ผลการเลือกตั้งในประเทศไทย ฝ่ายตรงข้ามกับทหารได้เสียงข้างมาก แต่จัดตั้งรัฐบาลไม่ได้



NGO เรียกการเลือกตั้งครั้งฉ้อโกง และผิดแปลกอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประเทศไทย

นายกฯที่เป็นทหารของประเทศยังคงอยู่ในอำนาจ ทั้งๆที่พรรคประชาธิปไตยเอาชนะโดยการได้เสียงข้างมาก ในการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 24 มีนาคม

ผลการเลือกตั้งอันสุดท้ายมีการเปิดเผยเมื่อวันพุธตอนเย็นที่มา (หลังจากช้าไป 6 สัปดาห์) ยืนยันว่าพรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นพรรคตรงข้ามกับทหารได้ 136 เสียง จากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 500 คน เอาชนะพรรคที่สนับสนุนทหารถึง 97 เสียง

อย่างไรก็ตาม เนื่องมาจากระบบการเลือกตั้งของประเทศโน้มเอียงไปทางทหาร เพราะรัฐธรรมนูญถูกสร้างโดยทหาร ดังนั้นผู้นำก็คือพลเอกประยุทธ์ ซึ่งเป็นคนรัฐประหารปี 2014 จึงถูกคาดหมายว่าจะได้รับเสียงข้างมาก เพื่อตั้งตนเองเป็นนายกฯสมัยที่สอง

การเลือกตั้งในประเทศไทยในรอบ 8 ปี ถือเสมือนเป็นชัยชนะของการกลับมาสู่ประชาธิปไตยที่มาสู่ประเทศนี้ แต่ข้อกล่าวหาของการเห็นประโยชน์ของบางคนอย่างเป็นระบบ (systematic rigging), ความผิดแปลกของการออกเสียง, กตต. ที่ทหารตั้งขึ้นมาที่มีแต่คำถาม, และสุดท้ายคือผลการเลือกตั้งที่ออกล่าช้า ที่มีความหมายถึงผลการเลือกตั้งน่าจะผิดกฎหมาย

ส่วนหนึ่งของการบอกผลการเลือกตั้งล่าช้า เนื่องมาจากความสับสนในการแยกอีก 150 เสียงจาก 500 ที่เป็นสมาชิกผู้แทนราษฎร ซึ่งกกต. ต้องใช้คะแนนเสียงทั้งหมดในพรรคการเมืองทุกพรรค

กล่าวอย่างหยาบๆ กกต.พูดเมื่อวันพุธว่า ถึงแม้ว่าพรรคที่สนับสนุนพลเอกประยุทธ์จะได้อันดับสอง แต่มีเสียงเพิ่มขึ้นถึง 18 เสียง เพราะได้มาจาก Party lists ในขณะที่เพื่อไทยไม่มี Party lists เลย

เพื่อไทยกับพรรคฝ่ายประชาธิปไตยเคยคำนวณจากการเปิดผลครั้งแรก ปรากฏว่าได้เสียงถึง 255 จาก 500 สิ่งนี้ทำให้พวกเขาร่วมกันจัดตั้งรัฐบาล

วิธีการที่เสียงถูกแบ่งออกไปมีความหมายว่าพวกเขาได้แค่ 245 ซึ่งนำไปสู่การร้องเรียนในสื่อสังคมออนไลน์ว่ากกต.ใช้สูตรคำนวณนี้เพื่อที่ว่าจะทำให้พรรคเพื่อไทยไม่ได้เสียงข้างมาก

Anon Chawalawan ซึ่งเป็นนักวิจัยจากองค์กรสิทธิมนุษยชนไทย และ NGO ของ iLaw บอกกับ The Independent ว่า กกต. ออกรางวัลให้กับพรรคเล็กๆ ที่ได้เพียง 30,000 จากการเลือกตั้งทั้งประเทศ มากกว่าที่จะนำเสียงเหล่านั้นไปให้พรรคที่ตรงกันข้ามกับทหาร ที่ทำผิดกฎหมายว่าด้วยผู้แทนแบบสัดส่วนในรัฐธรรมนูญ

นาย Chawalawan กล่าวว่า “เมื่อกกต. ประกาศผลทางสื่อ แต่พวกเขาไม่พูดอะไรเกี่ยวกับกระบวนการ, เสียงหรือที่นั่งถูกคำนวณอย่างไร”  ถึงแม้จะเป็นตอนนี้ 6 สัปดาห์หลังการเลือกตั้ง “ประเด็นทั้งหมดยังไม่มีความแน่นอน สิ่งนี้ไม่ใช่สิ่งที่เราเรียกว่าความโปร่งใสเลย”

เพื่อไทยออกเอกสารกล่าวว่ากกต. ได้คำนวณผิด และใช้อำนาจในทางที่ไม่ชอบ, ละเมิดทั้งรัฐธรรมนูญและกฎหมาย พรรคจะใช้มาตรการทางกฎหมายทุกๆประกาศฟ้องกกต.

ภายใต้ระบบในประเทศไทย จะมีวุฒิสมาชิกประมาณ 250 คน ที่ไม่ได้รับการเลือกตั้ง และแต่งตั้งโดยทหาร และประเด็นสำคัญคือมีสิทธิเลือกนายกฯ

พลเอกประยุทธ์สามารถกลับมาเป็นนายกฯรอบสองได้ เพราะเขาต้องการแค่สมาชิก 60 คนจากพรรคเล็กๆ เพื่อมาตั้งรัฐบาลผสม เสียงที่สนับสนุนคือ 376 เสียง ซึ่งจะมาจากสภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสมาชิก

แต่เขาจะประสบปัญหาใหญ่ เพราะจะผ่านกฎหมายยาก เพราะเขาควบคุมสภาล่าง และรัฐบาลของเขาอาจอยู่ไม่ยาว

นอกเหนือจากระบบที่บิดเบี้ยวแล้ว พรรคที่ตรงกันข้ามยังร้องเรียนเรื่องอุบายการข่มขู่ที่มีอยู่ทั่วไป และความผิดปกติในวันเลือกตั้งด้วย

ทาง NGO ด้าน Forces of Renewal for Southeast Asia ได้ออกรายงานที่เกี่ยวกับการหาข้อมูลเกี่ยวกับการฉ้อโกงจากผู้ประสบพบเห็นที่เป็นพลเมืองไทย และได้รับการตรวจโดยผู้เชี่ยวชาญขององค์กร

ในรายงานบ่งชี้ถึง 8 วิธีในการก่อให้เกิดความผิดปกติในการเลือก และสรุปจากหลักฐานเหตุการณ์ว่า “ไม่ต้องสงสัยเลยว่า การเลือกตั้งที่ได้สัญญามานานแล้วนั้น ก็จะเป็นเอื้อประโยชน์ให้แก่ทหารเท่านั้น”

ระดับของการฉ้อโกงในวันเลือกตั้งไม่เคยเกิดมาก่อนในประเทศไทย ในรายงานยังยกคำพูดของ Dr. Pavin Chachavalpongpun ที่บอกกับ The Independent ว่าความผิดปกติได้แก่การที่รัฐปลอมแปลงหีบเลือกตั้ง โดยใช้รถที่ไม่ได้รับอนุญาตให้มาขนหีบ, ทำลายโฆษณาของพรรคตรงกันข้าม, และการซื้อเสียงด้วย

พรรคที่ตรงกันข้ามอันดับที่สองได้เสียงในวันเลือกตั้งมากพอสมควร พรรคอนาคตใหม่ดูเหมือนจะทำให้ทหารก่อความรำคาญ โดยพรรคได้ถึง 87 ที่นั่งในการนับเบื้องต้น

ในวันพุธ กกต. ได้ลดที่นั่งเหลือ 80 ที่ทำให้พวกพรรคประชาธิปไตยเสียงน้อยลงไปอีก

เลขานุการของพรรค ปิยะบุตร แสงกนกกุล กล่าวหาว่าการคำนวณของกกต. เอาแน่เอานอนอะไรมิได้ ผิดแปลกไปหมด (absurd) ในขณะที่หัวหน้าพรรค ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ถูกกล่าวหาว่าขาดคุณสมบัติในการเมือง ซึ่งแน่นอนว่าถูกฟ้องจากอัยการหลายคดี

กกต.ปฏิเสธว่าไม่ได้เข้าข้างทหาร การที่ประกาศผลช้า เนื่องมาจากกว่าต้องให้เรื่องเกี่ยวกับการร้องเรียนหมดไป

การเมืองต้องรอไปจนกระทั่งการขึ้นครองราชย์ของกษัตริย์องค์ใหม่เสียก่อน เมื่อเสร็จพิธีบรมราชาภิเษก จึงมีการประกาศผลเลือกตั้งได้ พระมหากษัตริย์เป็นผู้ที่จะเปิดสภาแห่งใหม่

แปลและเรียบเรียงจาก

Adam Witihnall. Thai election results: Opposition wins most seat but looks set to miss out on government.

https://www.independent.co.uk/news/world/asia/thai-election-results-2019-prayuth-chanocha-pheu-thai-latest-a8906711.html

หมายเลขบันทึก: 661607เขียนเมื่อ 10 พฤษภาคม 2019 19:40 น. ()แก้ไขเมื่อ 10 พฤษภาคม 2019 19:40 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

@ ประชาธิปไตยต้องอยู่…..ยืนยง ทุกสิทธิ์จิตแจ้งตรง………..เช่นนั้น เคารพสิทธิ์ประชาจง………ปฏิบัติ ธรรม”ตัดตน”กรองกั้น……..เภทร้ายพ่ายเสมอ

ขอบคุณมากกับความเห็นของคุณ share ครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท