นุชรัตน์
ดร. นุชรัตน์ ประสิทธิศิลป์ชัย

เที่ยวเวียดนาม ไปกันเอง


                       กว่าจะตัดสินใจ ..ว่าจะไปกับทัวร์ หรือไปกันเอง พอตัดสินใจได้ เลือกไปกันเอง จัดการซื้อตั๋ว จองโรงแรม และ ให้ทัวร์ จัดการให้บางรายการ ส่วนใหญ่เป็นเรื่องการเดินทาง ไม่มีไกด์ ไปกันเอง 9 ชีวิต 

  • เริ่มเดินทางจากดอนเมืองถึงโฮจิมินห์ ขณะที่รอเครื่องบิน ก็ไปนั่งชิว ๆ ที่ king power lounge ที่สนามบิน มีอาหารนาๆ ชนิดให้เลือก ทานทั้งอร่อย บรรยากาศดี (สำหรับ member และผู้ติดตามอีก 1 คน) ขออนุญาตแป้บ สวีท นิดนึง
  • สายการบินแอร์เอเชีย DMK  - SGN สนามบินสนามบินเตินเซินเญิ้ตที่โฮจิมินห์ ใช้เวลาเดินทางจากเมืองไทยไปโฮจิมินห์ซิตี้ 1.40 ชั่วโมง พอถึงสนามบินก็ทยอยๆ กันออกมา ผ่าน ตม. ได้ยินตะโกน จากคุณกด ว่า บอกเขาๆ ว่า 8 people follow me อย่าให้เขาถาม คนที่เหลือ

  • ถึงที่พัก รถบัส 16 ที่นั่ง มารับไปที่ office Vietsea เพื่อรอรถบัสนอน ไปเมืองดาลัด ระหว่างนั้น พวกเราก็ เตร็ดเตร่ หาที่ทานอาหาร กันอย่างตื่นตาตื่นใจ ประทับใจร้านอาหารริมทางกับเบียร์ Red Saigon นุ่ม และไม่เมาเลย ชักสงสัยว่ามันมีดีกรี หรือเปล่า
  • ถึงเวลา ไปนั่งรถอรถบัสนอนกันยาวเหยียด Amazing ถ่ายรูปกับใหญ่ เมืองไทย ไม่มีมีแบบนี้แน่นอน  หลับทั้งคืน

  • ถึง บขส.ดาลัด 4.30 น. จับแท็กซี่ ไป Tulip3 ถามเขาว่าคิดราคาตามมิเตอร์ใช่ป่าว แกตอบใช่ๆๆ พอลงรถ 53000 ดอง แต่ แกเติมศูนย์ให้อีกตัว ไม่ยอมท่าเดียว จะเอา ห้าแสนดอง สุดท้าย ทีม เราแพ้ แท็กซี โวยวายและรีบขับรถหนี มานับเงินอีกที ตกคนละ 100 บาท เสียรู้ แล้ว
  • ตื่นเช้า แต่งตัวที่โรงแรม OMG คนไทยเยอะมาก ๆ แบบ backpack แต่มีแต่เด็กๆ รุ่น 22-27 ปี ทีมเรา ลดอายุ น่าดู ต่อคิวอาบน้ำ ทางโรงแรมก็ไม่ว่า (ยังไม่ถึงเวลาเช็คอิน 14.00 น.) ทำไงได้  ต่อคิว เด็กๆ อาบน้ำคนละ 30 นาที และออกมาแต่งตัวข้างนอก อีก 2 ชม. คริๆๆ ออกมาสวยเช้งกันทุกคนเลย  ได้แต่ขำ เราอาบแค่ 10 นาที แต่คิวสุดท้ายต้องรอเขา เกือบ 2 ขม.
  • ตอนเช้า ทานกาแฟเวียดนามสูตรโบราณ และ เฝอ (เอ้อ อยากกินก๋วยจั๊บ)
  • วันที่ 13 ตุลาคม 2561 เวลา 8.30 น. รถที่จองไว้ล่วงหน้ามารับตามนับ  เอิ่ม ขอแอร์ด้วยค่ะ ..ไม่มีแอร์ครับและที่สำคัญคนขับรถพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ เอาล่ะสิ แต่น้องดัง ก็ฉลาด ขับรถไปหาไกด์เพื่อสื่อสารกับพวกเรา  รถแบบ 9 ที่นั่ง ไม่มีแอร์ มีแต่ลม ที่เมืองดาลัดจะร้อนไหม เนี่ย
  • ผลไม้เยอะแยะ ลูกทัวร์เถื่อนบอก  พูดภาษาอังกฤษ งู ๆ ปลาๆ กันทุกคน บอกให้จอด ซื้อผลไม้ข้างทาง กว่าจะจอด .ซื้อลูกพลับ แตงโม มะกอก ส้มจีน ..แต่ขอบอก ลูกพลับ อร่อยสุด ได้ผลไม้เต็มรถ ก็บอก ให้ เขาจอดซื้อมีดด้วย Driver รูปหล่อ บอก เอาจริงๆ เหรอครับ ..จัดไปราคา 10,000 ดอง ให้ไปถามใหม่อีกครั้งก็ราคาเดิมคิดเป็นเงินไทย 15 บาท
  •  จุดที่ 1 ไปที่น้ำตก Pongour waterfall สวยมาก    ดาหลัต จังหวัดเลิมด่ง เวียดนาม  ไม่รู้จะออกมายังไงพอถึงต้องเดินๆ โดยไม่มีไกด์บอก กลุ่มเราก็เดินสะเปะสะไป ถามไปตามทางประมาณ  1 กม. OMG สวย ม้าก มาก อยู่จุดนี้น่าจะ 1.30 ชั่วโมง เอิบอิ่ม สถานที่แรก ก็ First impression
  • จุดที่ 2  วัดตั๊กลัม (Thien Vien Truc Lam) ที่นี่คือวัดพุทธในนิกายเซน (ZEN) แบบญี่ปุ่น มหายาน อืม เหนื่อยจากน้ำตก นี่ก็จะเที่ยง แต่ดูแล้ว ก็ไม่สูงมากไปไหว้สักหน่อยก็ดี  OMG เป็นครั้งที่ ... สงบ สวยมาก และ เย็น อากาศเย็นสบาย ทำให้พวกเรารู้สึกผ่อนคลาย ได้ถ่ายรูปสวยๆ ไหว้พระ เป็นศิริมงคล
  • จุดที่ 3 Roller Coaster พอไปถึง ที่นี่เที่ยง ก็หิวแล้ว Driver ก็บอกว่า ไปดูก่อน พวกเรานั่งในรถ บอกว่าไม่ดู แต่ไม่ให้คนขับเสียใจ ส่ง ดร.นุช ไปชะโงกดู เอ.. ท่าทางน่าสนใจ แต่มีค่าจ้างขับ สองแสนดอง (ประมาณ 300 บาท) ไม่บังคับใครจะไป .. มี ปุ้ ดร.อ้อย คุณดิษฐ์ คุณแปลง เป็นตัวแทน เราไม่มีข้อมูลเลยว่า จะใช้เวลานานมาก และ ไม่รู้เลยว่า คืออะไร คิดเอาเองหมด .. OMG อีกครั้ง มันที่สุด ของทริปนี้ล่ะ บังคับรถ ลัดเลาะไปตามภูเขา ชมความงาม ของแมกไม้ หุบเขา เขาทำได้อย่างไร แวะที่น้ำตก บันทึกภาพ ที่สุด ..ของที่สุด ..กลับขึ้นมาเพื่อนในรถ หงุดหงิดกันทั้งคัน ..อืมก็มันไม่รู้ น้ออยากให้ลงไป แต่ว่า ดูแล้วมาจากยโส ทุกคน
  • อาหารกลางวัน ทำไมต้อง มาส่งที่ภัตตาคารในเมืองดาหลัด ด้วย ฮึดฮัด สุดๆ ก็อยากกินข้างทาง เราไม่อยากกินแบบทัวร์ .สุดท้าย ก็ต้องกิน เพราะแถวนั้นไม่มี .ไม่อยากบอก อร่อยทุกอย่างโดยเฉพาะผัดผัก . คือประทับ ใจ แล้วสมาชิกในกลุ่ม ผอ.นุช ลืมกล้องสุดที่รักไว้ที่ Roller Coaster เฮ้อ กลับไปหาอีกครั้งไม่เจอเลย

  •  จุดที่ 4 หลังทานข้าวจุดต่อไปคือ เยี่ยมชม โบสถ์ดาลัด ซึ่งเป็นโบสถ์คริสต์นิกายโบแตสแตท์สีชมพูอมส้มกัน โบสถ์หลังนี้สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ 1940 ตั้งอยู่บนเนินเขาใจกลางเมือง อืม ก็โอเค

  • จุดที่ 5  Garden Hydrangeas มีค่าเข้าไป รู้สึกจะ 30000 ดอง สวยมาก สุดลูกหูลูกตา ถ่ายรูปสวย สไลด์ขึ้นลงเขา
  • จุดที่ 6 จุดสุดท้าย เขาบอกเป็น landmark ในตัวเมือง อีกจุด เป็นลานกิจกรรมรวมสาธารณะ มาแวะกันที่ ห้างบิ๊กซี lam Vien square และ Doha coffee เป็นเหมือนรูปหอย มีที่ให้นั่งชิวๆ ทานกาแฟ เห็นแต่คนไทยทั้งนั้น ถ่ายรูปสวยๆกัน

  • ถึงที่พักโรงแรมทิวลิป ตามอัธยาศัย เดินเตร็ดเตร่ แถวนั้น นั่งฟังเพลง และเห็นคนไม่รู้มาจากไหน มากันที่ลานนี้ทุกเพศทุกวัย ทำกิจกรรมกันยิ่งดึกคนยิ่งเยอะ ..

  • กลับถึงที่พักโรงแรม Tulip1 นอนยาวไป กับทีมวุ่นวาย แสนสนุก Goodnight คืนนี้ ได้นอนโรงแรมเสียที

วันที่ 14 ตุลาคม 2561

  • ตื่นเช้า ทานอาหารอย่างเร่งรีบ เพื่อเดินทางต่อไป MuiNe ตอนแรกนึกว่ารถคันนี้ จะไปส่ง บขส. เพราะแจ้งทัวร์ไว้ แต่ว่า OMG ต้องนั่งรถคันนี้ไป โดยใช้เวลา 4 ชม. OMG อีกครั้ง
     

    • ด้วยสภาพถนนขรุขระ ตลอดเส้นทาง สองข้างทางลัดเลาะภูเขา ภูมิประเทศสองข้างทำให้รู้สึกสบาย สวย งดงาม และหยุดให้พักระหว่างทาง จิบกาแฟ และชา เข้าห้องน้ำ ว่ากันไป 

    • ช่วงใกล้จะถึง MuiNe มาก่อนเลย ภูเขาทะเลทราย  นั่งไปเรื่อยๆ ก็เจอทะเล .ความรู้สึกถึงความแตกต่างบอกได้เลย
    • พอถึง เหมาแท็กซี่ไปที่พัก MuiNe sport Hotel ห่างจากที่พัก 3 กม.ในราคา 100,000 ดอง ดีใจมาก นั่ง 7 คน แท็กซี่ ที่นี่ ซื่อสัตย์ทุกคันตามมิเตอร์เลย

    • เวลา 14.00 น. บริการเหมารถ Jeep เที่ยว คนละ 14 US มาตรงเวลา 2 คัน พวกเราแบ่งกันนั่ง 

    • จุดแรก Fairy Steam เดินฝ่าลำธารไปเรื่อยๆ เพื่อไปจุดที่สวยที่สุด แต่ด้วยความไม่เข้าใจไม่ศึกษามาก่อน และเขาให้เวลาจุดนี้ 15 นาที ทำให้ไปไม่ถึง แต่สัมผัสได้ถึง ทรายละเอียด และน้ำในลำธารที่ไหลผ่านเท้าไป  


    จุดที่สอง พามาขึ้นที่สูงชมอ่าว มองไกลๆ เห็นเรือประมงเต็มไปหมด ละลานตา เหมือนมดจำนวนมาก
    • จุดที่สาม  white sand ใช้เวลาเดินทาง เกือบ 30 นาที มีรถ ATV ขับไปส่ง จุดนี้ เด็กๆ เป็นคนขับ และพูดไม่ค่อยเพราะเลย (คิดถึง Thailand)  ไปส่งจุดที่จะชมพระอาทิตย์ คนละ 200,000 ดอง คุ้มค่ามาก ทะเลทรายสุดลูกหูลูกตา ทั้งลม ฝุ่น Properties Accessories ที่เตรียมไป หลุดลุ่ยหมดเลย
    •    จุดที่สี่ Red Sand อยู่ในตัวเมืองเลย ทะเลทรายสีแดง สวยงามมาก จุดนี้ต้องเดินขึ้นไป ถ่ายรูป ไม่มีรถ ให้เช่า
    • รถนำพวกเรามาส่งที่โรงแรม ประมาณ 6 โมงเย็น ล้างไม้ล้างมือไปทานอาหารค่ำกันที่ ร้านอาหารริมชายทะเล หมดเงินไป 6.7 ล้านดอง คิดเป็นเงินไทย หมื่นต้น ๆ OMG อาหารทะเลสดๆ อร่อย พร้อมกุ้งล็อบสเตอร์ 3 ตัว
    • กลับที่พักไปนอและเรานัดกันวันใหม่ ที่  5.30 น. โปรแกรมตกปลา ..พร้อมเสียงโอดโอย กลัวเมาคลื่น และเสียงขู่ จ่ายทัวร์แล้วคนละ 18 US ยังไงก็ต้องไป

    วันที่ 16 ตุลาคม 2561

    • ตีห้าครึ่ง เด็ก มารับให้เดินไปหลังโรงแรม ลัดเลาะเลียบทะเล  เรือประมงจอดห่างประมาณ 500 เมตร ต้องนั่ง เรือที่มีรูปร่างคล้ายขัน ไป รอบแรก 3 คน ก็เกี่ยงๆ กันไป , แต่รองสอง นั่ง 6 คน ขึ้นเรือ ได้บรรยากาศดีมากๆ ถ่ายรูปท่าโน้น ท่านี้ อืม เรือมันก็โคลง เคลงไปมา เริ่ม ร่วงทีละคน ทีละคน ปลากก็ตกไม่ได้ ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง เมาคลื่น เมาละเล ชี้เข้าฝั่ง Back Back  to land now คุณนุด คุณกด คุณสี ..อ้วก กลางทะเล 

    • ให้เวลา free time จนถึง บ่ายโมง เพื่อเดินทางกลับ HCM ก็ออกมาหน้าซอย สั่งอาหารทาน อร่อยมาก เฝอ เหมือนเดิม ก็ชอบอ่ะ แล้วเดินเลาะตลาด ซื้อผลไม้ ขนมพื้นเมือง เหมือนขนม แป้งทอด ทานกับน้ำจิ้ม ที่นี่ขาย mask ขับ motorbike กันเยอะมาก
      14.00 น. Sleep Bus มาถึง นอนกันยาวไป จนถึง HCM เมืองโฮจิมินห์ อืม รถนอนแวะจอด กลางทาง ให้เข้าห้องน้ำ พักประมาณ 30 นาที ใช้เวลาเดินทาง Mune-HCM 4.30 ชั่วโมง
    • ถึงที่พักประมาณ 1 ทุ่ม เดินลากกระเป๋าจาก จุดจอดรถ ลัดเลาะมาตามถนน คนเยอะ ที่ โฮจิมินห์ มีชีวิตชีวา มาก รถรถมอเตอร์ไซต์เยอะ และสกปรก ขายของริมฟุตบาท ที่พักอยู่ย่านกลางเมือง สะดวกสบาย ที่กินที่นั่ง เห็นวิถีคนเมือง

    วันที่ 17 ตุลาคม 2561

    • ทาน Breakfast ชั้น 7 มีอาหารให้ทาน พอดีๆ ตอนเช้า บรรยากาศ ก็อบอุ่นคุยหยอกล้อกันสนุกสนาน
    • จุดแรกไปตลาด Ben Thanh Market ก็คล้ายตลาด ขายทุกอย่าง ของที่ระลึก ชอบกระเป๋า สวยๆ ทั้งนั้น ตกใบละ 200-300 บาท จัดไป 10 ใบ เอิ่ม ให้เวลาน้อยจุง ขาช็อป บ่น

    • จุดที่สอง โบสถ์นอร์ทเธอดาม Notre Dame Cathedral โบสถ์แห่งนี้ได้รับการยกย่องว่ามีความงดงามที่สุดแห่งหนึ่งในเวียดนาม โดยในแต่ละวันมีนักท่องเที่ยวมาเยือนมากมาย ลักษณะของตัวโบสถ์เป็นรูปแบบของสมัยอาณานิคม มีหอคอยคู่สี่เหลี่ยมอยู่ด้านหน้าสูง 40 เมตร เป็นเอกลักษณ์ที่แสนสง่างามของโบสถ์แห่งนี้ ด้านหน้าโบสถ์มีรูปปั้นขนาดใหญ่สีขาวเด่นเป็นสง่าของพระแม่มารี (คัดลอก) มองด้วยตาก็สวยมากๆ ค่ะ
    • จุดที่สาม Saigon Central Post Office เป็นไปรษณีย์ที่ใหญ่ที่สุดของเวียดนามที่มีสถาปัตยกรรมที่สวยงาม แบบสไตล์ยุโรป กลิ่นอายตะวันตกที่ชาวฝรั่งเศสก่อสร้างช่วงปี1886-1891 ซึ่งปัจจุบันได้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งหนึ่งที่น่าสนใจของนครโฮจิมินห์ สวยสง่างามมาก ข้างในมีของที่ระลึกขายเยอะแยะมาก และ ยังรับส่งจดหมายได้ตามปกติ


    • จุดสุดท้าย อาคารแลนด์มาร์ค 81 (Landmark 81) ในนครโฮจิมินห์เริ่มเปิดใช้งานอย่างเป็นทางการแล้ว โดยเป็นตึกระฟ้า 81 ชั้น มีความสูง 461.5 เมตร แซงตึกแฝดเปโตรนาสทาวเวอร์ ของมาเลเซีย ขึ้นเป็นอาคารสูงที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเป็นอาคารสูงที่สุดอันดับ 14 ของโลก

    • เที่ยวบิน ของ Airasia HCM-DMK ต่อด้วย DMK-KKU (ห่างกัน 1.30 ชั่วโมง) โชคดี เครื่องบินไม่ดีเลย์แต่ก็หวาดเสียวน่าดู สุดท้าย จ่ายค่าฝากรถที่สนามบินขอนแก่น 5 วัน 750 บาท ถึงบ้าน สี่ทุ่ม ..

    ประทับใจมาก ทริปครั้งนี้ และดีใจที่สุดที่เราเขียน  บันทึกใน gotoknow ได้ ใช้เวลา 2 วัน เต็มๆ


    คำสำคัญ (Tags): #เวียดนาม#mune#hcm
    หมายเลขบันทึก: 655830เขียนเมื่อ 18 ตุลาคม 2018 05:55 น. ()แก้ไขเมื่อ 18 ตุลาคม 2018 19:58 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


    ความเห็น (0)

    ไม่มีความเห็น

    พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
    ClassStart
    ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
    ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
    ClassStart Books
    โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท