014: ขนาดเท่านิ้วก้อย...ทำไมปวดมากจัง


ความรุนแรงของอาการปวด บางครั้งก็ไม่สัมพันธ์กับขนาดของอวัยวะ เช่นนิ้วก้อยน้อยๆ อาจทำให้ปวดมากกว่าอวัยวะที่ใหญ่กว่าก็เป็นได้

อยากมาก็มา อยากไปก็ไป บางครั้งมาบ่อย บางทีก็ห่างออกไป มาทีก็จี๊ดถึงหัวใจ หากมาตอนดึกๆ ทำให้สะดุ้งตื่นได้ และแทบจะทนไม่ไหวหากมีอะไรมาโดนเข้าให้ 

ทั้งหมดนั้นคืออาการปวดที่นิ้วก้อย ของผมเอง ปวดมานานหลายปีแล้ว น่าจะถึง 10 ปี ได้

สาเหตุเริ่มต้นจริงๆ ไม่ทราบ เคยตรวจด้วยคลื่นแม่เหล็ก (MRI) ก็ไม่พบสาเหตุที่ชัดเจน
<p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">ครั้งหนึ่งเคยให้หมอผ่าตัดผ่าลงไปดูให้เห็นจะจะ ว่ามีอะไร ทำไมถึงให้ปวดได้ขนาดนี้

</p>ณ วันนั้น ไม่รู้เหมือนกันว่าคิดถูกหรือคิดผิดแต่ ณ วันนี้ ได้คำตอบว่าแล้วว่า คิดผิด เพราะการผ่าลงไปนอกจากจะไม่พบอะไรแล้ว ยังทำให้มีแผลเป็น ยิ่งทำให้ปวดเรื้อรังมากขึ้น (เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์อะไรหลายๆ อย่าง)
ณ วันนี้ จึงวินิจฉัยได้แต่เพียงว่า เป็น โรคปลายเส้นประสาทอักเสบเรื้อรังหรือภาษาอังกฤษ เรียกว่า peripheral neuropathy
 
ฟังชื่อยาวหน่อย แต่อย่าเรียกสั้นๆว่า โรคประสาท เพราะมันคนละเรื่องกัน

<p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">ตรงบริเวณที่เป็น มีขนาดเล็กมาก หากใช้ปลายปากกา กดไล่หาไปเรื่อยๆ จึงจะเจอ
</p>ซึ่งถ้ามีอะไรไปโดนเข้าจะปวดมากที่สุดในโลก ปวดจี๊ดไปถึงหัวใจทีเดียว

ผมเคยใช้ยาฉีดที่นิ้วก้อยบ้าง เวลาปวดบ่อยๆ ก็ดีขึ้นบ้าง
มียากินเหมือนกัน 3-4 ชนิด แต่ทุกชนิดออกฤทธิ์ที่สมอง เช่นยาในกลุ่มกันชัก ซึ่งผมไม่กล้ากิน เพราะหากกินไปนานๆ ก็กลัวอาการข้างเคียงจากยา (รู้มากก็งี้แหละ)

<p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">นิ้วก้อย จึงเป็นนิ้วที่สำคัญมากที่สุดของผม ได้รับการดูแลอย่างทะนุถนอม และเอาใจใส่มากกว่านิ้วอื่นๆ ที่มีขนาดใหญ่กว่า
</p><p>ดังนั้น คำว่า เรื่องเล็กเท่านิ้วก้อย จึงไม่ใช่เรื่องที่เล็กที่สุดสำหรับผมอีกต่อไป 
</p><p>หมายเหตุ:
เมื่อก่อนก็ใช้ยา ทำใจ (อ่านยาทำใจที่นี่)  บ่อยๆ
มา 2-3 ปี นี้ผมได้ยาทามาช่วย เป็นยา เจลพริก ทำให้อาการดีขึ้นมาก
</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">อย่างที่ทราบว่า พริก ทำให้ปวดแสบปวดร้อนมาก ดังนั้นเวลาทายาอย่าให้กระเด็นเข้า ตา-ปาก-จมูก และต้องล้างมือหลังใช้ยาให้ดี
</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">แต่ผมมีวิธีทายาเฉพาะตัว คือไม่ใช้มือไปสัมผัส เจล โดยผมจะเปิดฝาหลอด บีบหลอดเล็กน้อย แล้วใช้ปากหลอดช่วยทา-ถู ที่ปลายนิ้วให้ทั่ว จากนั้นใช้พลาสเตอร์ (ที่ใช้พันแผล) พันไว้</p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"><div style="text-align: center"></div>
</p> วิธีนี้ นอกจากมือจะไม่เปื้อนยาแล้ว ยังช่วยให้ตัวยาอยู่ได้นานทั้งวัน จึงประหยัดยาได้เป็นอย่างดี <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"> </p>

หมายเลขบันทึก: 66306เขียนเมื่อ 10 ธันวาคม 2006 08:41 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 17:41 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)
  • โอ...พระเจ้าช่วยกล้วยทอด..อยู่ด้วยกันมานาน..ไม่ยักกะทราบว่า"ท่านสมบูรณ์" มีจุดอ่อนที่นิ้วก้อย...น่าสงสารจัง...
  • นิ้วก้อยสำหรับ"กฤษณา"ก็ไม่ใช่จะไร้ค่า...เพราะที่เล็กรูแคบ..มีเธอเท่านั้นที่ทำได้ดี...น่าสงสาร อ.สมบูรณ์..ไม่มีนิ้วก้อยข้างซ้ายแคะหู
  • ไม่ต้องห่วงครับ  ผมสามารถใช้นิ้วก้อยขวาแคะหูทั้งสองข้างได้
ท่านอาจารย์เป็นเบาหวานหรือเปล่าอะคับ
  • คุณไร้นามรอบรู้ทุกเรื่อง
  • โรคนี้เกี่ยวข้องกับคนที่เป็นเบาหวานด้วย
  • แต่ผมไม่ได้เป็นเบาหวาน คงมีสาเหตุจากอย่างอื่น น่าจะเป็นจากบาดเจ็บเล็กๆ น้อยๆ ที่เราไม่ได้สังเกตมาก่อน
  • มีหมอที่อิตาลี คนหนึ่ง เคยเจอในงานประชุม เขาถูกเครื่องจักร ตัดนิ้วชี้ หลังจากต่อนิ้วแล้ว พบว่ามีอาการปวดเนื่องจากเส้นประสาทถูกตัด เช่นเดียวกัน

สวัสดีค่ะคุณหมอ

ลูกชายดิฉันก็เหมือนกันค่ะ เพียงแต่ปวดที่นิ้วก้อยเท้าด้านซ้าย ปวดมาได้หลายเดือนแล้ว เอายาทาให้ทั้ง Diclofenac gel และ Methysalicylate cream ก็ยังไม่หาย ให้หมอนวดบีบก็ไม่หาย อย่างนี้น่าจะเข้าข่ายเป็นอะไรได้มั้งค่ะคุณหมอ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท