คำตอบสุดท้าย Ep.21 "เหลือไว้. . .แค่คำถาม"

       

           หลังจากที่ พ้นคอร์ส Speak In Action ผ่านไป ก็ไม่ได้ต่ออะไร สิ่งหนึ่ง ที่ยังคงเป็นคำถามอยู่นั่นคือ

       “ เป็นคนยังไง....???” คำถาม เราคงคิดว่า สาเหตุนั้นมาจากอะไร และพร้อมที่จะจัดการกับสิ่งนั้น เพื่อสมบูรณ์แบบกับชีวิตตนเอง และไปต่อ ในขณะนั้นเอง ก็มาถึง การฝึกไลฟ์สด ครั้งสุดท้ายพอดี ก็คงทำได้ไม่ได้นัก จนทำให้ 6ครั้งที่ผ่านมา ภาพรวมยังก่ำกึ่งอยู่ และมีคำชื่นชม และด่า ในเวลาเดียวกัน

        สุดท้าย ก็มีการโปรโมทก์ ไลฟ์แรกในรายการใหม่ ที่ฉายสดในเพจเรา โดยจัดทุกวันศุกร์ 1ทุ่ม จาก

  ความตั้งใจ ของเรา ผลสุดท้าย ผลตอบรับ ดี แต่ไม่ถึงดีเยี่ยม เพราะมีบางอย่างต้องพัฒนาต่อ นั่นถือว่า Feedback ที่สะท้อนอะไรบางอย่าง หลังจากนั้นก็จัดเวลา แต่กลับควบคุมไม่ได้ ด้วยความที่ เข้าห้องเรียน10ครั้งต่อสัปดาห์ ประกอบกับ ศุกร์ต้องจัดไลฟ์ และนั่นเป็นอะไรที่ ท้าทาย เผชิญ และ จัดการตนเอง ตลอดเวลา เหมือนกำลังอยู่บนกระดาษ หมากรุกอยู่ ขณะนี้

          สัปดาห์แรก ก็แค่ทักทายรู้จักกัน

          สัปดาห์ที่สอง เผชิญที่มีประชุมคอนคอล ทุกศุกร์ แถม มีเข้าอบรมโค้ชเพิ่มเติม

          สัปดาห์ที่สาม ทะลึ่งไปเจอเพื่อนเก่า ในวงการสัมมนา

          สัปดาห์ที่สี่ โวยวายกับหัวหน้ากลุ่ม โดยขาดสติ ช่วงนี้แหละ พีคที่สุดในชีวิต

       ช่วงนั้น ก็มาเป็นอาสา ในหลักสูตรการใช้ชีวิตอีกด้วย ที่สำคัญ เราก็มีหน้าที่ที่รับผิดชอบอยู่มาก ดังนั้น เราจึงรักษาแพลนเพื่อไม่ให้เสียคำพูด มาก็ตรงต่อเวลา พอถึงวันอบรมจริง ช่วงนั้นมีอาการเจ็บคอเกิดขึ้น ประกอบกับนอนไม่พอ จึงตัดสินใจ มาเพราะเราสร้างไว้เป็นแบบนั้นแล้ว วันแรก ไม่เท่าไหร่ วันที่สอง มีการผลัดเปลี่ยนตลอดเวลา จนถึงวันที่สาม วันนั้นพีคสุด คือมาช้าเกินกว่ากำหนดและไม่ได้กินข้าวด้วย จราจรติดขัด จึงตัดสินใจวิ่ง ทั้งที่ไม่มีแรง (ไม่รู้ไปเอาแรงมาจากไหน สงสัยมั้ยครับ) เพื่อจะมาให้ถึงที่ตรงเวลาให้ได้ สุดท้าย ไม่เป็นอย่างที่สร้างไว้ เลยมีความกลัวว่า จะลงโทษอะไร เท่านั้น สังเกตนะ ตอนที่เราเรียน คลาสX6 ในตอนนั้น คนไหนมาสาย เค้ามีการลงโทษบางอย่างขึ้น ซึ่งถือว่าโหดและรับไม่ได้ จนสุดท้าย ก็เลยขออนุญาต พี่คนนึง ขอกินข้าวก่อน เสร็จปุ๊บก่อนที่จะเข้ามาดูแลในห้องอบรม ผมได้ถือโอกาสสะสางกับคนๆนึง ซึ่งเขาสังเกตเรา ตอนวันแรก แรกๆเหมือนไม่มีอะไร เพราะเค้าเข้ามาเตือนเรา อาจเป็นห่วงเราก็ได้ทั้งๆที่ เราโอเค วันสอง เหมือนกับว่า ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ราวกับว่า เราพยายามเลี่ยง หรือ ตั้งใจสร้างกำแพงให้เค้า จนวันที่สาม พอได้เคลียร์กับเค้ารู้สึกสบายใจ สิ่งที่ตามมาคือ น้ำตาแห่งความอับโชค ทำงานแล้ว ร่างกายแค่สั่นที่หัวใจ และข้างๆหัวใจ ไม่มีใครรู้ว่า เราเผชิญอะไร เบื้องหลังนั้น

    “ ผมถูกโค้ชจาก คนๆนึง ซึ่งเป็นผู้นำในห้องเรียน 10ครั้ง เท่านั้นเอง” นั่นคือต้นเหตุสำคัญ ทำให้ วันต่อมา

 วิธีพูดและการเป็นแบบเดิม ที่เคยสร้างกำแพงนั้น ถูกเปิดออกไปช้าๆ

     นั่นคือ พลังใหม่ ที่ได้สัมผัส มาก่อนและนั่นคือจุดเปลี่ยน มายัง สัปดาห์ที่5 ของคลาสนี้ ทำให้ทุกคนในห้อง พึงพอใจ 

   บางคนอาจไม่พอใจ “โจ เป็นบ้าอะไร แค่ตัวตนที่เราอยู่มันดีแล้วนะ.....???” 

   แม้กระทั่ง แม่ชีถามเราว่า “โจ เกิดขึ้นไปยังไงกัน” มันเกิดอัศจรรย์มากๆ และ เป็นเรื่องตลกสุดๆ

     ตลอดจน สัปดาห์ที่6 แต่มันชนกับสงกรานต์เลยหยุดไป มันมีโมเม้นท์  หนึ่ง ตอนหลับ ได้เกิดฝันร้ายเกิดขึ้น เพื่อนคนที่บาดหมางในอดีต ตามเอาคืนอีกครั้ง แต่ ตัวตนภายในของเรา ต่างไป เราได้พลังแห่งการแยกแยะจากความทุกข์ทรมาร ของคนๆนั้น และสัมผัสถึงพลังงานบางอย่าง ขึ้นมาแล้ว และหลังสงกรานต์ ผมอาศัยจังหวะก่อนที่ แอดวาร์น มาถึง จดรายชื่อ คนที่เราเคยหักล้าง หรือ บด เค้าอยู่ มาให้หมดจากหนังสือรุ่น มีเท่าไหร่จดให้หมด จนถึงสัปดาห์ที่ 6 ก็มาฝึกฝนตนเอง จากห้องเรียนนั้น จนกระทั่ง วันศุกร์ เข้า แอดวาร์น ซึ่งเป็นหลักสูตรการใช้ชีวิต อีกระดับหนึ่ง

     วันแรก แบ่งกลุ่ม กลุ่มละ5ห้อง (กรูว่า ไม่ได้มานั่งอย่างเดียว มาจัดการอะไรไม่รู้แหละ)

     วันที่สอง ก็หยิบกระดาษที่เราจดชื่อไป โทรหาเค้า บอกว่ารู้สึกอย่างไร ???

     วันที่สาม มีการทำเวิร์คช็อปสำคัญคือ มองหน้า ซึ่ง ในชีวิต ผมหลบตา มาตลอด จำได้ตอนที่เจ็บ

  คือ ตอนเพื่อนรู้ว่าผิดจริงแล้วออกมาขอโทษ เรากับให้ Feedback โดยการสร้างกำแพง และหลบตาเค้า

  สุดท้าย ก็มี ให้ต่อแถว ประกาศสิ่งที่สร้างหลังจากนี้ ทุกคน เข้าแถวกันระเนระนาด เลย มาถึงตัวผม 

   ผมพูดว่า “ ความเป็นไปได้ที่สร้างขึ้น สำหรับผมแล้ว ผมจะเป็นพลังโอบล้อมที่ยิ่งใหญ่ เป็นความอ่อนโยนให้ผู้คน 

   และ เป็นจุดยืนให้กับประเทศไทย.........” ทุกคนมาแสดงความยินดี จำนวนมาก

  ( เหมือนนักมวย มาจากญี่ปุ่น ที่ชกชนะ แล้ว มีลีลาการเต้น การชก รวมกันเป็นคนเดียว )

  จนถึงคืนวันอังคาร ไม่รู้ว่า ไปต่อ คลาสผู้นำหรือไม่ อันนั้น ขึ้นอยู่กับอนาคตแล้ว............

Credit : YouTube Channel FayeFangKaewofficial