นายกฯ ชู 'คุณธรรม-จริยธรรม' วาระแห่งชาติ
แก้ไข พ.ร.บ.ระเบียบบริหาร และ พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการพลเรือน กันผลประโยชน์ทับซ้อนนักการเมือง “สุรยุทธ์” เตรียมประกาศให้ “คุณธรรม-จริยธรรม” เป็นวาระแห่งชาติ วันนี้ พร้อมวางแนวทางป้องกันการทุจริต วงราชการ เปิดโอกาสประชาชน-เอกชนมีส่วนร่วมตรวจสอบข้อมูลภาครัฐ พร้อมเดินหน้าแก้ไข พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน กันผลประโยชน์ทับซ้อน นักการเมือง
คุณหญิงทิพาวดี เมฆสวรรค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าในวันที่ 8 ธันวาคมนี้ จะมีการประชุมเชิงปฏิบัติการเรื่องวาระแห่งชาติด้านคุณธรรมและจริยธรรม ซึ่งจะเป็นการวางแนวทางในการป้องกันการประพฤติทุจริตมิชอบในวงราชการ โดย พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี จะประกาศให้เรื่องคุณธรรมและจริยธรรมเป็นวาระแห่งชาติ และให้มีการดำเนินการทั้งในระดับบุคคลและระดับองค์กร ทั้งนี้ การดำเนินการในระดับบุคคลนั้น จะให้ผู้บังคับบัญชาเป็นผู้ประเมินผลข้าราชการในสังกัด เนื่องจากเป็นผู้ที่ทราบว่าข้าราชการแต่ละคนมีความรู้ความสามารถอย่างไรและมีพฤติกรรมอย่างไร โดยผู้บังคับบัญชามีหน้าที่สอดส่องดูแลและให้กำลังใจข้าราชการมีความซื่อสัตย์สุจริต มีคุณธรรม จริยธรรม และหากข้าราชการคนใดหลงผิดก็เปิดโอกาส ให้กลับตัวเป็นคนดี ส่วนการดำเนินการในระดับองค์กร หรือส่วนราชการระดับกรมและกระทรวงนั้น จะมีการกำหนดตัวดัชนีชี้วัดด้านคุณธรรมและจริยธรรม เพื่อประเมินผลการทำงานขององค์กร เนื่องจาก 2-3 ปีที่ผ่านมา มีการประเมินในเชิงตัวเลขเป็นจำนวนมาก แต่ไม่ได้ทำให้มีการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมองค์กร นอกจากนี้จะปรับปรุงระบบการให้โบนัสส่วนราชการตามผลงานให้ความยุติธรรม
ส่วนงบประมาณจำนวน 62,000 ล้านบาท ที่จะนำมาใช้ในโครงการเรื่องคุณธรรม จริยธรรม ด้านใดบ้างนั้น คุณหญิงทิพาวดี กล่าวว่า ยุทธศาสตร์ของทางราชการจะมีเรื่องงบประมาณในส่วนธรรมาภิบาลค่อนข้างมาก ซึ่งเป็นงบการบริหารราชการแผ่นดิน ในความหมายของแผนงานด้านธรรมาภิบาล คุณธรรม จริยธรรม คือ การบริหารองค์กรที่ทุกส่วนราชการต้องจัดรูปแบบองค์กร และกระบวนการบริหารงาน โดยคำนึงถึงหลักธรรมาภิบาล หรือหลัก 4 ป. ของนายกรัฐมนตรี “การดำเนินการในระดับองค์กรขอให้ยึดหลัก 4 ป. คือความโปร่งใส การตัดสินใจต้องคำนึงถึงความเป็นธรรม ทั้งกับเจ้าหน้าที่ ประชาชน และผู้ประกอบการ ส่วนการประหยัดนั้น ต้องใช้จ่ายงบด้วยความประหยัด ส่วนใดที่จำเป็นต้องใช้ก็ใช้ แต่ต้องใช้ให้คุ้มค่า และต้องคำนึงถึงประสิทธิภาพ” คุณหญิงทิพาวดี ระบุ พร้อมกันนั้น ในการป้องกันการทุจริตในวงราชการจะเปิดโอกาสให้ประชาชนและภาคเอกชน เข้ามามีส่วนร่วมในการรับรู้ข้อมูลต่าง ๆ เกี่ยวกับการดำเนินงานของภาคราชการมากขึ้น เพื่อให้เกิดความโปร่งใสในการทำงานราชการ
คุณหญิงทิพาวดี กล่าวว่า ที่ผ่านมาตนได้สั่งการให้ดำเนินการยกร่าง พ.ร.บ.การบริหารราชการของคณะรัฐมนตรี (ครม.) รวมทั้งแก้ไข พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน และ พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการพลเรือน เพื่อให้เกิดความรัดกุมในการปฏิบัติราชการ ส่วนการห้ามไม่ให้ครอบครัวนักการเมืองรับสัมปทานจากรัฐนั้น เรื่องนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับผลประโยชน์ทับซ้อน ซึ่งกระทรวงยุติธรรมและสำนักงานปลัดสำนักนายกฯ จะเสนอกฎหมายต่อไป
กรุงเทพธุรกิจ 8 ธ.ค. 2549
ไม่มีความเห็น