7 เวลาที่ควรล้างมือ


กลุ่มที่ใช้เจลล้างมือมีการติดเชื้อทางเดินอาหาร เช่น ไข้หวัด(ไวรัส)ลำไส้อักเสบ ฯลฯ ลดลง 60 %

การล้างมือด้วยสบู่เป็นการป้องกันการติดเชื้อที่ดีที่สุดวิธีหนึ่ง แต่ถ้าไม่มีอ่างล้างมือกับสบู่ การใช้เจลแอลกอฮอล์ก็ช่วยได้เหมือนกัน

การใช้เจลแอลกอฮอล์นี้เพียงแต่บีบเจลใส่ฝ่ามือเล็กน้อย ถูเบาๆ ให้ทั่วทั้งฝ่ามือ ซอกนิ้วมือด้านหน้า ซอกนิ้วมือด้านหลัง รอบนิ้วหัวแม่มือ กำมือทีละข้างแล้วใช้มือข้างตรงข้ามถู จบด้วยบริเวณนิ้วมือส่วนปลาย และทิ้งไว้ 25-30 วินาทีให้เจลแห้ง

เว็บไซต์ของศูนย์การแพทย์ลอเดสเฮลท์ (Lourdes Medical center of Burlington county, USA) กล่าวถึงการศึกษาครอบครัวที่ฝากเด็กไว้ที่สถานรับเลี้ยงเด็กจำนวน 292 ครอบครัว

กลุ่มหนึ่งใช้เจลแอลกอฮอล์ล้างมือ เฉลี่ยประมาณวันละ 5 ครั้ง อีกกลุ่มหนึ่งไม่ได้ใช้เจล

กลุ่มที่ใช้เจลล้างมือมีการติดเชื้อทางเดินอาหาร เช่น ไข้หวัด(ไวรัส)กระเพาะอาหาร-ลำไส้อักเสบ ฯลฯ ลดลง 60 % ส่วนการติดเชื้อทางเดินหายใจไม่ลดลง

ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้ล้างมือด้วยสบู่ในเวลาต่อไปนี้... ถ้าไม่มีโอกาสล้างมือจริงๆ ให้ใช้เจลล้างมือซึ่งมีแอลกอฮอล์เป็นส่วนผสมแทน

  1. หลังเปลี่ยนผ้าอ้อม                                   
    เนื่องจากมืออาจปนเปื้อนเชื้อจากอุจจาระ
  2. หลังใช้ห้องน้ำ                                          
    เนื่องจากมืออาจปนเปื้อนเชื้อจากอุจจาระ
  3. ก่อนแตะจมูก หรือรอบๆ ตา                         
    เชื้อโรคจากเสมหะ น้ำมูก น้ำลายคนอื่นที่ไอ จามแล้วติดที่มือ ไปหยิบจับสิ่งของต่างๆ ก็จะทิ้งเชื้อโรคไว้ เมื่อเราจับสิ่งของต่างๆ แล้วเกิดคันบริเวณตาหรือจมูก ไปสัมผัสบริเวณเหล่านี้เข้าก็จะติดเชื้อโรคได้ เช่น หวัด ไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ ฯลฯ
  4.  หลังแตะจมูก หรือรอบๆ ตา                         
    ท่านอาจจะสงสัยว่า ทำไมแตะจมูกแล้วต้องล้างมือ จมูกคนบางคนมีเชื้อโรคอาศัยอยู่ เช่น คนที่เป็นหวัด ฯลฯ บางคนก็มีเชื้อโรคอาศัยโดยไม่ติดเชื้อหรือเป็นพาหะนำโรค (carriers) เช่น เชื้อฝีหนองบางชนิด ฯลฯ เมื่อแตะจมูกแล้วใช้มือทำอะไรอย่างอื่น เช่น จับลูกบิดประตู ฯลฯ เชื้อโรคจะแพร่ไปยังคนอื่นได้ โดยเฉพาะคนที่ภูมิต้านทานต่ำ เช่น เด็ก คนสูงอายุ ฯลฯ
  5. ก่อนทำกับข้าว                                         
    การล้างมือก่อนทำกับข้าวช่วยป้องกันไม่ให้เชื้อโรคจากมือปนเปื้อนไปในอาหาร นอกจากนั้นควรล้างอาหารบางประเภท เช่น ไข่ ผลไม้(เช่น ส้ม ฯลฯ) ผัก ฯลฯ ด้วยน้ำยาล้างจาน เพื่อลดโอกาสติดเชื้อที่ติดมากับอาหาร เช่น บิดไม่มีตัว(ซาลโมเนลลา) ฯลฯ (ผู้เขียน)
  6. ก่อนกินข้าว หรือดื่มน้ำ                               
    การล้างมือก่อนกินข้าวหรือดื่มน้ำช่วยป้องกันเชื้อโรคที่ปนเปื้อนไปกับมือเข้าสู่ทางเดินอาหารได้
  7.  หลังเล่นกับสัตว์เลี้ยง                                 
    เชื้อโรคในสัตว์หลายชนิดอาจติดมาถึงคนเราได้ เช่น พยาธิ เชื้อโรคท้องเสีย ฯลฯ จึงควรล้างมือหลังเล่นกับสัตว์เลี้ยง

    คำแนะนำ:                                 

  • ล้างมือแล้ว > ให้ล้างก๊อกน้ำด้วย จึงจะสะอาดจริง...
  • ถ้ามีญาติหรือคนในบ้านไม่สบาย ทุกคนในบ้านควรล้างมือด้วยสบู่ให้บ่อยขึ้น เพื่อลดการแพร่กระจายโรค

  • ถ้าเข้าไปในสถานที่ที่มีคนอยู่มากๆ โดยเฉพาะในห้องปรับอากาศ เช่น ห้างสรรพสินค้า ฯลฯ ควรล้างมือหลังออกจากสถานที่ดังกล่าว
  • ควรล้างมือด้วยสบู่ก่อนเข้าบ้าน หรือทันทีที่เข้าบ้านทุกครั้ง เพื่อลดโอกาสแพร่เชื้อโรคจากนอกบ้านเข้าไปในบ้าน โดยเฉพาะถ้ามีเด็กเล็ก คนมีครรภ์ คนสูงอายุ หรือคนที่มีภูมิต้านทานต่ำในบ้าน เช่น คนที่ได้รับยากดภูมิคุ้มกัน (steroid) คนที่ติดเชื้อเอชไอวี ฯลฯ

  • หน่วยงาน โรงงาน หรือสถานที่ที่มีคนใช้ห้องน้ำวันละมากๆ ควรทำห้องน้ำแบบ "ซิกแซก (zigzag)" หรือห้องน้ำที่ไม่มีบานประตูเปิด-ปิด ให้มีที่บังตาแทน เพื่อลดโอกาสติดหวัด ไข้หวัดใหญ่ หรือโรคติดต่อที่ปนเปื้อนมากับฝ่ามือ...

    ขอแนะนำ...                                             

    แหล่งที่มา:                                      

  • ขอขอบคุณ > www.regardinghealth.com/oll/RHO/2005/11/Article.aspx?bmkEMC=21082 > Hand gels can keep your family healthy > November 2005. (Lourdes Medical Center of Burlington county, USA).
  • ข้อมูลและการอ้างอิงในบล็อก บ้านสุขภาพ มีไว้เพื่อส่งเสริมสุขภาพ และป้องกันโรค ไม่ใช่เพื่อการรักษาโรค
  • ท่านที่มีโรคประจำตัวควรปรึกษาหมอที่ดูแลท่านก่อนนำข้อมูลไปใช้
  • ขอขอบพระคุณ > อาจารย์เทวินทร์ อุปนันท์ IT โรงพยาบาลค่ายสุรศักดิ์มนตรี
  • ขอขอบพระคุณ > อาจารย์ ณรงค์ ม่วงตานี และอาจารย์เทพรัตน์ บุณยะประภูติ IT.
  • นพ.วัลลภ พรเรืองวงศ์ > จัดทำ ๗ พฤศจิกายน ๔๘ > แก้ไขปรับปรุง > ๑๑ กันยายน ๔๙ > 25 เมษายน 2550.
หมายเลขบันทึก: 6551เขียนเมื่อ 7 พฤศจิกายน 2005 15:31 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 17:12 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

ไม่อนุญาตให้แสดงความเห็น
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท