จุดเกิดเหตุ เคยตั้งใจจะเปิดสมุดแล้วเขียนบันทึกเกี่ยวกับการวิ่งแต่จนแล้วจนรอดก็ไม่เกิดสักที จนมาถึงเมื่อวานที่ไปวิ่งเป็นกิจวัตรประจำที่ทำสม่ำเสมอได้ตั้งใจว่าวิ่งเสร็จแล้วจะต้องเขียนอนุทินการวิ่งวันนี้ และคิดเลยไปว่าจะต้องเขียนบันทึกการวิ่งในแต่ละครั้ง หรือที่ผ่านมาไว้เป็นประสบการณ์ เป็นแรงบันดาลใจ หรือเป็นเรื่องที่น่าจะเป็นประโยชน์แก่คนที่ได้อ่านบ้าง ก็เลยได้บันทึกนี้ขึ้นมา
ไม่ได้ตั้งใจให้บันทึกเหล่านี้เป็นงานวิชาการที่มีสาระอะไรมากมาย เพราะเป็นคนไม่มีสาระอยู่แล้ว เอาเป็นว่าจะพยายามเล่าให้ฟังว่า ทำไมถึงเลือกการออกกำลังกายด้วยการวิ่ง เริ่มวิ่งตอนไหน ใครเป็นไอดอล แล้วได้กำลังใจมาจากอะไร หรือวิ่งแล้วพบเจออะไร และวิ่งแล้วบาดเจ็บแบบไหน แก้ไขอย่างไร แบบบ้าน ๆ นะครับ หรืออาจจะมีนอกเรื่องไปบ้างในบางเวลา
ผมใช้ชื่อบันทึกนี้ว่า ใช้หัววิ่ง ก็ไม่ได้หมายความว่า ต้องตีลังกาวิ่งให้ลำบาก หรือพิศดารอะไรอย่างนั้นนะครับ แต่ถ้าทำได้ก็คงจะได้ออกรายการทีวีหลาย ๆ รายการเลยล่ะ พวกประเภทอยากโชว์ของแปลกอะไรทำนองนี้.. มาเข้าเรื่องต่อ .. ผมสังเกตตัวเองเสมอว่าการวิ่งออกกำลังกายทุกครั้ง เมื่อเริ่มต้นวิ่ง ผมก็จะเริ่มต้นคิด .. คิดเรื่องโน้น เรื่องนี้ คิดเรื่องงานที่ทำงาน คิดโครงการโน่น นี่ มีไอเดียต่าง ๆ ผุดขึ้นมากมากเสมอ ซึ่งจริง ๆ แล้วไม่ได้ตั้งใจคิด แต่มันจะผุดขึ้นมาเอง (เหมือนตอนผมนั่งสมาธิ พอหลับตาภาวนาเท่านั้นแหละ ความคิดไหลหลากมาเป็นน้ำป่าเลยเชียวล่ะ)
การมีความคิดผุดขึ้นมาตอนวิ่ง สำหรับผม ผมก็ปล่อยให้ใจผมคิดไปเรื่อย ๆ บางที เอางานที่ค้าง ๆ มาคิดต่อตอนวิ่ง ความคิดไหลไม่หยุดมีไอเดียใหม่ ๆ ให้ทำงานต่อได้เลยทีเดียว หรือบางทีเครียด ๆ ก็เอามาคิดตอนวิ่ง คิดไปคิดมา วนไปวนมา ทำให้เราวิ่งได้แบบไม่ค่อยรู้สึกเหนื่อยหรือเมื่อยล้าเทาไรนัก พอวิ่งเสร็จเหงื่อแตกชุ่ม สมองปลอดโปร่ง ก็หยุดคิดแล้วก็สบายใจไปเอง เหมือนกับเป็นการบำบัดจิต บำบัดสมองสำหรับผมเลยล่ะ
แต่ผมก็คิดว่า การคิดถึงเรื่องราวต่าง ๆ ระหว่างวิ่งออกกำลังกายคงจะไม่ใช่สิ่งที่เหมาะกับทุกคนแน่ ๆ เพราะหากเราคิดฟุ้งซ่านจนลืมตัวเราอาจจะวิ่งไปสะดุดอะไรทำให้หกล้มเกิดอุบัติเหตุได้ ถ้ารู้ตัวว่าวิ่งแล้วความคิดมันผุดมา ก็พยายามทำตัวเองให้รู้ตัวว่ากำลังคิดอะไร และกำลังทำอะไรอยู่ก็จะเป็นประโยชน์นะครับ ได้ทั้งการออกกำลังกาย และได้ทั้งการฝึกสติฝีกสมาธิไปด้วย
หลังจากวิ่งได้ระยะทางและเวลาที่พอเหมาะกับสภาพร่างกายของเราเองแล้ว เราจะได้รู้ว่าความสุขมันเกิดขึ้น ณ เวลานั้นเลยจริง ๆ ครับ ความสดชื่นจะบังเกิด กลับบ้านก็จะได้กินอิ่มและนอนหลับ (555 ใครยังเว้นการกินหลังจากออกกำลังกายไม่ได้เหมือนผมก็จงกินนะครับ 555)
ไม่มีความเห็น