กว่าจะได้กล่าวทักทายอีสตันบูลครูนกใช้คำว่ารอนแรมเลยค่ะจากสนามบินนานาชาติหาดใหญ่สู่สนามบินดอนเมืองขึ้นรถโดยสารที่เรียกว่า Airport Shuttle bus แบบฟรีเพียงแค่โชว์หลักฐานการบินที่จะไปใช้สนามบินพร้อมยื่นแขนให้ประทับโลโก้หนึ่งครั้งไปสู่สนามบินสุวรรณภูมิ หลังจากเติมสารอาหารก็เตรียมบินกันรอบดึกเลยด้วยสารการบิน Royal Jordanian ซึ่งประทับใจในคำถามเพื่อจะรับการเสิร์ฟอาหารว่า จะเลือก Shrimp หรือChicken แต่กว่าจะจับคำแรกของประโยคได้ครูนกก็พยายามฟังบทสนทนาก่อนหน้านี้ระหว่างแอร์โฮสเตสกับผู้โดยสาร จากนั้นครูนกเลยตัดสินใจใช้คำว่า Seafood ในการสื่อสารแทนคำว่า Shrimp เพราะไม่อยากชิมแล้วอยากกินข้าวมากกว่า เปิดกล่องข้าวน้อยออกมา...กุ้งเต็มลานข้าวเลยแต่อร่อยนะคะ หลับตื่นก็ถึงท่าอากาศยานฮัมมานประเทศจอร์แดนในเวลาดึกต้องบอกว่าเป็นสนามบินที่สะอาด สงบและมีร้านกาแฟ ร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึกมากมายที่สำคัญมี Free wifi ทุกจุดค่ะ รอจนกระทั่งตกหลุมรักประเทศจอร์แดนอีกประเทศหนึ่งที่ปักหมุดว่า ควรมาเที่ยวจอร์แดน
ใกล้เที่ยงของวันใหม่ในชุดเดิมจึงจะได้ขึ้นเครื่องเพื่อไปท่าอากาศยานอีสตันบูล อาตาตูร์ก (Istanbul Atatürk Airport) เป็นการยกย่องผู้นำของประเทศตุรกีที่มีบาทบาทสำคัญมากมาย “มุสตอฟา กามาล อตาเติร์ก” (Mustafa Kemal Ataterk) บรรยากาศของท่าอากาศยานที่นี่แตกต่างมากมายกับของประเทศจอร์แดนด้วยมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากรอตรวจเอกสารของหน่วยงานตรวจคนเมืองแต่ทุกอย่างก็ใช้เวลาไม่นานอย่างที่คาดเจ้าหน้าที่ทำงานรวดเร็ว มืออาชีพเหมาะกับการเป็นสนามบินหลักของประเทศ และติดอันดับ 1 ใน 5 ของสนามบินที่มีคนใช้บริการมากที่สุดในทวีปยุโรปแต่หากเทียบกับทั้งโลกก็เป็น 1 ใน 10ค่ะ หลังจากนี้ก็เป็นช่วงเวลาเดินทางหรรษกับรถบัสสีขาวพร้อมด้วยไกด์สาวกลมกิ๊กชาวตุรกีที่มีท่าทางกระฉับกระเฉง สำคัญสุดคงอยู่ที่ครูนกถึงแล้วตุรกี “สวัสดี...อีสตันบูล” ไม่รอช้ารีบขึ้นบัสจับจองที่นั่งสุดโปรดของตนเองคือช่วงตอนหลังของบัสริมหน้าต่างบอกได้คำเดียวพร้อมจะชมบ้านชมเมืองเขาแล้วค่ะ ติดตามตอนต่อไปนะคะ
หมายเหตุภาพชุดที่สองเป็นสนามบินภายในประเทศคือท่าอากาศยานอังการา(โชคดีที่่ได้มีโอกาสได้ใช้บริการด้วย)
ไม่มีความเห็น