สมาธิ..สมาธิ..สมาธิ.. คนโน้นก็พูดถึง.. คนนี้ก็พูดถึง.. รายการทีวี รายการวิทยุ รายการอื่น ๆ ต่างก็พูดถึงสมาธิ
..
สมาธิมีดีอะไร? แล้วคุณวิเศษของการทำสมาธิคืออะไร?
ผมเองก็เป็นคนหนึ่งครับ ที่ค้นหาคำตอบนี้ให้กับตัวเอง
วันนี้ผมเชื่อว่า..ผมได้คำตอบบางอย่างในคุณวิเศษของการทำสมาธิ และขอนำประสบการณ์ที่ได้รับมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เล่าสู่กันฟัง และต่อจากนี้ เราจะเริ่มค้นหา “คุณวิเศษของการทำสมาธิ” ไปพร้อม ๆ กัน
ช่วงชีวิตของคน ๆ หนึ่ง...ต่างมีเรื่องราวผ่านเข้ามาในชีวิตมากมาย มีทั้งเรื่องราวของความสุขและความทุกข์ปะปนคลุกเคล้ากันไป
การมองชีวิตของผม... ผมมองความสุขที่ผ่านเข้ามาในชีวิตแบบง่าย ๆ ไม่ว่าจะเป็นความสุขจากการได้อยู่ในครอบครัว ที่อบอุ่น กินอิ่มนอนหลับ ความสุขจากการได้วิ่งเล่นสนุกสนานในวัยเยาว์ ความสุขที่ได้ศึกษาเล่าเรียนจบมามีงานทำ และเมื่อถึงคราวมีคู่ชีวิต สร้างครอบครัว ผมก็รู้รสชาติของความสุขในแบบเดียวกัน คล้าย ๆ กันมาโดยตลอด สำหรับความทุกข์ก็เช่นกัน ความทุกข์จากความไม่สมหวังในชีวิต ความทุกข์จากหน้าที่การงานหรือภาระหนี้สินต่าง ๆ เป็นต้น สิ่งเหล่านี้ หากเลือกได้ ผมอยากเลือกแต่สิ่งดี ๆ ที่ผ่านเข้ามาในชีวิตของผม และสิ่งนั้นก็คือ “ความสุข” เชื่อมั้ยครับ... ไม่ว่าใครก็ตาม ก็เลือกรับแต่สิ่งดี ๆ ที่ผ่านเข้ามาในชีวิตเช่นเดียวกับผม
..
วันนี้ผมได้ทบทวนความสุขที่ผ่านเข้ามา... ความสุขที่ได้รับนั้น ผมกลับมีความรู้สึกว่ายังไม่อิ่ม ยังไม่พอกับความสุขที่ผมได้มา ผมยังคงไขว่คว้าหาความสุขแบบนี้เรื่อยมา โดยไม่มีวี่แววว่าความสุขที่เติมเต็มเข้ามาในชีวิตของผมนั้นจะหยุดลงตรงไหน.. ช่วงเวลาใด ? …
อยู่มาวันหนึ่งครับ.. ผมได้ขับรถผ่านป้ายโฆษณาที่ติดไว้ริมทาง ข้อความบางส่วนบนป้ายโฆษณานั้น มีใจความว่า “มาเรียนสมาธิกันเถอะ”..เรียนฟรี!! ทุกวันนี้ของฟรีที่ผมเคยอ่านตามสื่อโฆษณาต่าง ๆ มีอยู่อย่างดาษดื่นในสังคมบ้านเรา แต่ในวันที่ผมสะดุดตากับถ้อยคำบนป้ายโฆษณาแผ่นนั้น มีบางสิ่งบางอย่างสะกิดใจผม ทำให้ผมอยากค้นหาคำตอบครับว่า “สมาธิที่แท้จริง คืออะไร?”
..
ต่อจากนั้นผมก็ได้เริ่มต้นค้นหาคำตอบ เมื่อผมได้เรียนรู้สมาธิและลงมือปฏิบัติ กลับทำให้ผมรู้ว่า สมาธินั้นมีดีมากกว่าที่ผมคิด และจากวันนั้นเป็นต้นมา ผมได้สัมผัสรสชาติของคำว่า “สมาธิ” อย่างแท้จริง
“หลักสูตรครูสมาธิ ตามแนวทางของพระอาจารย์หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินฺธโร” เป็นหลักสูตรที่เรียนเข้าใจง่าย เรียนแล้ว นำไปปฏิบัติได้ด้วยตนเอง ทั้งการเดินจงกรมและการนั่งสมาธิ เมื่อลงมือปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอต่อเนื่องไปสักระยะหนึ่ง ทำให้รู้สึกว่า ผมนอนหลับง่ายขึ้น อารมณ์ที่เคยหงุดหงิด คิดหรือกังวลในเรื่องต่าง ๆ เกิดขึ้นน้อยลง ผมมีสติและใจเย็นขึ้น มีความรอบคอบมากขึ้น ที่สำคัญผมมีความรู้สึกลึก ๆ ครับว่า ใจของผมนั้น มีความสุขมากกว่าก่อน ความสุขที่ผมค้นพบจากการทำสมาธินี้ แตกต่างจากความสุขที่ผมเคยสัมผัสมา ความสุขนี้เป็นความสุขที่ลึกซึ้งกว่า อิ่มเอิบใจกว่า และเป็นความสุขที่เจือไปด้วย“ความสงบ”ครับ ความสุขสงบนี้เอง ที่ทำให้ผมมั่นใจว่า นี่คือ“ความสุขแท้”
ผมทำสมาธิ ด้วยการบริกรรม “พุทโธ” วางคำบริกรรมไว้ที่ฐานของจิต ทุกครั้งที่ทำสมาธิ เมื่อจิตรวม จิตเป็นหนึ่ง จิตเกิดสมาธิ เมื่อจิตเกิดสมาธิแล้ว จะเกิด “พลังจิต” พลังจิตที่เกิดขึ้นนี้จะเก็บสะสมไว้ที่ฐานของจิตเสมอ ผมปฏิบัติอย่างนี้เรื่อยมาเสมอมา เป็นเวลากว่า 4 ปี นับจากวันที่ผมได้เรียนรู้สมาธิ
ช่วงปีแรก หลังจากที่ผมได้เรียนสมาธิ มีเหตุการณ์ร้ายแรงเกิดขึ้นกับครอบครัวของผม กับภรรยาของผม ซึ่งเธอได้ล้มป่วยลง ด้วยภาวะเส้นเลือดในสมองแตกเฉียบพลัน โอกาสที่เธอจะรอดชีวิตและกลับมาใช้ชีวิตตามปกตินั้นมีน้อยมากหรืออาจจะไม่มีเลย และถ้าหากเธอรอดชีวิต โอกาสที่เธอจะกลายเป็นผู้พิการ นอนติดเตียง เดินไม่ได้ ทำอะไรไม่ได้ไปชั่วชีวิตนั้นมีสูงด้วยเช่นกัน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ วินาทีแรกที่ผมคิดใจก็เกิดความทุกข์และสิ้นหวัง แต่ทว่ามีอยู่สิ่งหนึ่งครับที่เข้ามาเตือนสติให้ผมคิดและลงมือปฏิบัติโดยทันที สิ่งนั้นก็คือ การทำสมาธิ “การอธิษฐานจิตในสมาธิ” ผมทำสมาธิและอธิษฐานจิตให้ภรรยาของผม ในช่วงเวลาที่เธอป่วย ผมอธิษฐานจิตขอให้ภรรยาของผม ผ่านพ้นวิกฤตินี้ไปได้ ถึงแม้นว่าขณะนั้น การปฏิบัติสมาธิของผมจะเป็นเพียงแค่การเริ่มต้นก็ตาม นับจากวันที่เธอป่วยและรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลนานนับเดือน ผมได้อธิษฐานจิตในสมาธิให้กับเธอเรื่อยมา และแล้วปาฏิหาริย์ก็เกิดขึ้นกับครอบครัวของผมครับ แทนที่เธอจะต้องกลายมาเป็นผู้พิการ นอนติดเตียง เธอกลับเดินได้ ช่วยเหลือตัวเองได้ ถึงแม้นว่าจะไม่สมบูรณ์ทั้งหมดก็ตาม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ทำให้ผมรู้สึกว่า คำอธิษฐานจิตในสมาธิที่ผมปฏิบัติมาโดยตลอดนั้น ได้ปรากฏสิ่งอัศจรรย์ใจที่ผมไม่เคยสัมผัสมาก่อน หรือว่านี่คือ...“คุณวิเศษของการทำสมาธิ”
...................................................
วันเวลาล่วงเลยผ่านไป ประมาณ 3 ปีหลังจากภรรยาของผมป่วยและผ่านพ้นวิกฤติชีวิตในครั้งนั้นมาได้ ได้เกิดสิ่งที่ทำให้ผมรู้สึกอัศจรรย์ใจอีกครั้ง..สิ่งอัศจรรย์ใจครั้งนี้เกิดขึ้นมาเมื่อประมาณต้นปี พ.ศ. 2561 เหตุการณ์ครั้งนี้ได้เกิดขึ้นกับพ่อของผม ซึ่งปีนี้ท่านอายุย่างเข้าปีที่ 90 ลูก ๆทุกคนหวังไว้เพียงว่า อายุของพ่อขนาดนี้ อยากให้พ่อใช้ช่วงชีวิตในบั้นปลาย อยู่กับลูกหลาน อยู่ที่บ้านของเราอย่างมีความสุข แต่แล้วคืนหนึ่งได้มีเหตุการณ์ร้ายแรงเกิดขึ้นกับพ่อจนได้ คืนนั้น..พ่อของผมท่านปวดในช่องท้องเป็นอย่างมากปวดจนทนไม่ไหว ลูก ๆ ต่างช่วยกันนำตัวพ่อส่งโรงพยาบาล กลางดึก แต่อาการปวดในช่องท้องของพ่อกลับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนแพทย์ต้องให้ยาแก้ปวดอย่างแรงบรรเทาความปวดในช่องท้องแก่พ่อ เช้าวันรุ่งขึ้น แพทย์ผู้รักษาได้ลงความเห็นว่าต้องนำพ่อเข้ารับการผ่าตัดเป็นการด่วน เนื่องจาก คาดว่าอาการปวดท้องน่าจะเป็นอาการของลำไส้แตกในช่องท้อง วินาทีแรกที่ทราบเรื่องลูกทุกคนต่างนั่งรอเป็นกำลังใจ ให้กับพ่อบริเวณหน้าห้องผ่าตัดของโรงพยาบาล แต่สำหรับผมแล้ว ผมเลือกที่จะหามุมสงบของโรงพยาบาล ทำสมาธิและอธิษฐานจิตให้กับพ่อ การผ่าตัดครั้งนี้ใช้เวลานานร่วมครึ่งวัน สุดท้ายแพทย์เดินออกมาพร้อมกับแจ้งผลการผ่าตัด ให้ทราบว่า ลำไส้ของพ่อแตกในช่องท้อง และพบเนื้อร้ายที่คาดว่าน่าจะเป็นมะเร็งอุดตันอยู่ จำเป็นต้องตัดลำไส้ทิ้งเกือบทั้งหมด พ่อมีโอกาสติดเชื้อในกระแสเลือดสูง เนื่องจากลำไส้แตกอยู่ในช่องท้องนาน หลังจากการผ่าตัดพ่อถูกนำเข้าห้องไอซียู ซึ่งเป็นห้องที่ดูแลผู้ป่วยอาการหนักและเสี่ยงต่อการเสียชีวิต หลังจากนั้นไม่กี่วัน พ่อสามารถผ่านวิกฤติของการติดเชื้อในกระแสเลือดมาได้ แต่อาการแทรกซ้อนอย่างอื่นก็เกิดขึ้นมาแทน นั่นคือ พ่อไม่สามารถหายใจได้ด้วยตัวเอง ต้องใส่ท่อช่วยหายใจ อาการของพ่อทรุดหนักลงอีกครั้ง จนลูก ๆ ทุกคนได้แต่ภาวนาขอให้พ่อปลอดภัย พ่อรักษาตัวอยู่ที่ห้องไอซียูนานร่วมเดือน สุดท้ายแพทย์ได้ลงความเห็นว่า มีวิธีเดียวที่พ่อจะรอดชีวิตและมีชีวิตอยู่ต่อไปได้ นั่นก็คือ การเจาะคอ
..................................................
ตลอดระยะเวลาร่วมเดือนที่พ่ออยู่ห้องไอซียู ผมได้อธิษฐานจิตในสมาธิให้กับพ่อมาโดยตลอด ขอให้พ่อหายป่วยจากอาการติดเชื้อ ขอให้พ่อหายใจเองได้ โดยไม่ต้องเจาะคอ ปาฏิหาริย์ได้เกิดขึ้นก่อนหน้านี้มาครั้งหนึ่งแล้ว พ่อรอดชีวิตจากการติดเชื้อในกระแสเลือด และในครั้งนี้ปาฏิหาริย์ก็ได้เกิดขึ้นมาอีก ก่อนที่พ่อจะเข้าห้องผ่าตัดเพื่อทำการเจาะคอเพียงไม่กี่ชั่วโมง พ่อกลับมาหายใจได้ด้วยตัวเองอย่างไม่น่าเชื่อ ผมเองไม่อยากจะเชื่อเลยครับว่า ได้เกิดสิ่งปาฏิหาริย์เกิดขึ้นกับพ่อครั้งแล้วครั้งเล่า สุดท้ายพ่อสามารถรอดชีวิตมาได้อย่างน่าอัศจรรย์ วันนี้พ่อได้กลับมาอยู่ที่บ้านของเรา แม้นว่าบั้นปลายชีวิตของพ่อที่เปรียบเหมือนไม้ใกล้ฝั่ง พ่ออาจจะมีชีวิตอยู่กับลูก ๆ กับครอบครัวของพ่อต่อไปได้อีกไม่นาน แต่ผมเชื่อครับว่า ในทุก ๆ วันที่พ่อมีชีวิตอยู่ พ่อสามารถใช้ชีวิตบั้นปลายของพ่อนี้อยู่กับมะเร็งระยะสุดท้ายได้อย่างสงบ ตามอัตภาพที่พ่อเป็น และเมื่อมาถึงบรรทัดนี้ ผมมีความเชื่อมั่นครับว่า นี่คือ “คุณวิเศษของการทำสมาธิ”
..
..
ประสบการณ์เกี่ยวกับสมาธิที่ผมเล่ามาทั้งหมดนี้ เป็นเรื่องจริงที่ผ่านเข้ามาในชีวิตของผมซึ่งมีประโยชน์ต่อตัว เอง ต่อครอบครัวและสังคม หากท่านกำลังประสบปัญหาในการใช้ชีวิต กำลังท้อแท้สิ้นหวังหมดกำลังใจ หรือผู้ที่ต้องการแสวงหาความสุขสงบในชีวิต การได้เรียนรู้วิชาสมาธิ ซึ่งเป็นองค์ความรู้ที่มีค่ายิ่งเหนือสิ่งอื่นใดในชีวิตของ “พระอาจารย์ หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินฺธโร” นั้น จะทำให้ท่านได้สัมผัสถึง “คุณวิเศษของการทำสมาธิ” อย่างแท้จริง
สุขสันต์ปีใหม่ครับ
ขอบคุณมากค่ะที่แบ่งปันประสบการณ์ที่ได้รับจาก สมาธิ ทำให้คิดว่า ตัวเองน่าจะหันมาฝึกสมาธิให้มากขึ้นค่ะ
กำลังคิดว่าอยากเรียน แต่การเรียนใช้เวลานานมาก เราจะจัดสรรเวลาอย่างไร