๘๐๘. ก้าวไกล..เพราะในหลวง


สิ่งหนึ่ง..ที่ไม่ต้องพิสูจน์ เพราะภาพจากอัลบั้มเชิงประจักษ์มองเห็นชัดเจน ตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๕๕๒..จากความกล้าที่ผมค่อยๆก้าว แบบที่ไม่ต้องแข่งกับใคร ศึกษาหาข้อมูลแล้วพัฒนาไปตามบริบทจากจุดเล็กๆ ขณะเดียวกันก็มุ่งมั่นและขยันหมั่นเพียร.. ด้วยการศึกษาศาสตร์แห่งพระราชา ประยุกต์ใช้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง..ทำให้ผมมีวันนี้...วันที่โรงเรียนเข้าถึง “คุณภาพ” ทางวิชาการ และทำงานได้อย่างคล่องตัว..

              ผมหยิบอัลบั้มที่สะสมภาพเก่าๆของโรงเรียน ก่อนปีพ.ศ.๒๕๔๙ เปิดดูไปทีละหน้า จนถึงวันที่ย่างก้าวเข้าสู่โรงเรียนขนาดเล็ก..วันที่หลายคนออกอาการสงสารและขำๆแกมสมเพชเวทนา ประมาณว่าคิดได้อย่างไร?

            ตอนนั้น..ตำแหน่งผู้บริหารสถานศึกษากำลังเฟื่องฟู เริ่มดูดีในสายตาชาวประชาทั่วไป ใครอยากก้าวไกล..ก็ต้องสอบไปเป็นผู้บริหาร..

            ณ เวลานั้น ๒๙ กรกฎาคม ๒๕๔๙..ผมไม่เคยคิดถึงคำว่า “ก้าวหน้าหรือก้าวไกล” คิดแต่ว่าอยากทำงานในที่เล็กๆสักแห่ง ที่สงบและเรียบง่าย ไม่ต้องไปวุ่นวายกับใคร ทำงานที่ใช่ ในสถานที่ที่ชอบ..ก็น่าจะทำให้ชีวิตมีความสุขได้..

            คิดเท่านี้จริงๆ เพราะก่อนหน้านี้ หน้าที่การงานก็ไปได้สวยงาม ผมเคยเป็นครูแล้วก้าวสู่ศึกษานิเทศก์ สอบไปเป็นเป็นผช.ผอ.ร.ร. ไปจนถึงการสอบได้ในตำแหน่ง ผช.หัวหน้าการประถมศึกษาอำเภอ..สุดท้ายก็จบลงที่ผู้อำนวยการโรงเรียน...

            ความรู้สึกตอนนั้นบอกว่า “พอ”กับตำแหน่ง แต่ไม่พอกับงานพัฒนาการเรียนการสอน..อันเนื่องมาจากการศึกษาวิชาชีพครู จึงไม่รู้สึกท้อ..เมื่อต้องเลือกอะไรที่เล็กๆ ไม่รู้สึกถอยเมื่อพบอุปสรรคและปัญหา..

            ภาพจากอัลบั้มเก่าตรงหน้า..เหมือนดูหนังขาวดำมัวๆ อาคารเรียนหลังเดียว และอาคารประกอบที่น้อยนิด ใช้เป็นห้องสมุดแคบๆ และโรงอาหารหลังคาสังกะสี..

            ภาพต้นไม้ก็มีพอสมควรบริเวณหน้าอาคาร แต่ต้นเล็กๆ จนทำให้อาคารชั้นเดียวดูสูงโดดเด่น สิ่งแวดล้อมโดยรอบดูกว้างแต่ไม่ร่มรื่น และแน่นอนที่สุดแหล่งเรียนรู้แห้งแล้งเหลือเกิน..

            ผมไม่เคยคิดจะเปรียบเทียบในเชิงผลงาน ก็แค่บันทึกภาพหลังจากนั้นเก็บไว้มากมายในรอบ ๑๐ ปีที่ผ่านมา  เพราะผมคิดว่า..การศึกษาคือความเจริญงอกงาม..ดังนั้น จึงไม่มีผู้บริหารและครูรุ่นไหนที่ปล่อยปละละเลย..ทุกรุ่น..น่าจะทำงานกันอย่างหนักด้วยซ้ำ

            ภาพที่หลากหลายก่อนปี ๒๕๔๙..ผมมองไม่เห็นศาลาท่าน้ำ และแปลงเกษตร ภาพถนนลูกรังเป็นหลุมและร่องน้ำ ผมจำได้ว่าเคยสะดุดก้อนหิน ที่โผล่พ้นดินขึ้นมา สิ่งที่จำได้ติดตาคือภาพห้องน้ำห้องส้วมนักเรียนที่โทรมจัด..มี ๑ หลัง ๔ ที่นั่ง ..แต่ก็อยู่กันมาได้..

            ผมหยิบอัลบั้มใหญ่ที่เริ่มสะสมภาพใหม่ไว้ตั้งแต่ปี ๒๕๕๐  แล้วพลิกดูร่องรอยการทำงานที่ผ่านมาเป็นลำดับ..ยิ้มให้กับความรู้สึกของตัวเอง ถามตัวเองว่าทำได้อย่างไร? และ มีแรงบันดาลใจอะไรหนักหนา..?

            ขำไม่ออก..เพราะรูปร่างก็เล็กและผอมเพรียว เอาเรี่ยวเอาแรงมาจากไหน?..หรือว่า..ตัวเล็กแต่ใจใหญ่ แต่ช่างเถอะ..มันก็ต้องใช้เวลาอยู่เหมือนกัน ที่ไม่เคยหยุดทำในแต่ละวัน..ต่อเนื่องและสม่ำเสมอมาตลอด...

            เริ่มจากภาพ..ก่อสร้างแปลงเกษตรถาวรที่สระน้ำ และสร้างฐานการเรียนรู้เกษตรอินทรีย์ด้านหลังโรงเรียน บ่อปุ๋ยหมักใบไม้กับศาลาผุดขึ้นมาเป็นดอกเห็ด..

            บ่อปลาดุกและปลานิล อยู่ไม่ไกลจากบ่อปลาสวยงาม เล้าไก่อยู่ใกล้กับแก๊สชีวภาพ โรงเห็ดหลังอาคารผสมผสานกลมกลืนกับห้องเรียนธรรมชาติ..

            ผมให้ความสำคัญกับโครงการอาหารกลางวัน จึงต้องปรับปรุงโรงอาหาร ที่มีห้องครัว โดยคำนึงถึงความสะอาดและสวยงาม จากนั้นก็ตามมาด้วยห้องสมุด “ลิ่มอติบูลย์”หลังใหญ่..ส่งท้ายให้แหล่งเรียนรู้และสิ่งแวดล้อมทั้งระบบโดดเด่นและลงตัว

            สิ่งที่น่าแปลกใจ..เมื่อกาลเวลาผ่านไปและต้นไม้เติบโตขึ้น อาคารเรียนหลังเดียวที่สร้างเมื่อปี ๒๕๒๓..ไม่เคยทรุดโทรมไปมากกว่าเดิม มิหนำซ้ำกลับสดใสมองแล้วสบายตา..หรือว่า..ผมเอาใจใส่และใช้หัวใจ “มอง” แต่มันเป็นเช่นนั้นจริงๆ...

            สิ่งหนึ่ง..ที่ไม่ต้องพิสูจน์ เพราะภาพจากอัลบั้มเชิงประจักษ์มองเห็นชัดเจน ตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๕๕๒..จากความกล้าที่ผมค่อยๆก้าว แบบที่ไม่ต้องแข่งกับใคร ศึกษาหาข้อมูลแล้วพัฒนาไปตามบริบทจากจุดเล็กๆ ขณะเดียวกันก็มุ่งมั่นและขยันหมั่นเพียร..

            ด้วยการศึกษาศาสตร์แห่งพระราชา ประยุกต์ใช้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง..ทำให้ผมมีวันนี้...วันที่โรงเรียนเข้าถึง “คุณภาพ” ทางวิชาการ และทำงานได้อย่างคล่องตัว..

            เคยรู้สึกว่าพอสมควรแล้วกับชีวิตนี้..แต่เมื่อนึกถึงคำพูดของผู้แทนพระองค์ที่บอกว่า..ในหลวงทรงรับสั่งให้มีกำลังใจในการทำงาน..ประกอบกับพระบารมีของพระองค์ท่าน ทำให้โรงเรียนได้อาคารเรียนหลังใหม่..จากธนาคารออมสิน..

            ชีวิตผม..จึงเหมือนได้ก้าวใหม่อีกครั้ง..และเชื่อว่าจะก้าวไกลกว่าเดิม เพื่อพัฒนางานการศึกษาในโรงเรียนขนาดเล็ก และจะก้าวไปพร้อมกับนักเรียนและชุมชน..โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง..อย่างแน่นอน.

ชยันต์  เพชรศรีจันทร์

๓  ตุลาคม  ๒๕๖๑

           

            

หมายเลขบันทึก: 654508เขียนเมื่อ 3 ตุลาคม 2018 20:33 น. ()แก้ไขเมื่อ 4 ตุลาคม 2018 06:41 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

ท่าน คือ ที่สุด ครับ ;)…

ผมระลึกถึง ดร.เกริก มุ่งมีกิจ ครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท