว) ถ้าพระพุทธเจ้าเสต็จกลับมา อาจทรงจำพระศาสนาของพระองค์ไม่ได้...

นึกแล้วก็นึกได้ต่อว่า หลายปีก่อน มีงานวัด อาตมาและคณะสงฆ์ฉันข้าวอยู่.. พื้นอาสน์สงฆ์ปูด้วยพรมแดง อาหารร้อนๆ และเหลือเฟือ มีดนตรีไทยขับกล่อมไปพลาง....อาตมารู้สึกบางอย่าง...

บ่นให้อ่าน ในฐานะคนอยู่วัดมาเกินยี่สิบปี

เจริญพร

รักมึงนะไอตูดเหม็น(*-*)

สุดยอดคิดได้ไงเนี้ยเป็นหนู หนู คิดไม่ได้ขนานี้นะเนี้ย

มันยอดมากกกกกกกกกกก

(อยากเป็นแบบอาจารย์เฉลิมชัยจังเลย)

รักและเคารพ  หนูอายุ14ปีคะ

(ช่วยสอนหนูวาดรูปอย่างนี้มั้งสิคะ)

เมล [email protected] 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท