หากมีใครถามว่า ทำไมถึงได้สมัครวิ่งและวิ่งมากมาย คำตอบจริงๆ ครูนกไม่อาจรู้ได้ว่า จริงๆ คำตอบไหนจะใช่ที่สุดได้แต่เดาใจตนเองอยู่เหมือนกัน
อยากวิ่งเพราะมีเป้าหมายอยากวิ่งมาราธอนสักครั้ง มิใช่เพื่อใคร แต่เพื่อวัดใจและสมรรถนะร่างกายเรา คงไม่ใช่ตอนนี้ ปีนี้แต่คงอีกเมื่อครูนกอายุหกสิบปี
อยากวิ่งเพราะการวิ่งน่าจะเป็นกีฬาที่ลงทุนน้อย แต่เมื่อวิ่งไปสักระยะพบว่า ไม่ใช่เลย เลยพูดติดตลกว่า การวิ่งเป็นสิ่งมีค่า "ค่าสมัครวิ่ง ค่ารองเท้าสำหรับการวิ่ง ค่ากางเกง ค่าถุงเท้า และค่าโบนัสที่ให้กำลังใจตนเองทุกๆสนาม"
อยากวิ่งเพราะอยากมีสุขภาพกายแข็งแรง และสุขภาพจิตดี ด้วยจะได้ยินคำว่า "วัยทอง" "มนุษย์ป้า" อีกมายมายที่อาจจะเกิดขึ้นเมื่อวัยเรามากขึ้นระดับฮอร์โมนมีการเปลี่ยนแปลง เลยใช้การวิ่งเป็นวิตามินเสริม
อยากวิ่งเพราะการวิ่่งของเรามีส่วนช่วยเหลือสังคมเล็กๆน้อยๆ เช่น สมทบทุนให้โรงเรียน โรงพยาบาล และกองทุนต่างๆ
นั่นคือเหตุผลทั้งหมดทำให้ครูนกเข้าสู่ลู่วิ่ง แบบจริงๆแต่ไม่จริงจัง แต่พยายามให้เป็นวิถีปกติของชีวิต
แล้วปี ๒๐๑๘ หรือปีจอที่ผ่านมาครูนกได้ทำอะไรไปบ้าง
- เย็นๆ หากมีเวลาว่าง ไม่ติดภาระงานใดๆ จะวิ่งที่สนามกีฬาพรุค้างคาวเป็นสถานที่หลัก สลับกับเสาร์และอาทิตย์ที่จะปั่นจักรยานจากบ้านไปตลาด ได้ซื้อของ ได้ชมวิว และได้ออกกำลังกายที่เสริมสมรรถนะด้านกล้ามเนื้อ
- ครูนกสมัครวิ่งโดยเน้นที่หาดใหญ่-สงขลาเป็นหลัก มีไกลสุดคือ พิษณุโลก นั่นคือจังหวะไปอบรมฯของกระทรวงพลังงานแล้วทราบข่าวการจัดวิ่งที่่นั่นเลยสมัคร...ทำให้ได้มิตรผ่านทาง FB มาหนึ่งไลน์ซึ่งเป็นนักวิ่งมืออาชีพคือ คุณกล้วยไข่หวาน ที่ให้คำแนะนำและกำลังใจที่ดีต่อการวิ่ง
- หากจำแนกประเภทการวิ่งครูนกก็ลงเพียง ๒ ประเภทคือ ฟันรัน (ระยะอยู่ที่ ๔ - ๕ กิโลเมตร) และมินิมาราธอนในช่วงหลังๆ (ระยะอยู่ที่ ๑๐ - ๑๕ กิโลเมตร) รวมทั้ง ๒ ประเภทในรอบปีที่ผ่านมาคือ ๒๓ ครั้ง เป็นมินิฯ เพียง ๗ ครั้ง โดยครูนกตั้งเป้าว่า ถ้าวิ่งมินิฯ ครบ ๑๐ ครั้ง อาจจะขยับลองไปฮาล์ฟมาราธอน แต่ไม่ปักธงนะคะ...เพราะใจยังไม่สู้ค่ะ
- การวิ่งที่ประทับใจที่สุดคือ มินิมาราธอนครั้งแรกในสนาม "หาดใหญ่มาราธอน'61" การสมัครสะดวก การรับบิบและเสื้อก็รวดเร็ว สถานที่จอดรถตนเองเลือกได้เส้นทางได้ตอบโจทย์รถติดมากมายทำให้คล่องตัวสูงแม้จะต้องจอดไกลจากสนามเล็กน้อย เพื่อนร่วมวิ่งมีชาวต่างชาติมากทำให้ครื้นเครง ตลอดเส้นทางการวิ่งมีหยุดเดินบ้างถือว่าน้อยด้วยพยายามให้กำลังใจตนเองว่า ถ้าคนอื่นไม่หยุดเราก็ต้องไม่หยุด วิ่งไปอ่านป้ายสองข้างทางไปก็เพลินๆดีค่ะ ผลจากการวิ่งวันนั่นค่อนข้างเป็นวิทยาศาสตร์ในการเก็บข้อมูลคือ 10 km ใช้เวลา 1 ชั่วโมง 22 นาที 14 วินาที
- การวิ่งที่ต้องให้กำลังใจตนเองสุดคือ การวิ่งที่บึงราชนก ด้วยลุ้นคนจัดงานว่าจะทำสำเร็จมั๋ย จะมีใครมาปล่อยตัวเรามั๋ย ห้องน้ำสำหรับนักวิ่งหายากมากเป็นครั้งที่วิ่งไปแล้วอยากเข้าห้องน้ำสุดๆ แต่เราก็ผ่านมาได้ค่ะ
สำหรับปี 2019 ก็ยังจะวิ่งต่อๆไป แต่เน้นที่การจัดเพื่อสมทบทุนโรงพยาบาล หรือโรงเรียนที่ด้อยโอกาส และพยายามช่วยลดขยะจากขวดพลาสติก หรือถ้วยพลาสติกที่เกิดจากการวิ่งของเรา หากไม่ใช่คงจะขอผ่านๆ วิ่งเก็บระยะไปรอบๆบ้าน น่าจะดีต่อใจ ต่อสุขภาพค่ะ ที่สำคัญดีใจเมื่อการวิ่งของเราทำให้หลายๆคนรอบๆตัวสนใจการวิ่ง เป็นกำลังใจให้นะคะ ต้องมีจุดเริ่มต้นแล้วเราก็จะก้าวไปเรื่อยๆ ในสนามของคนรักการวิ่งเพื่อสุขภาพ
สู้ ๆ ครับครูนก วิ่งงานบ้าง วิ่งเองบ้าง สำคัญอยู่ที่ความตั้งใจและความพยายามและการระมัดระวังรักษาสุขภาพ อย่างให้หนักจนเกินกำลังครับ
ขอบคุณน้องโนบิตะค่ะ…พยายามจะไม่ให้เกินกำลังตนเองค่ะ ของพี่นกเน้นช้าๆนะครับ